Be Melodramatic เป็นซีรีส์ที่เก็บทุกเม็ดหน่วยในห้วงวัย 30 บอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านการเฝ้าสังเกตมาอย่างดิบดี กระบวนการการแปรเปลี่ยน ผันแปร ความสับสนวุ่นวายในชีวิตมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดมาพร้อมกับมิตรภาพ ความรัก ความรับผิดชอบ รวมไปถึงเรื่องต่าง ๆ 

            ตลอดบทสนทนาที่ไปคนละทิศละทาง เผยให้เห็นถึงความซับซ้อน ความแตกต่าง ความหลากหลายของคนเรา แต่เอาเข้าจริง ๆ สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันเหล่านี้ กลับนำมาซึ่งปรัชญาชีวิตอันลึกซึ้ง ความเข้าใจอันเรียบง่ายในความสัมพันธ์ พร้อมทั้งการเคารพตัวตนซึ่งกันและกัน 

            เราชอบที่เค้าลงดีเทลในเรื่องที่ซับซ้อน แต่บอกเล่าผ่านการกระทำธรรมดา ๆ ทั้งการเดินไปบนถนนที่ทอดยาว บทสนทนาเรื่อยเปื่อยบนโต๊ะกินข้าว หรือแม้กระทั่งภายใต้ความเงียบขณะอยู่ด้วยกัน เค้านำเสนอเรื่องราวชีวิตที่ต้องใช้เวลาตกตะกอนและทำความเข้าใจ ความสัมพันธ์ที่เรามองเห็นจากทั้งสองฝ่ายถูกนำเสนอผ่านมุมมองของคนที่เข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้ง แล้วค่อย ๆ ถ่ายทอดให้เราในฐานะคนดู ได้มีโอกาสย่อยสารนั้น ๆ อย่างมีชั้นเชิง 

            ปัญหาแต่ที่ละตัวละครเจอ ไม่ว่าจะเป็นความรัก การงาน การใช้ชีวิต หรือแม้แต่ประเด็นที่อ่อนไหว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนดูสามารถ relate ได้เป็นนัย ๆ และสิ่งที่ผู้กำกับ "อีบองฮยอน" และนักเขียนบท "อียองยอง" ทำให้เราเห็นทั้ง 16 ตอน ไม่ใช่การบอกว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด แต่เผยให้เห็นการดำเนินไปของชีวิต แต่งแต้มไปด้วยทุกข์สุข คละเคล้าเสียงหัวเราะและน้ำตา ที่พร้อมจะทำให้เราเป็นกำลังใจให้ทุกคน

            นอกจากเส้นเรื่องที่บาลานซ์ความตลกควบคู่ไปกับความจริงในสังคม ซีรีส์เรื่องนี้มีวิธีนำเสนอตัวละครได้อย่างมีเสน่ห์ ทุก ๆ คนมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นและชัดเจน มีเส้นเรื่องที่น่าค้นหา เราชอบที่เค้าหยิบจับกลุ่มคนที่แตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน แล้วค่อย ๆ แตกประเด็นชีวิตของทุกคน มันทำให้เราเห็นและเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์มากยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้นยังทำให้เรา value ความสัมพันธ์ที่เรามีอยู่รอบข้างอย่างแท้จริง เราจึงชอบที่เค้าสื่อสารผ่านสิ่งที่ทุก ๆ ตัวละครได้พบเจอ

             ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ทิ้งความสงสัยไว้เป็นปมใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ใจจดใจจ่อไปจนจบคือความเป็นธรรมชาติ จังหวะการดำเนินเรื่องที่สอดแทรกมุกตลกในกิจวัตรประจำวัน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด ความตลกร้าย หรือแม้กระทั่งการตีแผ่อุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง รวมไปถึงฝ่ายต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโปรดักชั่น เรารู้สึกว่า Be Melodramatic เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่แฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ ชนิดที่เราเองก็คาดไม่ถึง หรืออาจหลงลืมสิ่งเล็ก ๆ เหล่านั้นไปบ้างเหมือนกัน :) 

            เราชอบการเล่าเรื่องในตอนจบมาก ทุกอย่างวนลูปกลับมาเหมือนกับว่าผู้กำกับกำลังถ่ายทอดกระบวนการการผลิตซีรีส์เรื่องนี้ เสมือนเป็นซีรีส์ซ้อนซีรีส์อีกทีนึง ชอบความครีเอทในการเก็บแต่ละ พาร์ท เราว่ามันเก๋มาก และเค้าทำออกมาได้อย่างสมูท ไล่มาตั้งแต่ตอนจบของนักเขียนจองจนถึงตัวคุณแจฮุน 

            ฉากที่ชอบเป็นพิเศษคือฉากที่ฮันจูคุยกับแจฮุนที่บาร์ เราว่าเป็นฉากที่ทำให้ฉุกคิดและเตือนสติอยู่นัย ๆ ตัวละครแจฮุนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของความสัมพันธ์ที่บั่นทอน ความรักที่ทำร้ายจิตใจกันไปมา เราจึงประทับใจที่มีฉากเรียกสติ ให้ตัวละครนี้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ทำลงไป เราจึงรู้สึกขอบคุณผู้กำกับและนักเขียนบท ที่ให้แจฮุนได้ทบทวนและเรียนรู้ว่าตัวเค้าเองก็เป็นอีกคือสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์พังทลาย

            ส่วน Memorable scene ของเรา คงจะเป็นฉากสุดท้ายระหว่างอึนจูกับผู้กำกับคิม มันเป็นเคมีที่มีเสน่ห์มาก ๆ ยังคงเป็นฉากที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยบทสนทนาที่กินใจ เราชอบการเจอกันของจอนยอบินกับซนซอกกูมาก ๆ เป็นอีกสองนักแสดงมากฝีมือ แค่คำพูดไม่กี่ประโยค หรือแม้กระทั่งสายตาที่มองในแต่ละฉาก ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนั้น ๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบันทึกซีรีส์ของเรานะคะ Be Melodramatic เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราใจฟูมาก ๆ ขณะดู หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในความประทับใจของหลาย ๆ คนนะคะ :)