เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SNS Storiesvvkhxng
Facebook Live อะไรวับๆ แวบๆ
  • ช่วงนี้ Facebook ขยันออกฟีเจอร์ที่ชาวบ้านเค้ามีมานานนมเยอะมาก เยอะจนเรารู้สึกว่าแกทำมาทำไมให้มันรกเนี่ย แต่ก็อย่างว่าแหละ ของเค้ากำลังอยู่ในกระแส การทำฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสนุกกับการใช้งานบน Product ของเค้านั่นคืองานที่พวกเค้าต้องทำ (มาร์คซักไม่ได้กล่าว) เรื่องที่อยากมาขยี้ให้อ่านกันเรื่องแรกเป็นเรื่องของ Facebook Live นี่แหละฮะ

    ภาพจาก : Variety

    แรกเริ่มเดิมทีวงการสังคมออนไลน์บ้านเราก็มีพวกการถ่ายทอดสดผ่านคอมมานานแล้วแหละ ตั้งแต่ที่เน็ตบ้านเราเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อนที่ดังมากๆ ก็คงหนีไม่พ้น Camfrog กับ MSN นี่แหละ เดาเล่นๆ ว่าเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2540 ขึ้นไปก็คงไม่รู้จักบริการ 2 ตัวนี้แน่ๆ นี่มั่นใจ 555+ อธิบายอย่างเข้าใจง่ายๆ ก็แล้วกันว่า Camfrog กับ MSN เป็น Instant Messaging แปลว่าบริการส่งข้อความแบบฉับไว คือถ้าเราส่ง SMS มันก็ไม่ไวใช่มะ แต่ IM เนี่ยมันปรู๊ดปร๊าด ส่งปุ๊บถึงปั๊บ ทีนี้บริการพวกนี้อ่ะครับ เค้าก็จะรวมฟีเจอร์มากมากไว้ หนึ่งในนั้นคือการเปิดกล้องคุยกันหรือถ้าเราจะบอกให้อีกฝั่งใช้ด้วยก็จะบอกด้วยคำว่า "เปิดกล้องหน่อย" ซึ่งไอ้เจ้ากล้องที่ว่าเนี่ยมันคือกล้อง Webcam นั่นแหละ เพราะสมัยก่อนมือถือมันไม่ได้ Smartphone เหมือนสมัยนี้ไง กล้องหน้ายังแตกเป็นเสี่ยงๆ 3G ก็ไม่มี WiFi ยังไม่มีใครมาแปะพาสเวิร์ดแจกเลย MSN เนี่ยจะเป็นการเปิดกล้องแบบ 1 ต่อ 1 คือเราจะใช้งานได้แค่ห้องสนทนาที่เราคุยกับเพื่อนได้แค่นั้น จบ ไม่มีอะไร ส่วน Camfrog จะเป็นการสร้างห้องแชทที่เราสามารถไปกดจิ้มกล้องของใครก็ได้ถ้าเค้าเปิดไว้ ฉะนั้น ไอ้การถ่ายทอดสดเนี่ยจริงๆ มันมีมานานแล้วแหละถ้ามองไปที่ Camfrog ซึ่งช่วงนั้นมันดังมากๆ เพราะมันมีห้อง 18+ ด้วยจนเป็นข่าวให้ IT บล็อคไปแล้วก็กลับมาดูได้เหมือนเดิม... (บล็อคทำไมหละหนะ)

    ภาพจาก : polcmu.blogspot.com
  • อย่างที่บอกว่าสมัยก่อนคอมพิวเตอร์ได้รับความนิยมมากกว่ามือถือ พวก Social Network ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การใช้งานบนคอมให้สะดวกที่สุด ทีนี้ต่อมาพัฒนาการมันเปลี่ยนไป มือถือเริ่มแปลงร่างจนเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ จนในที่สุดคนก็หันมาใช้งานมือถือมากขึ้นนั่นเอง บริการถ่ายทอดสดเหล่านี้ก็เลยเงียบหายไปพักนึงเลย จนกระทั่งก็มีบริการถ่ายทอดสดออกมามากมายเพื่อตอบรับกับความเร็วของเน็ตและการใช้งานมือถือ ไม่ว่าจะเป็น YouTube Live ที่ทำให้ใครก็สามารถผลิตรายการแล้วถ่ายทอดสดได้ หรือจะเป็น Periscopea ของ Twitter เองที่สามารถถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านมือถือได้ทันที หรือจะเป็นแอพ V ที่ศิลปินไอดอลเกาหลีเอาไว้ใช้ถ่ายทอดสดตัวเองให้แฟนๆ ได้ทักทายกรี๊ดกร๊าดกัน


    สาธยายเรื่องการถ่ายทอดสดออนไลน์มาซะยาว กลับมาที่ Facebook Live กันต่อ ตอนแรกก็เข้าใจว่ามันจะมีไว้เพื่อให้พวกเซเลปหรือเพจดังๆ ได้ใช้งานกัน เราก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่พอมันเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปเริ่มถ่ายทอดสดเองได้เนี่ย ยอมรับว่าแอบหนักใจแทนเบาๆ เพราะปัญหาของ Facebook เกี่ยวกับ Content เองก็มีเยอะพอสมควรนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ใช้แชร์วิดีโอที่ดูดมาจากคนอื่น หรือจะเป็นเนื้อหาที่เข้าข่ายอาชญากรรมบ้างแหละ เหนื่อยแทนจริงๆ (เดี๋ยวเรื่องลิขสิทธิ์กับ Facebook จะเอามาเล่าให้ฟังอีกที) 

    ทีนี้ต้องเข้าใจว่าสังคมออนไลน์บ้านเรามันบอบบางพอสมควรนะ เพราะว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นพวกชอบแชร์และชอบโชว์เพื่อให้ได้ไลค์มานอนกอดเล่น ก็เลยพยายามคิดหาทางที่จะนำเสนอเนื้อหาที่จะล่อให้คนมากดไลค์ได้เยอะๆ ปัญหานี้ส่วนหนึ่งมันมาจากทึกทักไปเองว่าสังคมออนไลน์กับสังคมจริงๆ มันแยกออกจากกัน ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ไง บางคนมักจะเข้าใจว่า "ทำๆ ไปเถอะ ก็แค่สังคมออนไลน์ไม่มีใครมาทำอะไรชั้นได้หรอก" หรือมักจะคิดว่า "พื้นที่ส่วนตัวอ่ะ อย่ามายุ่งได้ปะ" ก็หารู้ไม่ว่าพื้นที่ส่วนตัวของคุณๆ นี่ เดินผ่านหน้าบ้านเห็นหมดอ่ะว่าแก้ผ้าอยู่ (- - ") 


    อย่างวันนี้เราลองเปิดดู Facebook Live Map ดู ก็พบว่าคนไทยใช้งาน Live กันเยอะเหมือนกันนะวันนี้เห็น Live แล้วแยกได้ประเภท Content คร่าวๆ ประมาณนี้

    • สนุกน่าสนใจ มีสาระเช่น สอนแต่งหน้า เล่นดนตรีโชว์
    • อวดความหล่อความสวยของตัวเองเฉยๆ เช่น ตั้งกล้องไว้แล้วก็นั่งเล่นเกม เปิดให้ถามตอบเล่นๆ
    • ปลดปล่อยตัวเองอย่างไม่แคร์สื่อเช่นเต้นบ้าๆ บอๆ ไปเลยหรือเล่นตลกหน้ากล้อง
    • เข้าข่ายไม่ปลอดภัยกับตัวเอง เช่น แปะเบอร์โทรไว้แล้วให้คนโทรเข้ามาหาแล้วก็คุยหน้ากล้อง
    • หยาบคายเข้าว่า เช่น ถามตอบเรื่อง-ำ หรือพูดเรื่องลามก
    • อนาจารโชว์ อันนี้...ไม่น่าจะต้องอธิบายเนาะ มันมีแล้วจริงๆ

    ประเภท 1-3 เนี่ยยังโอเค ไม่แย่ แต่ 4-6 เนี่ยน่ากลัวเบาๆ นะ ต่อไปนี้จะหาว่าเราเสือกก็ได้แต่ก็ห่วงใยนะยู <3 การที่มีคน Live ประเภท 4 อาจจะทำให้พบเจอกับโทรศัพท์โรคจิตหรือการโดนโทรไปกลั่นแกล้งตลอดเวลา อันนี้ต้องระวังมากๆ นะ แต่ถ้าเป็นเบอร์ใช้แล้วทิ้งก็แล้วแต่ ทำไปเล้ย หมวด 5 เรามองว่ามันเป็นการไม่เหมาะสมเรื่องกาลเทศะอ่ะ เคยมีคนกล่าวว่าการพูดตรงกับพูดหยาบคายมันไม่เหมือนกันนะ คนพูดตรงคือบอกว่าสิ่งนี้ดีหรือสิ่งนี้เลว ไม่ใช่การหยาบคายใส่คนอื่นแบบพร่ำเพรื่อ อันนี้ก็แล้วแต่ดุลพินิจของคุณๆ แล้วหละ แต่ประเภทที่ 6 เนี่ย โหดสัสสุดๆ โชว์ยิ้มกันต่อหน้าสาธารณะเลย ยังกับ Camfrog สมัยก่อน Facebook ไม่มีระบบตรวจจับ Live อนาจารเหมือน YouTube Live ครับ ฉะนั้น ยิ้มโชว์กัน Facebook ก็ยินดีให้ทุกท่านได้เสพย์ อืม...

    จริงๆ แล้วสิ่งที่เราห่วงมากที่สุดของ Facebook Live ในประเทศไทยคือเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเราๆ ท่านๆ นะครับ คือการทำ Facebook Live แต่ละครั้ง ระบบมันจะไปดูว่าเราตั้งการ Live ครั้งนี้เป็นแบบสาธารณะมั้ย ถ้าใช่มันก็จะดูว่าเราอยู่ที่ไหนแล้วแสดงบนแผนที่ได้ว่าเราอยู่ในพื้นที่ใด อาจจะไม่ได้บอกละเอียดด้วยซ้ำ แต่หากสมมติว่ามิจฉาชีพทราบว่าที่ที่เรา Live อยู่มันเป็นสถานที่ที่เค้าคุ้นเคย มันก็อาจจะมีโอกาสก่ออาชญากรรมได้ใช่มั้ยหละ ยิ่งถ้าเป็นพวกโชว์อนาจารเนี่ยน่ากลัวเข้าไปใหญ่ อย่างเด็กๆ เองที่ใช้ Facebook ก็ควรจะระมัดระวังไว้ให้มากๆ ทั้งเรื่องความปลอดภัยเองหรือเรื่องการใช้ดาต้าอินเทอร์เน็ตของมือถือ การ Live แต่ละครั้งไม่ใช่กดส่งสติกเกอร์ LINE นะฮะ มันคือการใช้ปริมาณดาต้าที่เยอะพอสมควร ฉะนั้นถ้าไม่ได้สมัครโปร Unlimit ไว้ ก็อย่าทำเลย Live ผ่าน WiFI เถอะ #อ้าว ไม่ใช่สิ! คือห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวน้องเองอ่ะครับ อาจจะโดนคุกคามได้ หรือถ้าเผลอพูดข้อมูลส่วนตัวออกไป อันนี้โคตรจะต้องระวังเป็นพิเศษเลยจริงๆ อันนี้ขอฝากไว้จริงๆ ส่วนผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านหรือผู้ใช้ที่มีวิจารณญาณที่ดีทั้งหลายก็อยากให้ช่วยกันสอดส่องดูแล Facebook Live หน่อยก็ดี เพราะมันเป็นเครื่องมือที่มีทั้งคุณและโทษ พวกเราจะได้ช่วยกันดูแลสังคมออนไลน์กันต่อไป อย่าลืมนะครับว่าความเป็นส่วนตัวคือเรื่องสำคัญของการใช้สังคมออนไลน์ อย่าปล่อยให้ใครเข้ามาลุกล้ำได้นะ ;D

    ปล. มาแบ่งปันความเห็นกันได้ที่ฟบคหด้านล่างเลยเด้อพี่น้อง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in