เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แล้วชีวิตปกติสุขของผมก็หายไปuryd1999
4 พวกเขามาแล้ว

  •  
                    “วันนี้จะมีเพื่อนใหม่เข้ามาเรียนห้องเรานะพวกเธอเข้ามาได้แล้ว”อาจารย์ที่ปรึกษาเริ่มพูดก่อนที่นักเรียนจะพากันซุบซิบอย่างน่ารำคาญวันนี้เป็นวันที่สเวนมาเช้า ก็อย่างที่บอกสเวนไม่ได้มาสายทุกวันไม่ได้มาเที่ยงทุกวันด้วย วันที่มาเช้าแบบนี้ก็มีเหมือนกัน เด็กหนุ่มนัยน์ตาสองสีนั่งนิ่งๆไม่สนใจรอบข้างพยายามไม่สบตาใครเหมือนกันเพราะเมื่อเขาเผลอไม่สบตาใครเข้าก็มีแต่จะทำให้คนๆ นั้นหวาดผวาและสยดสยอง
                    “สวัสดีทุกคนผมเองนะครับ ฮ่าๆๆ สงสัยใช่ไหมล่ะว่าผมชื่ออะไร ผมก็คือฮันท์ครับผมถ้าให้เล่าเรื่องตัวเองก็คงยืดยาวน่าดูแต่เอาเป็นว่าผมย้ายมาที่นี่เพราะจะมาตามหาเรื่องสนุกๆ น่ะครับ ปกติแล้วเรียนโฮมสคูลก็ไม่เคยมาโรงเรียนแบบนี้เหมือนกัน ฝากตัวด้วยนะ” เสียงที่คุ้นๆทำให้สเวนมองไปที่นักเรียนใหม่แล้วก็แทบตาถลน เมื่อนักเรียนใหม่ทั้งสองคนคุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นตีนกันมากเลยทีเดียว นั่นมัน...
                    “ว่าไงไอ้พวกโง่ทั้งหลาย...” เจ้าของผมสีแดงเพลิงซึ่งสวมหมวกแก๊บทับไว้เปล่งเสียงดังลั่น
                    “เฮ้ยจะบ้าหรอ”ฮันท์ตบหัวโจชัวจนทิ่ม ก็หมอนั่นดันทักทายอย่างหยาบคายต่อหน้าทุกคนทั้งที่เจอกันครั้งแรกก็ไม่แปลกที่จะถูกเกลียด สเวนเห็นสองคนนี้ก็อดขำไม่ได้ พวกเขามาที่นี่ได้ยังไงนะสเวนอดสงสัยในใจไม่ได้
                    “อ่อ...โทษทีฉันชื่อโจชัว ปกติเรียนอยู่ที่โรงเรียนอื่น แต่ว่าฉันจำชื่อโรงเรียนเก่าไม่ได้หรอกเพราะไม่ค่อยได้ไป เดือนหนึ่งก็ไปโรงเรียนแค่สองวันเท่านั้นแหละส่วนใหญ่ก็เลือกไปวันเสาร์กับวันอาทิตย์เพราะว่าเงียบสงบดี ไม่มีคนมากวนส้นด้วยเออ นั่นแหละ ฝากตัวด้วยนะไอ้พวกบ้าทั้งหลาย...”หยาบคายและอารมณ์ร้อนจนถึงที่สุดจริงๆ
                    “อู้ยแก...หล่อทั้งคู่เลยฮันท์ดูหล่อขี้เล่น แถมตาสีฟ้าด้วยฉันชอบแบบนี้สุดๆ ฝรั่งมาก”
                    “แกดูโจชัวดีๆสิ เขาหล่อกว่าฮันท์อีกนะ เห็นผมสีแดงนั่นไหมล่ะ โคตรเท่ห์ ฉันอยากให้เขาถอดหมวกแก๊บออกจังเลยแถมยังเถื่อนได้ใจด้วยอ่ะ”
                    “ฉันหลงเสน่ห์ดวงตาของฮันท์มากกว่าอ่ะดิ”
                    “ถ้าพูดถึงดวงตาห้องเราก็มีคนตาแปลกๆ อยู่คนนึงไม่ใช่รึไง ตาสองสีอ่ะ”
                    “โอ๊ยอันนั้นมันน่ากลัวจะตาย อย่างกันปีศาจ ถ้าขืนเข้าใกล้จะโชคร้ายไปทั้งชีวิต”
                    สาวๆก็เริ่มอภิปรายเรื่องชายหหนุ่มกันไปตามประสาแต่สเวนก็เข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาเล็กน้อยและเป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกดีใจที่มีคนพูดถึงตัวเองด้วยก็ไม่ใช่เรื่องดีเหมือนเดิมล่ะนะ
                    “ฉันจะนั่งตรงนี้”โจชัวเดินเข้าไปพูดกับคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ สเวนอย่างไม่ให้ตั้งตัวเขาเป็นเด็กเนิร์ดคนหนึ่งที่นั่งหน้าสุด และไม่ได้อยากนั่งใกล้สเวนนักหรอกทำให้เขายอมสละเก้าอี้ให้อย่างง่ายดาย
                    “งั้นฉันขอนั่งตรงนี้ได้ไหมสาวน้อย”ฮันท์เดินไปสะกิดคนที่นั่งด้านหลังสเวนเพื่อขอนั่งที่ของเธอเป็นสาวร่างท้วมที่ชอบแอบหลับจึงมานั่งด้านหลังสเวนเพราะเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ หล่อนก็ไม่ได้อยากนั่งใกล้สเวนเช่นกันจึงยอมสละเก้าอี้อย่างปลื้มใจที่โดนเรียกว่าสาวน้อย(ทั้งที่น้ำหนักไม่น้อยเลย)
                    “ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอพวกนายอีกแล้วนะเนี่ยJ ” สเวนยิ้มร่าและนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยิ้มขณะที่อยู่ในห้องเรียน เพื่อนๆที่บังเอิญเห็นแทบจะเป็นลมล้มชัก โลกคงจะแตกแล้วใช่ไหมที่คนมืดมนเช่นนั้นระบายยิ้มออกมา
                    “อยู่กับพวกนายแล้วสนุกดีผมก็เลยตามหาที่อยู่ของสเวนแล้วก็ย้ายมาอยู่แถวนี่น่ะ”ฮันท์เสนอหน้าพูดอย่างมีความสุข
                    “ฉันอยากเจอนายแบบสุดๆเลยล่ะไอ้เพื่อนรัก นายเป็นเพื่อนสนิทคนแรกและคนเดียวที่ฉันมีเลยนะเฟ้ย”โจชัวพูดพลางเช็ดน้ำตาอย่างใส่อารมณ์ ก็ยังเป็นคนอารมณ์รุนแรงไม่เปลี่ยนไปเลยสินะ
                    “ฉันดีใจยังไงก็ไม่รู้สิฮ่าๆๆ ”
                    เปรี้ยง!!!
                    เหมือนกับฟ้าผ่ากลางแดดจ้า             
                    วินาทีที่คนมืดมนอย่างสเวนปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเพื่อนๆ ในห้องที่จับจ้องเขาอยู่แทบจะลืมหายใจและตายไปจากโลกนี้นี่มันวันบ้าบออะไรกัน ฟ้าจะถล่มดินจะทลายแล้วงั้นหรอคนที่หน้าตามืดมนในทุกวินาทีบัดนี้กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข มายก็อด


     
                    โรงอาหาร
                    “ปกติฉันไม่กินข้าวที่โรงอาหารหรอกนะเพราะคนมันเยอะน่ะ” สเวนเอ่ยขึ้นขณะที่ทุกคนนั่งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
                    “ฉันด้วย”โจชัว
                    “ผมเหมือนกัน”ฮันท์
                    “เช่นกันเลยล่ะ”ไบรอัน
                    “เฮ้ย...เดี๋ยวสิทำไมไอ้อั้นอึถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ แกมาได้ยังไงฉันอุตส่าห์สวดมนต์ทุกคืนว่าอย่าให้ได้เจอแกอีก ไอ้อั้นอึเอ๊ย”โจชัวที่เห็นไบรอันนั่งอยู่ตรงกันข้ามก็เปิดศึกน้ำลายทันที
                    “คิดว่าฉันอยากเจอแกมากหรอฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะแกหรอกนะไอ้ชั่ว”  
                    “โจชัวเฟ้ยโจชัว”
                    “ทะเลาะกันเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”สเวนพูดอย่างสนุกสนาน
                    “ขอนั่งด้วยนะพวกนายแปลกใจที่เจอ ทุกคนเลย” เสียงของผู้มาใหม่พร้อมจานข้าวที่กระแทกลงข้างๆ
                    “เฮ้ย/ อ้าว / เธอ / หยึ้ย”เสียงประสานของสี่หนุ่มดังขึ้นพร้อมกันแต่คนละอารมณ์นิดหน่อย
                    “สเวนหยึ้ย นี่หมายความว่ายังไง รังเกียจฉันมากสินะ”สายตาอาฆาตของเอวาถูกส่งมาที่สเวนแบบจังๆ
                    “เดี๋ยวก่อนเลยเธอก็ตามพวกเรามาหรอยัยผู้หญิง” โจชัวเริ่มหาเรื่องคนอื่นอีกครั้ง
                    “บ้ารึเปล่าฉันเข้าเรียนที่นี่ก่อนพวกนายตั้ง 1 วันนะยะแถมวีรกรรมของฉันยังสุดเปรี้ยว” เอวาเหล่ไปมองกลุ่มรุ่นพี่ที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลซึ่งก็คือรุ่นพี่ที่เอวาจัดการไปเมื่อวาน แค่นึกถึงสเวนก็ขนลุกขนพอง
                    “แค่นั้นทำเป็นคุยว่าแต่เธอเกลียดผู้ชายนักไม่ใช่รึไง วันนั้นยังบอกว่าพวกฉันเป็นแค่ลิงอยู่เลย”โจชัวไม่ยอมแพ้จะเถียงให้ชนะให้ได้
                    “ลิง...อ่อนั่นถือว่าฉันให้เกียรตินะ เพราะปกติฉันเห็นผู้ชายเป็นพวกมดปลวก”
                    “...”ไม่มีใครตอบโต้อีกแล้ว โจชัวเองก็รู้สึกอิ่มเอมกับคำว่าให้เกียรติจนลืมแปลผลทั้งประโยค
                    “พวกเพื่อนผู้หญิงห้องฉันมันน่ารำคาญน่ะเอาแต่นินทาคนอื่น ฉันไม่ค่อยอิน”
                    “ผู้หญิงมักจะเป็นอย่างนั้น”ไบรอันขยับแว่นสี่เหลี่ยมของตนเอง พร้อมเปิดบทพูดขึ้นมาบ้าง
                    “แต่ฉันไม่ชอบนี่นาและฉันก็ไม่เป็นด้วย ฉันมีวิธีจัดการความอิจฉาด้วยการลงมือมากกว่าเอาไปพูด”
                    “น่ากลัว~”ฮันท์กับสเวนพูดขึ้นพร้อมกัน โจชัวที่ไม่ค่อยปลื้มผู้หญิงนักก็เบะปากอย่างหมั่นไส้
                   ติ้ง ติ่ง ติ้ง ติ่งติ่ง ติ้ง ติ้ง ติง
                    เสียงห้องประชาสัมพันธ์ดังขึ้นระหว่างที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารอยู่ทำให้นักเรียนใหม่ที่ไม่รู้จักว่าคืออะไรก็สงสัยเล็กน้อยทุกคนเงยหน้าขึ้นและเงียบฟัง
                    ‘ขอให้นักเรียนที่มีรายชื่อต่อไปนี้มาที่ห้องปกครองพิเศษด้วยค่ะ1.สเวน ควินน์ 2. เอวา และเรียนเชิญนักเรียนตัวอย่างควบตำแหน่งนักเรียนโคตรดีเด่นคุณไบรอัน มาที่ห้องเกียรติคุณด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ’
                    “นั่นมันหมายความว่ายังไงอ่ะ” เอวาถามอย่างไม่เข้าใจ
                    “อันที่จริงห้องปกครองพิเศษกับห้องเกียรติคุณมันก็ห้องเดียวกันละนะแต่สำหรับคนที่จะโดนลงโทษจะเรียกว่าห้องปกครองพิเศษแต่คนที่จะโดนให้รางวัลจะเรียกว่าห้องเกียรติคุณ” ไบรอันอธิบายอย่างเข้าใจง่ายสเวนที่เรียนที่นี่มาห้าปี ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้เหมือนกัน
                    “นายย้ายมาเรียนที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมได้เป็นนักเรียนดีเด่นเร็วจัง” ฮันท์เจ้าของผมสีควันบุหรี่ที่มีนิสัยแสนจะร่าเริงถามไบรอันอย่างสงสัย 
                    “เมื่อเช้านี้”
                    “OMG!มันกู้โลกไว้รึไงฟะ” โจชัวโพล่งออกมาเมื่อรับรู้ความจริง


                   
                    และด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้แต่เหล่าเพื่อนพ้องก็พากันมาที่ห้องปกครองพิเศษกันทุกคน ทั้งสเวน เอวา ไบรอันโจชัว ฮันท์ ทุกคนนั่งหน้าสลอนอยู่ในห้องปกครองพิเศษ
                    “ก็อย่างที่รู้กันว่าเมื่อวานมีเรื่องเกิดขึ้นในโรงเรียนเป็นการทำร้ายร่างกายนักเรียนซึ่งนักเรียนกลุ่มนั้นบอกว่าทะเลาะกันเอง แต่กลับมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ แล้วนี่คือภาพทั้งหมด...”
                    “ว้าว...เห็นทุกชอตเลยเหมือนไปตั้งกล้องรอถ่ายเลยนะ” เอวาพูดอย่างชื่นชม
                    “เขาเป็นอาจารย์คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ฝ่ายปกครองพิเศษนั่นไง มาแล้วเซนทีชเชอร์~ ไฮ แอมไฟ แต้งกิ้ว แอนด์ยู? ”อาจารย์เข้าไปทักทายกับครูใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องปกครอง...
                    “เซนเดฟ!!!” ห้าเสียงประสานกันอย่างเป็นทางการนี่คือความสามัคคีเล็กๆ น้อยๆ เซนเดฟอมยิ้มเล็กน้อย เมื่อเด็กๆ  ของเขายังคงจำใบหน้าและชื่อเสียงของเขาได้อยู่
                    “จะบ้าหรอพวกเธอไปตะโกนใส่อาจารย์แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดมารยาทจ้ะ มารยาท ถึงเซนเดฟจะเป็นฝรั่งแต่เราก็ต้องรักษามารยาท เข้าใจ๊?” 
                    “ไม่เป็นไรหรอกครับงั้นที่เหลือผมจะจัดการกับเด็กๆ ให้เองแล้วกันนะครับ ตามที่ตกลงกันไว้”เซนเดฟพูดอย่างละมุนละไมทิ้งคาแรกเตอร์ยมทูตพะรุงพะรังทิ้งไปอย่างสิ้นเชิงตอนนี้เซนเดฟสวมสูทสีดำสนิท ด้านในเป็นเชิ้ตสีกรมท่า เป็นสีประจำโรงเรียนเสียด้วยเข้ากับโรงเรียนอย่างมากทั้งผมสีบลอนด์เป็นประกายที่เคยปล่อยสลวยก็มัดขึ้นสองทบไว้ด้านข้างเผยหน้าหวานๆให้หลายคนได้เห็นชัดๆ ดูสมเป็นชายชาตรีที่หน้าหวานปานน้ำผึ้งไปอีกขั้นสลัดคาบยมทูตไปอย่างสิ้นเชิง
                    “อ่อครับงั้นผมขอตัวแล้วกันนะครับ” อาจารย์คนก่อนเดินจากไป ส่วนเซนเดฟก็บอกให้ทุกคนตามมาที่ห้องพักส่วนตัวของหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายปกครองพิเศษและนั่นคือตำแหน่งของเซนเดฟในโรงเรียนแห่งนี้
                    “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะเด็กๆ”

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in