Title: Bride Ch.6 [Status Update]
Author: DiaryOfMyboys
Warning: *OMEGAVERS* // around 10 chapters
หลังจากความฝันวันนั้นก็ผ่านมาได้หกเดืิอนกว่าแล้ว ตอนนี้เจโน่เริ่มจะชินกับอาการฮีทที่จะมาทุก ๆเดือน ทั้งยังมีพี่ยูตะที่หลังจากเจโน่เล่าถึงความฝันที่เจอก็สดใสขึ้นมามากไม่เหลืออาการอมทุกข์ให้เห็นจึงกระตือรือร้นสอนทั้งการดูแลตัวเองและงานบ้านสารพัดให้กับเจโน่ แต่ก็มีคนที่เหมือนจะนับวันอาการยิ่งแย่ลงนั่นก็คือพี่มาร์ค ทั้ง ๆที่เจโน่ก็กินยาระงับฮีทตลอด แต่พอช่วงนั้นทีไรพี่มาร์คเหมือนจะขย้ำเจโน่อยู่ร่ำไป จึงโดนสั่งห้ามเจอกันเด็ดขาดทุกเดือนในช่วงฮีทไปเลย
วันนี้ทุกคนในบ้านถูกเรียกรวมกันให้มารับประทานอาหารเย็นที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้ง เจโน่รู้สึกใจคอไม่ค่อยดีขึ้นมาเหมือนว่าจะมีเรื่องอะไร แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกไม่ดีต่าง ๆหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อคนที่ไม่ได้เจอกันมาหนึ่งอาทิตย์เข้ามาสวมกอดเค้าเบา ๆ
" คิดถึงนะครับ " มาร์คกระซิบบอกเบา ๆ เจโน่ยกมือขึ้นกอดเอวพี่ซบหน้าลงบนอกตอบกลับไป
" เจโน่ก็คิดถึงพี่มาร์คครับ "
เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าและนั่งประจำที่เดิมก็ลงมือทานอาหารค่ำกัน มีพูดคุยถามไถ่กันบ้างตามประสาครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันอยู่ตลอดเพราะหน้าที่ของแต่ละคน จนจบมื้ออาหาร เจโน่ก็รับรู้ได้ว่านายใหญ่ของบ้านมีเรื่องที่จะประกาศอีกตามเคย
" เอาล่ะการที่เรียกทุกคนมาทานอาหารพร้อมกันวันนี้ ก็เพื่อจะให้ได้รับรู้ข่าวไปพร้อมกันนะ" จอห์นนี่เริ่มกล่าวเข้าเรื่อง
" อย่างแรก ตอนนี้ยูตะอายุครรภ์ได้ 36 สัปดาห์แล้ว และคุณหมอได้แจ้งกำหนดคลอดมาแล้วว่าจะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ " เป็นข่าวที่น่ายินดีมาก ในที่สุดเจโน่ก็จะได้เจอกับเจ้าหนูยุนตัวจริงแล้ว
" อีกเรื่อง ตอนนี้มาร์คก็เรียนจบมัธยมแล้ว " คนถูกพูดถึงขยับตัวไปมาพร้อมกับถอนหายใจออกมา
" และถึงเวลาต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษในเดือนหน้านี้ " ทุกอย่างเหมือนจะเงียบไปหมด เจโน่ค่อย ๆหันหน้าไปมองคนเป็นพี่ ทีแรกเค้าคิดว่ามาร์คจะออกอาการโวยวายเมื่อไม่ได้อย่างใจเหมือนเคย แต่คราวนี้มาร์คกลับนั่งก้มหน้าหลับตานิ่ง ๆ
" สิ่งนี้เป็นเรื่องที่มาร์คขอเอง ฉันไม่ได้บังคับหรืออะไร แต่ฉันก็เห็นด้วยเพราะยิ่งมาร์คอยู่ใกล้เจโน่มากเท่าไหร่ก็เหมือนจะคุมตัวเองไม่อยู่ขึ้นทุกวัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจมาร์คนะเจโน่"
" ครับ เจโน่เข้าใจ " เจโน่ตอบรับเสียงเบาหวิว เค้าเข้าใจจริง ๆแต่ก็รู้สึกใจหายมาก ๆ
มาร์คเลื่อนมือมากุมมือน้องไว้เงยหน้ามาสบตาก่อนเอ่ยบอกเบา ๆ
" ไม่นานพี่ก็กลับมาแล้ว รอพี่นะครับเจโน่ " เจโน่พยักหน้าถี่ ๆพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้ม
เช้าวันใหม่เจโน่ตื่นมาก็ไม่เจอพี่มาร์คที่เมื่อคืนอ้อนวอนขอมานอนกับเค้าที่นี่ มาร์คบอกไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องไปจัดการเรื่องเอกสารการเข้าเรียนที่นู่นแต่เช้า
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาหวังจะพึ่งข้าวเช้าฝีมือพี่ยูตะ แต่วันนี้กลับไม่มีกลิ่นหอมจากครัวเล็ก ๆในบ้านโชยมาเหมือนเคย ได้ยินเสียงแว่ว ๆทางห้องนั่งเล่นจึงเดินไปตามเสียง แล้วก็พบว่ายูตะนั่งอยู่บนพื้นพรมตรงโซฟา ด้านหน้ามีกระดานวาดภาพตั้งอยู่
" พี่ยูตะทำอะไรอยู่ครับ ทำไมนั่งกับพื้นแบบนั้น " เจโน่เอ่ยทักไปพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้เพราะเห็นว่าท้องของพี่ใหญ่มากแล้วนั่งกับพื้นน่าจะลุกยาก
"..." ยูตะไม่ตอบอะไรกลับมา นั่นเป็นสัญญาณที่ทำให้เจโน่รีบเข้าไปดึงไหล่พี่ให้หันมาหา แล้วก็พบว่าใบหน้าขาวซีดนั้นมีรอยน้ำตาไหลลงมาเป็นทาง แต่กลับไม่มีเสียงร้องไห้ดังออกมาเลย
" พี่ยูตะ พี่เป็นอะไรไปครับ ไม่สบายตรงไหนบอกเจโน่หน่อย"
" เจโน่พี่ทำไม่ได้ ทำไมถึงทำไม่ได้นะ พี่พยายามแล้วนะ พยายามมาตลอดแต่ทำไม่ได้ ทำไมกัน" คำพูดหลุดออกมาเหมือนกับพร่ำพูดกับตัวเองมากกว่า
" ทำอะไรครับพี่จะทำอะไร " ดึงพี่มากอดพร้อมกับถามออกไป
" พี่อยากเป็นเตนล์ " แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้เจโน่งุนงงมาก ทำไมถึงเป็นแบบนี้
" พี่พยายามฝึกวาดรูปให้สวยก็ทำไม่ได้ เจาะหูก็ใส่ไม่ได้เพราะแพ้เครื่องประดับ ทำกับข้าวก็ได้แค่ง่าย ๆ เรื่องแฟชั่นก็ไม่เข้าใจเลยสักนิด พี่ทำไม่ได้เลย เป็นในแบบที่เจย์ชอบไม่ได้เลยสักนิด ฮึกก..."
" โธ่พี่ยูตะ ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ ไม่เห็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย เป็นตัวพี่มันก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ครูเตนล์ก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ต่อไปคุณเจย์ก็จะลืมเค้าไปเองล่ะครับ"
" ฮึกก พี่สงสารเจย์ สงสารเตนล์ ถ้าเพียงแต่เตนล์จะเกิดมาเป็นโอเมก้า หรือเจย์ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ เค้าสองคนคงได้รักกันลงเอยกันไปแล้ว ฮึกก พี่แค่อยากทำอะไรสักอย่างทดแทนให้เจย์ อยากให้เค้ายิ้มได้สักนิดก็ยังดี ฮืออ.." เจโน่ได้แต่รับฟังและกอดยูตะไว้แต่ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกไปได้ พาพี่เข้าไปนอนเพราะดูแล้วที่คิดมากขนาดนี้น่าจะเป็นช่วงใกล้จะคลอดคงวิตกกังวลหลายอย่าง ช่วงนี้คุณเจย์ก็เข้ามาดูแลมากขึ้นผิดกับช่วงแรก ๆ เจโน่จึงมั่นใจว่าไม่นานความสุขจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของพี่ยูตะได้แน่ ๆ
เจโน่ได้แต่คิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนกันนะที่พี่มาร์คไม่ได้มีใครคนอื่นในใจนอกจากเค้า รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่ามากเมื่อนึกได้ว่าตอนที่ฮีทครั้งแรกนั้นถึงกับคิดมากว่าตัวเองเป็นแค่เครื่องผลิตลูก ทั้ง ๆที่พี่มาร์คดีกับเค้ามากขนาดนี้แท้ ๆ
แต่ยังมีบางอย่างที่มันยังค้างคาในใจเจโน่ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
" เจโน่ครับ " คนที่กำลังนั่งแกว่งเท้าตรงสระว่ายน้ำสะดุ้งนิด ๆเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง หันกลับไปมองก็ต้องยิ้มกว้างจนตาหยี
" พี่มาร์คกลับมาเร็วจังครับ "
" อืม ก็หลายอย่างมีคนเตรียมให้พร้อมอยู่แล้วด้วย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร " พูดแล้วก็ถกขากางเกงขึ้นแล้วนั่งหย่อนขาลงในน้ำข้าง ๆคนน้อง
" เหรอครับ " พอพูดถึงเรื่องเตรียมตัวไปเรียนต่อเจโน่ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกจนพูดอะไรไม่ออก
" เจโน่ จริงๆแล้วพี่มีอย่างนึงที่อยากทำมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำสักที " มาร์คเอ่ยขึ้นทำให้เจโน่หันไปมองหน้าอย่างสนใจสิ่งที่พี่พูด ไม่รู้ทำไมน้ำเสียงนั้นทำให้เค้าใจเต้นเร็วขึ้นหนึ่งจังหวะ
" อะไรเหรอครับ"
" เจโน่ ถึงแม้เราจะเป็นคู่หมั้นกันอยู่แล้ว... " มาร์คพูดพร้อมกับถอดแหวนที่นิ้วก้อยของตัวเองออกมา
"..."
" แต่พี่ก็อยากให้เจโน่มั่นใจในตัวพี่..." เอื้อมมือไปจับมือคนที่นั่งอึ้งขึ้นมา
"..."
" ว่าพี่..รักเจโน่ " บรรจงจูบที่ปลายนิ้วมือขาว ๆนั้น
"..."
" เป็นแฟนกันนะ " จ่อแหวนไว้ที่นิ้วนางของมือข้างซ้ายแต่ยังไม่สวนลงไปเพราะต้องการรอคำตอบของคนตรงหน้า
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง มันคือน้ำตาแห่งความตื้นตัน และวินาทีนี้เจโน่ก็ได้รู้แล้วว่าอะไรที่มันติดอยู่ในหัวใจเค้ามาเนิ่นนาน คำธรรมดาที่คนอื่นอาจไม่คิดว่ามันมีค่ามากกว่าความเป็นคู่หมั้น แต่สำหรับเค้าคำว่า "แฟน" นั้นมันคือสิ่งยืนยันว่าทุก ๆอย่างระหว่างมาร์คและเจโน่ไม่ใช่แค่หน้าที่แต่ทุกสิ่งถูกทำด้วยหัวใจ
" ครับเจโน่จะเป็นแฟนกับพี่มาร์ค " ตอบรับไปพร้อมร้อยยิ้มกว้าง ให้อีกคนได้สวมแหวนที่มีตัว M สลักอยู่ลงไปบนนิ้ว แล้วเจโน่ก็โถมเข้ากอดมาร์คให้คนเป็นพี่ได้รับตัวไว้ในอ้อมอกอย่างเต็มใจ
" รักเหมือนกันนะครับคุณแฟน "
.
.
.
to be continued
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in