#kikinonikki
(บันทึกนึกขึ้นได้ของ Kiki)
สวัสดีค่าา T - T และแล้ววันปิดคอร์สเรียนวิชา APP JP LING ก็มาถึง แอบเศร้าเร้ก ๆ เป็นวิชาที่สนุกและดีมาก ๆ ขอบคุณอาจารย์แล้วก็ต้องขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่าน blog ของ KIKI นะคะ <3
ใครที่เผลอกดเข้ามาที่ blog นี้ก็สามารถเข้าไปดู blog อื่น ๆ ของเราที่ link #kikinonikki ได้เล้ยยย
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มเขียน blog ก็ยังงง ๆ อยู่ว่าจะเขียนไปในทิศทางไหนดี เพราะนี่ก็ไม่ใช่สายวิชาการหรือทฤษฎีอะไรขนาดนั้น ตอนเรียนน่ะเข้าใจแต่คงไม่สามารถเอาทฤษฎีพวกนั้นมาอธิบายใน blog ให้น่าสนใจได้ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเน้นไปที่เรื่องที่เราสนใจและโยงเข้ากับเนื้อหาในคลาสแทน หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่เราสนใจเองหรือเจอแล้วตื่นเต้นอยากบอกต่อ ก็รู้สึกดีใจที่เขียนออกมาได้ขนาดนี้นะ555555
ไหน ๆ นี่ก็จะเป็นการอัพ blog ครั้งสุดท้ายแล้วก็เลยอยากจะมา reflect ตัวเองในเทอมนี้ซักหน่อย
สิ่งที่ได้จากการเขียน blog
- ได้ unlock goal ในการเขียน blog เพราะจริง ๆ แล้วชอบมาก และอยากเขียนมานานแล้ว
- ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้รู้ว่าเราสนใจเรื่องอะไร มีความตื่นเต้นอยากจะทำเรื่องอะไร รู้สึกตื่นเต้นมือไม้สั่นอยากรีบลงมือเขียนทุกครั้งเวลากำลังพยายามคิดคอนเทนต์ให้น่าสนใจและอยู่ใน theme ของเรื่องที่เราสนใจ + theme ของ blog
- ได้ความรู้และได้เปิดมุมมองภาษาญี่ปุ่นใหม่ ๆ
- ได้ค้นคว้า เรียนรู้เพิ่มเติม และอ่านข้อมูลภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก ทำให้ได้ฝึกสกิลการอ่านและได้คำศัพท์ใหม่ตอนค้นคว้าข้อมูลด้วย
- ได้ทบทวนเนื้อหา ปกติเวลาเรียนแต่ละคาบ แม้จะอ่านทวนผ่าน ๆ บ้างแต่ก็จำไม่ค่อยได้ แต่พอต้องนำเนื้อหามาเขียน blog ทำให้ได้อ่านทบทวน เข้าใจและจำได้มากขึ้น
- ได้มี emphathy ต่อผู้อื่น การจะเขียนความเข้าใจของตนเองออกมาให้คนอื่นอ่านก็ต้องนำเรื่องราวที่อยากเล่ามาจัดระเบียบความคิด ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น และเรียบเรียงคำให้ออกมาสละสลวย ฝึกเขียนให้คนอ่านที่เข้าใจและไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นอ่านได้เข้าใจง่าย เพราะในการสื่อสารไม่ว่าจะพูดหรือเขียน เราต้องคำนึงถึงผู้รับสารอยู่เสมอ
สิ่งที่ได้จากการเรียนวิชา Applied Japanese Linguistic (応用言語学)
- ได้ทบทวนความสามารถและทดสอบสกิลของตัวเอง : วิชานี้เน้นการ output ก่อน input มันทำให้เราได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ของตัวเองล้วน ๆ ในการทำ task พอได้ลองทำ ก็ได้รู้ว่าเรามี gap อะไร ทำให้เราได้รู้ความสามารถของตัวเอง และทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นอุดมคติแบบที่คนญี่ปุ่นใช้จริง ๆ เป็นยังไง และทำให้เรากระหายที่จะมีความรู้มากขึ้น
- ได้เปิดมุมมองภาษาญี่ปุ่นที่ใหม่และกว้างกว่าเดิม : ได้ตั้งข้อสังเกต ได้หาจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ค้นคว้าหาคำตอบมาตอบคำถามที่เราสงสัย และได้ความรู้และมุมมองใหม่ ๆ เยอะมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งจากเนื้อหาในวิชาเรียน จากการค้นคว้าด้วยตัวเอง จากอาจารย์ และจากเพื่อนร่วมคลาส
- ได้สังเกตและทบทวนข้อผิดพลาดของตัวเอง : พอได้ลองทำ task และได้ feedback แล้ว เราก็ได้รู้ gap รู้ข้อผิดพลาดและจุดอ่อนของตัวเอง และได้รู้ว่าเราผิดอะไรหรือจุดไหนมันสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้บ้าง ก็ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น
- ได้ดูตัวอย่างคำตอบที่เป็นหรือใกล้เคียงอุดมคติจากคนญี่ปุ่นหลายคนทำให้เราได้เห็นคำตอบ ได้รู้ว่าเค้าใช้คำศัพท์อะไร ใช้ไวยากรณ์อะไรบ้าง เค้ามีรูปแบบประโยคยังไง พอได้เห็นตัวอย่างคำตอบของคนญี่ปุ่นหลายคนว่ามีคนญี่ปุ่นหลายคนเขียนแบบนี้จริง มันก็ทำให้เราสามารถเชื่อได้ว่า บางตัวอย่างต่อไปนี้เชื่อถือได้และควรทำตาม ต้องขอบคุณอาจารย์อย่างมากที่ได้พยายามรวบรวมคำตอบที่ให้คนญี่ปุ่นหลายคนมาลองเขียนเป็นตัวอย่างให้นักเรียนต่างชาติอย่างเรา ๆ ได้เรียน T _T <3
- ได้เขียน blog นี้ : เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่เราจะได้ค้นหาความสนใจของตัวเอง ได้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจและนำมาเรียบเรียงมาเขียนนำเสนอในแบบของเรา
- ได้ความรู้ทางภาษาศาสตร์ประยุกต์กลับมาเยอะมาก ๆ และเนื่องจากเนื้อหาเป็นแนวนำความรู้มาประยุกต์ จึงสามารถเอาหลายอย่างไปใช้เวลาสอนภาษาได้ด้วย
หวังว่า blog ของเราจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่มากก็น้อย อ่านแล้วทำให้ได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน หรืออ่านแล้วนำ point บางอย่างไปประยุกต์ต่อยอดใช้ประโยชน์ได้ หรือสามารถให้ความรู้และความเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกันนะคะ
แม้ blog นี้จะเป็นการเขียนครั้งสุดท้าย แต่การเดินทางในเส้นทางของภาษาญี่ปุ่นของเราก็คงยังดำเนินต่อไป สุดท้ายนี้ขอบคุณวิชานี้ ขอบคุณอาจารย์ เพื่อนร่วมคลาส และขอบคุณผู้อ่านทุกคนอีกครั้งค่ะ <3
#kikinonikki
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in