เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แมวของฉัน...และวันเวลาสีจางsawasjit
มีบุญ...สตอรี่
  • เมื่อสาวออฟฟิศต้องมาเจอกับแมวจรหมอนหมิ่น เรื่องราววุ่นๆจึงเกิดขึ้น

  • ตอน พบกันครั้งแรก

                    เวลายามบ่ายคล้อยอันเงียบสงบ สายลมอ่อนเบาพัดโชยผ่านช่องเล็กๆของผนังปูนเข้ามาฉันพลิกตัวนอนเหยียดยาวพลางอ้าปากหาวอย่างสบายอารมณ์  อ้อยอิ่งอยู่บนที่นอนอย่างรื่นรมย์ชีวิตอันแสนสุขของฉันเริ่มยังไง ก็สุดจะจดจำได้ ด้วยเวลานั้นล่วงเลยมานานหลายปี ฉันเติบโตแถวโรงงานย่านเมืองปากน้ำแฟตเตอรี่แลนด์ขนาดย่อม หากมีเนื้อที่กว้างขวางพอ ที่จะทำให้ฉันเดินเล่นได้สะดวกความที่อยู่มานาน ทำให้ฉันคุ้นเคยกับคนแถวนี้เป็นอย่างดี

                ยามอ้วนเจ้าของมอเตอร์ไซค์สุดเท่ห์ลุงยามแสนใจดีแต่ชอบใส่แว่นกันแดดแล้วนั่งหลับพนักงานโรงงานที่มีของอร่อยมาฝากฉันทุกเช้า นี่แหละชีวิตฉัน

                กิน นอนพักผ่อนเดินเล่นชิลๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อย่างเต็มที่ บ่ายนี้ก็เช่นกันถึงเวลาออกไปยืดเส้นยืดสายกันอีกแล้วฉันเดินผ่านซอกเล็กๆพอดีตัวของรั้วเข้าไปโรงงานหนึ่ง ด้านหน้าเงียบสงบ ลมพัดอู้เข้ามาจนขนหลังคอฉันปลิวระริกโต๊ะ เก้าอี้ด้านหน้าร้างไร้ผู้คน

                “อ้าว! เหมียวมาจากไหนล่ะเนี่ย?

                เสียงนุ่มของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากภายในห้องกระจกสีใส ฉันจึงหันไปมอง เห็นหล่อนยิ้มน้อยๆ พลางเลื่อนประตูกระจกออกมา

                “หิวป่าว?

                นี่หล่อนคงคิดว่าฉันเป็นแมวจรที่หิวโซเสียเต็มประดาล่ะซิ หล่อนดูทรวดทรงฉันก่อน เต็มไม้เติมมือขนาดนี้ และที่สำคัญฉันมีปลอกคอนะยะ

                “ฉันมีคนเลี้ยงย่ะ!ฉันไม่ได้มาขออาหารหล่อนหรอกนะ ฉันมาเดินเล่น!

                “จะไปไหนล่ะเหมียวมานี่ก่อน

                หล่อนร้องเรียก แต่ฉันเดินหน้าเชิดเข้าไปในโรงงานอย่างสวยๆ ปลายหางชี้ตรงอย่างสาวมั่น

                “กลับมาคุยกันก่อนสิเหมียวจะรีบไปไหน ยังไม่รู้จักชื่อเลย”

                ดูหล่อนซิ...ยังจะมาเซ้าซี้ถามโน้นนี้ น่ารำคาญ คิดหรือว่าสาวสวยอย่างฉัน จะบอกชื่อเสียงเรียงนาม กับคนแปลกหน้าง่ายๆ

                “ไม่มีทางเสียหรอก!

                ฉันใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายนั้นขึ้นไปนอนบนกองกระดาษสูงๆ ในมุมที่ลับตาคน ทำไมนะรึ...ก็มันเงียบสงบดีนะซิ ถึงแม้จะมีเสียงเครื่องจักรทำงานดังครื้นๆบ้าง แต่ฉันก็ชินเสียแล้วล่ะ บางครั้งก็ฟังเพลินจนหลับยาวไปหลายชั่วโมง แต่วันนี้ฉันนอนได้ไม่นาน ก็เลยเดินย้อนออกมาทางเดิม พอถึงหน้าห้องกระจกใส จึงปรายตาเข้าไปมองเห็นเจ้าหล่อนคนนั้น เห็นนั่งทำงานอยู่ รูปร่างหล่อนบอบบาง ผิวขาวซีดๆแต่งตัวเหมือนสาวออฟฟิศทั่วไป ที่สำคัญหล่อนสวยน้อยกว่าฉัน!

              “คิก คิก!

    ฉันระบายยิ้มอย่างมีเลิศนัย เมื่อหล่อนในห้องกระจกหันมามองพลางลุกขึ้นเปิดประตูก้าวออกมา

                “เหมียวเจอกันอีกล่ะหิวไหมเนี่ย”

    หล่อนไม่พูดเปล่าแต่กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ก่อนจะออกมาพร้อมของที่กินได้อะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้จัก มันไม่ใช่ปลาทูไม่ใช่อาหารเม็ด...แต่มัน

    “ หวานๆหอมๆ อร่อยจังฮู้”  

     ผู้เขียนเรื่องราว: #เจ้าจันทร์ ทาสแมวตัวจ้อย 

                

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in