One shot : Thousand miles away
นิ้วเรียวไล้ไปตามกระจกหน้าต่างอย่างอ้อยอิ่งราวกับว่าหล่อนกำลังได้สัมผัสอีกคนที่กำลังเพลิดเพลินกับการเก็บหินก้อนมนในน้ำ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศที่อึมครึมเหมือนฝนกำลังจะตก
สีน้ำเงินหม่นๆของทะเลสาบ
หรือหญิงสาว
ภาพของ 'เจสสิก้า' หญิงสาวที่ทำให้สติของเธอม้วนพับผิดลู่ผิดทางอยู่เสมอ
"ยิ้มเธอดูแย่มากเลย" คนหน้าคมแกล้งกระเซ้า
"อย่ามากวนประสาทฉันนะยูริ แล้วก็ลบรูปน่าเกลียดนั่นออกด้วย" น้ำเสียงขุ่นเขืองดังขึ้นให้ได้ชื่นใจ ยูริสัมผัสได้ถึงรังสีความโกรธรอบตัวเจ้าหมาจ๋อยของเธอ แต่คนหน้าคมเข้าใจดี
เข้าใจดีว่าเจสสิก้าเกรี้ยวกราดเพราะว่าเธอกำลังเศร้าสร้อย
"ไม่ลบ ไม่จนกว่าเธอจะยิ้มในแบบที่ฉันต้องการ" คนหน้าคมเลือกที่จะพูดกวนประสาทออกไปแบบนั้น เพราะเธอค้นพบว่ามันช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะพูดออกไปว่า อย่าเศร้าเลยที่รักของฉัน เพราะมันทำให้ฉันเศร้าเสียยิ่งกว่า
"ฉันยิ้มให้เธอไม่ได้หรอกนะ" เจสสก้าชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ชวนให้รู้สึกหวิวในใจ "ไม่ใช่ในตอนนี้"
ให้ตายสิ ไม่ชอบใจเอาเลยจริงๆ
ยูริไม่ชอบความเศร้า และแสนจะชิงชังเมื่อมันก่อตัวขึ้นในใจคนสำคัญของเธอ แต่ที่ร้ายยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือการที่เธอเป็นต้นเหตุของความเศร้าเสียเอง ถ้าเป็นไปได้ยูริอยากขโมยความเศร้าทั้งหมดในโลกใบนี้ไปซ่อนไว้ในที่สุดแสนจะมิดชิด ซ่อนไว้ให้ไกลจากหญิงสาวของเธอ
เจสสิก้ารักหล่อนนะ แต่ว่ายูริน่ะ นิสัยเสียแก้ไม่หาย
การปกปิดความเศร้าด้วยความยียวนของยูริไม่ได้ทำให้เจสสิก้าหยุดคิดถึงมันได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงคนหน้าคมก็จะต้องอยู่ห่างจากเธอเกินกว่าพันไมล์ เดินทางไปทำตามสิ่งที่เจ้าตัวเรียกว่าความฝัน มุ่งหน้าจากมอนทาน่าไปนิวยอร์ค มหานครที่เจสสิก้าแทบจะคลื่นเหียนเพียงนึกถึงมันในหัว เกลียดชะมัดเลยเมืองที่แย่งยูริไปจากเธอเนี่ย
รถไฟค่อยๆเคลื่อนออกจากชานชาลา หญิงสาวในห้วงคำนึงของยูริดูตัวเล็กลงทุกที ช่างเป็นภาพที่ชวนให้อ่อนล้าและหม่นเศร้า คนหน้าคมยืนมองออกไปนอกหน้าต่างค้างอยู่แบบนั้นแม้ว่าภาพที่ปรากฎจะไม่มีอะไรมากไปกว่าบ้านเรือน ต้นไม้ และทิวทัศน์ที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรกับเธอ
มันคุ้มกันหรือเปล่านะ? คนหน้าคมได้แต่ทบทวนในใจ การเสียสละความรักที่ถึงแม้จะแค่ชั่วคราวเพื่อแลกกับการทำตามความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องอาชีพ ฝันที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้เมื่อไหร่ เธอกำลังทำถูกใช่ไหมที่เลือกเดินทางมาพร้อมกับเงินน้อยนิด และกีตาร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่มหานครแห่งโอกาส ที่เต็มไปด้วยคำโฆษณาสวยหรูว่า สถานที่ที่จะให้ความฝันของคุณเป็นจริง
ถ้าเธอคิดผิดล่ะ?
ยูริได้แต่ส่ายหัวสลัดความเฟ้อฟุ้งในจิตใจ เธอเลือกแล้ว เธอควรที่จะเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับการตัดสินใจของตน และวันหนึ่งเธอจะมีเงินมากพอด้วยเสียงร้องและกีตาร์ของเธอ เจสสิก้าจะอยู่อย่างสุขสบายและได้ใช้ชีวิตอย่างที่คิดวาดฝันเอาไว้ เราจะมีทุกๆอย่างด้วยกัน แค่ต้องอดทนเท่านั้น
การอดทนไม่ใช่เรื่องง่าย! ผ่านไปเกือบเดือนแล้วที่เจสสิก้าไม่ได้เจอสุดที่รักของเธอ ถึงแม้จะโทรคุยกันทุกวันแต่มันก็ไม่ได้บรรเทาความคิดถึงที่โหมกระพืออยู่ในจิตใจลงได้ และพอเธอเง้างอนกับระยะทางที่แสนห่างของเราสองคน ยูริก็จะพูดกวนประสาทอย่างติดตลกว่ามอนทานากับนิวยอร์คห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตรเองในแผนที่
ดูเอาเถอะ! เจ้าคนไร้หัวใจนั่นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลย
มีแต่เธอหรือไงนะที่กำลังมอดม้วยจากความคิดถึง มีแต่เธอหรือไงที่อยากทิ้งฟาร์มเล็กๆนี่แล้วโดดขึ้นรถไฟไปนิวยอร์คมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด ไปกระชากคอเสื้อแฟนตัวดีแล้วช่วงชิงเอาจูบที่หล่อนพรากจากเธอไปนานแสนนานกลับคืนมา!
"ไม่ต้องห่วง ฉันอดทนได้น่า ไม่ได้คิดถึงอะไรขนาดนั้นสักหน่อย" น้ำเสียงกระแทกกระทั้นกรอกลงในโทรศัพท์เมื่อคนหน้าคมถามว่าเธอโอเคหรือไม่กับการที่ต้องอยู่ไกลกันแบบนี้
มันก็งอแงได้แค่ในความคิดเท่านั้นแหละ
เจสสิก้าเลือกที่จะซ่อนความเศร้าไว้ด้วยความขุ่นเคือง ใครจะไปอยากให้คนที่รักต้องมามัวพะวงหน้าพะวงหลังจนไม่สามารถโฟกัสกับการเดินหน้าทำตามความฝันได้ล่ะ คิดถึงมันก็คิดถึงอยู่หรอก แต่มันรักมากกว่า อะไรสนับสนุนกันได้เจสสิก้าก็จะทำ แม้นั่นหมายถึงการที่เธอจะต้องอดทนกับระยะทางหลายพันไมล์และความคิดถึงที่จะฆ่าเธอเอาเสียให้ได้ทุกคืนก็ตาม
อ่า ความคิดถึง
ความคิดถึงรอยยิ้มกวนประสาทของอีกฝ่าย ความคิดถึงช่วงเวลาที่อีกฝ่ายวางศอกลงบนผิวโต๊ะไม้ แก้มตั้งอยู่บนกำปั้น แล้วจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยนเหลือรับ ความคิดถึงความมีชีวิตชีวาที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและชวนให้ใจชุ่มชื่น ความคิดถึงอ้อมแขนเย็นเยียบและเส้นผมอ่อนนุ่มที่เธอชอบซุกหน้าครวญคราง ความคิดถึงที่มีต่อยูริ เจ้าคนกวนประสาทของเธอ
ยูริคิดว่ามันก็น่าดีใจอยู่หรอกที่คนรักสนับสนุนการกระทำของเธอ มันดีมากเลยที่อีกฝ่ายดูเอือมระอาเล็กๆกับคำถามของเธอแทนที่จะเศร้าใจอย่างที่เธอคาดการ์ณเอาไว้ในตอนแรก แถมยังพูดออกมาว่าอดทนได้กับความคิดถึงอีกต่างหาก เจสสิก้าช่างเป็นแฟนที่เข้าอกเข้าใจและแสนดี ยูริรู้สึกว่าตนเองช่างโชคดีอะไรขนาดนี้
ซะเมื่อไหร่ล่ะ!
ยัยหมาจ๋อยนั่นทำไมถึงอดทนได้นะ! ทั้งที่เธอจวนเจียนจะขาดใจอยู่แล้ว เพิ่งจะเข้าใจความหมายของคำว่าคิดถึงจนแทบจะขาดใจก็วันนี้ วันก่อนที่เธอเดินผ่านร้านขายโซฟาก็แทบจะเห็นภาพหลอนว่าคุณแฟนของตัวเองนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาสีสดนั่น
คิดถึงจริงๆ เวลาที่อีกฝ่ายนอนซุกตัวอย่างขี้เกียจบนโซฟาในวันที่อากาศเย็น แล้วก็ยื่นแขนขึ้นอย่างต้องการจะออดอ้อนทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน คิดถึงความบอบบางของแขนเปลือยเปล่าคู่นั้น ที่เธออยากจะกางมันออก คิดถึงทุกรายละเอียดอันงดงามสดใสของหล่อน
มันคิดถึงเอามากเลยล่ะเจสสิก้าคนนั้นน่ะ
'รุนแรง เร่อร่า และไร้ยางอาย' คงจะเป็นคำนิยามที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ของเจสสิก้าและยูริในขณะนี้ สถานการณ์ที่เธอสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนระเบียงบ้านอย่างไม่นึกจะสนใจว่าใครจะผ่านมาเห็นเข้าหรือไม่
มันเริ่มจากการที่ยูริไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอทั้งที่เธอกระหน่ำโทรไปจนสายแทบไหม้ ก็ตั้งใจจะโทรไปบอกว่า 'ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ จะเก็บเสื้อผ้าไปนิวยอร์คเดี๋ยวนี้แหละ' แต่อีกคนก็ดันไม่ยอมรับสายจนเธอชักจะหงุดหงิดใจ
จนกระทั่งเปิดประตูบ้านมาเจออีกฝ่ายยืนหอบอยู่หน้าประตูเนี่ยแหละ
"ยูริ" เจสสิก้าพูดได้แค่นั้น คนหน้าคมก็พุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอแล้วก็ช่วงชิงเอาจูบไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำกับอีกฝ่ายแท้ๆ เจ้าคนบ้านี่!
แต่ก็ได้แต่เก็บคำต่อว่าเอาไว้ในใจเมื่ออีกคนถอนจูบ แล้วเอาหน้าผากของตนเองชนกับหน้าผากของเธอ พร้อมกับเอ่ยประโยคที่ทิ้งความร้อนวูบวาบไว้กลางอกของเธอว่า "คิดถึงจนจะบ้าอยู่แล้ว"
ก็นึกว่าเป็นอยู่คนเดียวซะอีก
และเมื่อเธอตอบออกไปด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่าคิดถึงเหมือนกัน เจ้าคนที่เธอเคยคิดว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าหล่อนปรารถนาเธอเพียงใด แสดงออกชัดเจนผ่านมือเรียวที่ฝังไปในเส้นผมนุ่มของเธอ แสดงออกชัดเจนผ่านสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากที่ลากไล้ไปแทบจะทุกตารางนิ้วบนตัวเธอ แสดงออกชัดเจนผ่านมือร้อนที่ควานไปอย่างสะเปะสะปะบนร่างกายของเธอ
เป็นความชัดเจนที่รื่นรมย์จนสะท้านสันหลัง
ยูริรู้อย่างแน่วแน่ว่าเธอไม่อาจที่จะทนได้อีกต่อไปกับความคิดถึงที่ฝังตัวลงกลางกระดูกหน้าอก ระยะทางหลายพันไมล์จะต้องถูกลบด้วยความโหยหาที่เธอมีต่อเจสสิก้า
แทบจะไม่ได้ไตร่ตรองเสียด้วยซ้ำ เธอก็พาตัวเองมาอยู่ในรถไฟมุ่งหน้าสู่มอนทาน่าเป็นที่เรียบร้อย และทุกย่างก้าวของคนหน้าคมทำให้เธอได้แต่ครวญครางในใจที่ขาของตัวเองไม่สามารถก้าวได้เร็วกว่านี้ เธอวิ่งจนหัวใจแทบจะระเบิดออกนอกอก
และเมื่อพาตัวเองมาถึงที่หมาย ยูริก็ค้นพบว่ามันคุ้มค่ามากเหลือเกิน คนที่เอาแต่ซ่อนบังความรู้สึกด้วยความขุ่นเคืองยอมเอ่ยปากว่าคิดถึงกันพร้อมด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า อย่างที่บอกเสมอว่ายูริไม่ชอบความเศร้า และไม่ชอบที่จะเห็นแฟนสาวของเธอเศร้า
แต่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเธอเองรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
ดีใจมากซะจนต้องระบายมันออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ระบายมันออกมาด้วยจูบรสหวาน ด้วยมือเรียวที่ลูบไล้ไปตามท่อนขางดงามที่ไม่แนบชิดกันจนเกินไป และเมื่อมือของเธอคลำไปถึงจุดที่มันเสาะแสวง สีหน้าชวนฝันของอาการกึ่งสุขกึ่งเสียวซ่านก็ปรากฏบนใบหน้าน่ารักนั่น เข่าเปลือยเปล่าของเจสสิก้ายึดหนีบข้อมือของเธอเอาไว้ก่อนจะคลายออกและโผตัวเข้ากอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับการกระซิบซ้ำๆที่ข้างหูว่าหล่อนคิดถึงเธอมากเพียงใด
สุดท้ายเราทั้งคู่ก็ต้องพ่ายกับระยะทางหลายพันไมล์นี่จนได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in