เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จิปาถะtubtimptt
Equinox
  • คังแดเนียล อายุ 38 ปี อาชีพ ศัลยแพทย์

    ในความเงียบสงบยามเช้าของเมืองเล็กๆ อากาศในฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยสีสันของสีส้ม แดง เหลืองหรือจะเป็นสีเขียว ไล่เฉดสลับหลายหลากชวนให้มอง

    แดเนียลออกตัววิ่งท่ามกลางสายลมเย็นๆยามเช้าที่พัดพามาเป็นครั้งคราว พื้นถนนสีแดงอิฐตัดกับรองเท้าสีขาว เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นอิฐเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ปรับลมหายใจไปพร้อมๆกับปล่อยความคิดให้ล่องลอย

    เมืองในมุมเดิมๆ ภาพเดิมๆ อารมณ์เดิมๆที่บางครั้งชวนให้เบื่อหน่ายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่นี่มีความสงบที่เขาตามหา การหลีกหนีออกจากผู้คนและบ้านเรือนแต่ละหลังห่างกันพอสมควรที่จะไม่รบกวนการใช้ชีวิตของกันและกัน

    แดเนียลชอบมัน

    เพราะห่างไกลจากสิ่งที่จะมาสั่นคลอนอะไรบางอย่างในหัวเขา

     

    ทว่าในเช้าวันที่ไม่แตกต่างไปจากเมื่อวาน

    บางสิ่งก็ปรากฏตัวออกมา

     

    สิ่งที่จะสั่นคลอนสิงโตในหัวเขา

     

    แดเนียลใช้ผ้าที่คล้องคอซับหยาดเหงื่อบนใบหน้า กำลังจะเปิดรั้วเข้าบ้านหลังจากที่หยิบหนังสือพิมพ์และนมสดที่มักจะมาส่งทุกเช้า หูพลันได้ยินเสียงรถยนต์ที่คนแถวนี้มักจะไม่ค่อยใช้กัน

    รถคันนั้นจอดลงที่บ้านสีขาวๆข้างๆที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยมานานแล้ว ประตูเปิดออกและใครบางคนก้าวเดินออกมา ใบไม้สีเหลืองแดงพลิ้วไหวตามจังหวะลม

    รองเท้าหนังสีแดงเปิดเปลือยข้อเท้าขาว

    ใบไม้ร่วงหนึ่งใบ

    หัวใจกระตุกหนึ่งครั้ง

    และจังหวะก้าวเดินที่เชื่องช้าเพียงก้าวเดียว

     

    สัตว์ร้ายคำรามลั่นในหัว

     

    แดเนียลมองตามข้อเท้าเล็กๆที่สลับไปมา จังหวะก้าวเท้า เส้นเลือดและกระดูกข้อเท้า ทั้งหมดรวมกันทำให้หัวใจเต้นรัว ไล่เลื่อยขึ้นมาที่เรียวขาเล็กๆ กางเกงสีน้ำเงินแค่เข่า เอี๊ยมหนังสีน้ำตาล เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายตารางสีครีม ลำคอเรียวและใบหน้าที่ดูเหมือนรูปสลัก

    เด็กคนนั้นสังเกตเห็นเขาที่ยังคงยืนนิ่ง ริมฝีปากบางแย้มยิ้มก่อนจะเดินมาทางเขา

    “คุณลุงอยู่บ้านข้างๆใช่มั้ยฮะ สวัสดีครับ”

    “ผมชื่อ องซองอู”

    “เพิ่งย้ายมาวันนี้วันแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ”

    โค้งตัวให้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้กับเขา แดเนียลยิ้มรับ มองเลยไปทางอีกคนที่อยู่ข้างหลังเด็กคนนี้ ก่อนจะก้มศีรษะทักทายกันเล็กน้อย

    “ยินดีต้อนรับ”

    “ที่นี่คงจะดูน่าเบื่อหน่อยนะ”

    “เอานมไปกินสิ”

    เอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กๆที่แนบอยู่ข้างกางเกงสีน้ำเงินเนื้อดีนั่น สัมผัสแผ่วเบาและโอนอ่อนตามมาอย่างง่ายดาย วางขวดนมลงบนฝ่ามือที่มองแล้วน่าจะนุ่มนิ่มเหมือนมือของทารก

    “ขอบคุณครับ”

    สบตากับดวงตากลมๆที่มองมาอย่างสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะปล่อยมือ แดเนียลยิ้มก่อนจะยอมปล่อยนิ้วที่กำรอบข้อมืออย่างอ้อยอิ่ง เชื่องช้า แผ่วเบา เท่าที่เขาจะบังคับตัวเองได้

    เด็กน้อยโบกมือลาเขาและแดเนียลยิ้มรับ ก่อนจะพาตัวเองเดินผ่านรั้วเข้าบ้าน ได้ยินเสียงใสๆแว่วมาเข้าหูว่าโชคดีได้เจอคุณลุงหน้าตาใจดีอยู่ข้างบ้าน

    โชคดี?

     

    ในเช้าของวันที่กลางวันเท่ากับกลางคืน

    แดเนียลพบเจอกุญแจที่มาไขประตูกรงขังสัตว์ร้ายของเขา

    กุญแจดอกนั้นอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ

     

    ส่วนหนึ่งบอกไม่ให้ยุ่งเกี่ยว ออกหนีให้ห่าง

    แต่อีกส่วนหนึ่งที่อยู่ลึกลงไป ฝังรากลึกลงในจิตใจ

    แย้มพรายเอื้อนเอ่ยออกมา

     

     

    คว้ามาให้ได้

    เอามา

     

     

     

     

    คังแดเนียลรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองมีสิ่งผิดปกติที่ไหนซักแห่งในหัวของเขา ตั้งแต่เด็กเขาชอบมองส่วนเล็กๆอย่างรอยต่อของตุ๊กตา สงสัยใคร่รู้ในการเชื่อมต่อของมัน ชิ้นส่วนเล็กๆที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตทำหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตประจำวัน

    มนุษย์ทำสิ่งต่างๆได้สะดวกยิ่งขึ้นเพราะมีมือ จุดเชื่อมต่อระหว่างมือกับแขนก็คือกระดูกข้อมือ ชิ้นส่วนแสนสำคัญที่แดเนียลหลงใหลมันเช่นเดียวกับข้อเท้า

    แดเนียลค้นพบความหลงใหลนี้ตอนที่แม่ของเขาพาไปหาญาติ ระหว่างที่บรรดาแม่ๆคุยกันในเรื่องของค่านิยมของผู้ใหญ่ที่พวกเขาหลงคิดว่ามันสำคัญนักหนาแต่ไร้สาระเกินกว่าจะน่าสนใจสำหรับแดเนียล เขาหันไปนั่งเล่นกับเด็กทารกที่อยู่ในรถเข็น

    สัมผัสอุ่นจัดของมือเล็กๆ นิ้วขนาดจิ๋วที่กำรอบนิ้วทำให้หัวใจเต้นถี่จนต้องใช้มือกุมอก มองมือเล็กๆนั่นเหมือนถูกสะกด ก่อนที่เสียงกระดิ่งจากข้อเท้าจะดังขึ้น ดึงแดเนียลให้หลุดออกจากภวังค์เพื่อให้จมดิ่งกับห้วงอารมณ์ครั้งใหม่ ข้อเท้าสีชมพูที่เป็นที่เกาะเกี่ยวของกระดิ่งนั่นกำลังยกขึ้นไปมา

     

    บอบบาง

    นุ่มนิ่ม

    อุ่นจัด

     

    อยากจะกำแรงๆ

    อยากจะได้

    อยากจะเอามาเป็นของตัวเอง

     

    เสียงของเด็กทารกร้องจ้าเมื่อแดเนียลเผลอกุมมือแรงไป เรียกบรรดาผู้ใหญ่ให้เข้ามามุงดู แดเนียลมองตามเด็กทารกคนนั้นไปจนลับตา ไม่สนใจเสียงต่อว่าของใครซักคนที่ดังขึ้นข้างๆหู

     

    อะไรบางอย่างก่อตัวขึ้นในหัว

     

    หลังจากนั้นแดเนียลมักจะเผลอมองตามข้อมือหรือข้อเท้าของเด็กเสมอ เคยอยากจะเปลี่ยนความชอบของตัวเองด้วยการลองทำสิ่งต่างๆใหม่ๆ ก็ดูเหมือนสิ่งนี้จะไม่หายไป

     

    ฝังราก

    หยั่งลึก

    และจะแง้มพรายตัวเองออกมาเมื่อเจอสิ่งที่ต้องใจ

     

     

     

    แดเนียลลากเก้าอี้มาวางใกล้หน้าต่าง จ้องมองผ้าม่านสีเทาอ่อนที่สลับตัดกับสีขาวเหมือนกำลังใช้สมาธิ เพียงแต่สายตาของเขาไม่ได้หยุดที่ผืนผ้าสีอ่อน ใจกระหวัดนึกถึงสิ่งที่อยู่ถัดจากหน้าต่างบานนี้ บ้านหลังข้างๆที่มีบรรยากาศของครอบครัวเล็ดลอดออกมา

    แม้จะมองไปข้างหน้าแต่ภาพของข้อมือเล็กและข้อเท้าคู่นั้นกลับเด่นชัดจนเหมือนอยู่เบื้องหน้า

     

    ในช่วงเวลาของวสันตวิษุวัต

    แดเนียลตัดสินใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บ้านหลังนั้นมีกันอยู่สองคน คุณแม่ยังสาวที่ทำงานเป็นบรรณาธิการของเมืองข้างๆ ออกจากบ้านแต่เช้ามืดและกลับมาในช่วงเวลาที่ทุกคนหลับไหล ด้วยความเป็นห่วงลูก เธอจึงฝากฝังให้เพื่อนบ้านคอยช่วยดูแล

    เพื่อนบ้านที่เป็นชายหนุ่มโสด อ่อนวัยกว่าเธอเพียงสองปี เธออาจจะตกหลุมรักเขาถ้าหากว่าเธอไม่ได้มีสามีที่จากไปด้วยโรคร้ายอยู่เต็มหัวใจ อีกทั้งใบหน้าของซองอูยังคล้ายกับพ่อของเขาจนไม่อาจแบ่งใจให้ใครได้อีก

    เธอไว้ใจเขาอย่างประหลาด อาจจะเพราะหน้าที่การงานและการวางตัวของเขาก็เป็นได้

     

    แดเนียลอ่านมันออกทั้งหมด และจงใจทำตัวให้เธอยิ่งวางใจ

     

    มันเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าผ่าตัดซะอีกในการทำตัวให้น่าเชื่อถือน่ะ

     

     

     

    ศารทวิษุวัต

     

     

    หลายเดือนที่ผ่านมาซองอูติดคุณลุงข้างบ้านแจ สำหรับเด็กชายอายุ 15 ที่จากเมืองใหญ่มายังเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยประชากรรุ่นคุณตาคุณยายนี่ การได้เล่นกับคุณลุงที่มักจะมีของเล่นใหม่ๆคนนั้นเป็นเรื่องที่สนุกที่สุด

     

    คุณลุงมีร่างกายแบบที่เขาชอบ ร่างหนาๆ ไหล่กว้างๆแบบนั้น ผู้ชายควรมีไม่ใช่เหรอไง

     

    เพียงแต่ซองอูไม่มี

    ต่อให้จะตื่นไปวิ่งกับคุณลุงทุกเช้าแล้วก็ตาม

     

    “ซองอูรู้รึเปล่าว่าวันนี้คุณแม่จะไม่อยู่”

     

    “รู้ฮะ คุณมี๊บอกแล้วว่าจะไปทำงาน ให้หนูมาค้างกับคุณลุง”

     

    ซองอูหัวคลอนไปตามมือใหญ่ที่โยกหัวเขาไปมา มองคนที่สูงกว่าเขาเกือบยี่สิบเซนติเมตรแล้วนึกอิจฉาในใจ ดึงข้อมือหนาออกจากหัวตัวเอง ลูบไปมาบนเส้นเลือดที่ปูดโปนพวกนั้นก่อนจะถอนหายใจ

     

    “เป็นอะไร”

     

    “หนูอยากมีกล้ามแขนใหญ่ๆ มีกล้ามเยอะๆบ้าง ที่โรงเรียนชอบล้อหนูว่าเป็นผู้หญิง”

     

    “อย่างนั้นเหรอ”

    “นั่งดีๆสิ”

     

    ซองอูขยับถอยหลังจนแผ่นหลังชิดกับอกหนา รู้สึกได้ถึงความร้อนของอุณหภูมิร่างกายของอีกคน คุณลุงตัวใหญ่จนเหมือนกับว่าซองอูจมลงไปบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ เสียงกระดิ่งดังขึ้นทุกครั้งที่เขาขยับตัว

     

    กำไลข้อมือและข้อเท้า

     

    ‘ของขวัญ’ จากคุณลุง

     

    ซองอูรู้ว่าคุณลุงชอบข้อมือกับข้อเท้า ในเมื่อทุกครั้งที่มาหาคุณลุง สายตาคู่นั้นจะจับจ้องที่สองสิ่งนี้แทบจะตลอดเวลา ยิ่งเมื่อมีกำไลมาใส่ คุณลุงก็แทบจะลูบไล้ไปมาแทบจะทุกครั้งที่นั่งใกล้กัน

     

    เหมือนอย่างตอนนี้

     

    ข้อมือบางถูกมืออุ่นลูบไล้ไปมา ไม่มีที่ใดไม่เคยถูกสัมผัส

     

    ซองอูชอบทุกครั้งที่ถูกสัมผัส แม้มันจะดูแปลกไปหน่อยแต่สัมผัสที่เต็มไปด้วยความหลงใหล คลั่งไคล้เหมือนตกหลุมรักนักหนานั่นทำให้หัวใจเต็มตื้น ลบเลือนฝันร้ายจากอดีตของพ่อผู้ลาลับ

     

    การถูกรักโดยไม่ต้องร้องขอช่างวิเศษ

    การถูกรักโดยที่ไม่ต้องใช้ร่างกายปรนเปรอ ทำให้ใจหวามไหว

     

    คุณลุงไม่เคยแตะต้องร่างกายของเขามากไปกว่าการจับนั่งตัก กอด และลูบไล้ข้อมือข้อเท้า หัวใจสะท้านทุกครั้งที่ถูกมือใหญ่ๆนั่นกอบกุมข้อมือเล็ก อุ่นไปถึงหัวใจ

     

    เพียงแต่บางครั้ง

     

    ก็อุ่นเกินไป

     

    ซองอูมองแดเนียลที่ปล่อยให้เขานั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนตัวแดเนียลลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น จับมือเขากดจูบลงบนตำแหน่งชีพจรบนข้อมือ ก่อนที่ชั่วพริบตาฟันคมนั่นก็กัดเข้าอย่างแรงจนเป็นรอยฟัน ซองอูกระตุกมือเพราะความเจ็บปวดกะทันหันแต่ไม่ชักมือออก เลื่อนปลายนิ้วไปลูบตำหนิใกล้ดวงตาคู่คม

     

    “ไม่เป็นไรฮะ”

     

    บอกออกไปพร้อมกับแนบฝ่ามือลงบนใบหน้านั่น มองลึกลงไปในสายตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลงคู่นั้นก็หัวใจก็เหมือนเติมเต็ม ได้รับความรักจนอยากได้อีก กัดอีกก็ได้ จะทำอะไรก็ได้

     

     

    ให้….ทั้งหมด

     

     

     

    ในช่วงเวลาที่กลางวันเท่ากับกลางคืน

    เราเท่าเทียมกัน

    คุณมีสิ่งที่ฉันต้องการ

    ฉันให้ในสิ่งที่คุณอยากได้

     

    เพียงแต่อย่าจากไปไหน

    มอบมันทั้งหมดให้ฉัน

    ร้องขอในความรักที่บิดเบี้ยวนั่น

     

    เพียงเพราะฉันก็เว้าแหว่งเฉกเช่นเดียวกัน

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in