เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Drama & Movie fictiontomei_tan
[fic Supernatural]Love like onions
  • Title: Love Like Onions
    Category: Humor
    Pairing: Sam / Dean
    Rating: PG
    Spoilers: S03


    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""



    นักล่าคือผู้ที่ต้องทำงานอย่างหลบๆซ่อนๆภายใต้ผืนฟ้ายามราตรี มือที่ชื้นเหงื่อกอบกุมปืนอยู่ตลอดเวลา ค่าจ้างที่ได้มาไม่ใช่ตัวเงิน แต่เป็นความรู้สึกยินดีที่ได้ช่วยชีวิตใครสักคน

    แต่ตอนนี้ ภายใต้แสงแดดแผดจ้าที่ต่อให้ไม่ใช่แวมไพร์ก็อยากสลายกลายเป็นฝุ่น แซม วินเชสเตอร์ พ่อหนุ่มน้อยหน้ามนร่างสูงโปร่ง ในชุดกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ๊ตตัวบางที่สุดเท่าที่จะหาได้ กำลังยืนปาดเหงื่ออยู่บนพื้นยกสูงร่วมกับชายและหญิงร่วมห้าคน เป็นเป้าสายตาผู้คนทั้งในหมู่บ้านและนักท่องเที่ยว ซึ่งกำลังรอคอยให้ถึงเวลาแข่งขันที่จัดเป็นประจำทุกปี

    และแล้วพิธีกรชายหน้าตาเหมือนเกษตรกรดีเด่น ก็เดินขึ้นมาบนเวทีพลางจัดหูกระต่ายอันใหญ่ตรงคอให้เข้าที่เข้าทาง เขากระแอมเล็กน้อยก่อนที่จะพูดใส่ไมโครโฟน ที่ส่งเสียงหอนราวกับมนุษย์หมาป่าถูกดึงขนตูด

    [ "ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีครับ ผม ชิฟ สตรัค ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านกรีน มีความยินดีที่จะบอกว่าได้เวลาอันเหมาะสมที่จะเริ่มเทศกาลแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทุกคนพร้อมนะครับ" ]

    แซมตวัดดวงตาสีน้ำตาลคู่งามไปมองพี่ชายหวังเรียกหากำลังใจ พอเห็นอีกฝ่ายกำลังยืนปิดปากยิ้มขำอยู่สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็คว้าหัวหอมใหญ่เท่าลูกมะพร้าวขึ้นมาแล้วหั่นไม่ยั้ง

    ทำไมต้องมาทำบ้าอะไรแบบนี้นะเหรอ ? เหตุการณ์มันคงไม่บ้าบอขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้พี่บ้านั่น

    ......................................................................



    "แซมมี่ ฉันอยากกินชีสเบอร์เกอร์สักโหลนึง เบียร์ด้วย..."

    ดีน วินเชสเตอร์เดินลากขาเลียนแบบซอมบี้ ตามน้องชายเพื่อเข้าไปในร้านอาหารยามดึกที่อยู่ข้างถนน และพูดราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานร้านเบอร์เกอร์คิง ที่สามารถหยิบก้อนขนมปังประกบเนื้อที่ว่าใส่ถาดและส่งให้ถึงปากได้ทันที คนอ่อนกว่าหันมามองสีหน้าโรยแรงแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว แน่ล่ะเล่นถูกปีศาจจับตัวไปไม่พอ ยังโดนสูบเลือดไปอีกต่างหาก ช่วยไม่ได้ อยากดื้อจะฉายเดี่ยวเอง

    "นายมองฉันอย่างงี้หมายความว่าไง ?"

    คนเป็นพี่ย่นคิ้วถามเสียงขุ่น ร่างสูงที่เดินนำอยู่หมุนไหล่หันมามองสภาพคนที่มีสีหน้าซีดเซียว กำลังเดินตัวงอกุมกระเพาะที่ขนาดจะร้องหิว ก็ยังทำได้แค่ส่งเสียงครางหงิงเบาๆ แซมหรี่ตาย่นหน้าผากอย่างยียวน ก่อนจะผายมือออก

    "ฉันว่าถ้านายเดินแบบนี้ สงสัยกว่าจะถึงร้านคงปิดพอดีดีน เอางี้ ! ให้ฉันอุ้มไปนั่งรอในร้านไหม ?"

    "โฮะ ! แค่กล้ามแขนฉันมัดเดียว นายก็ต้องใช้รถเครนยกแล้วไอ้น้องชาย"

    ดีนแสยะยิ้มบอก ในใจอยากจะอยากจะเอามะเหงกเข้าไปทุบเถิกสักตุ้บ ฝ่ายนั้นเสหัวไปด้านข้างแสร้งตีสีหน้าเคร่งเครียดพลางเม้มปาก

    "โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวฉันขอล่วงหน้าไปสั่งของก่อน เอาเป็นว่าถ้านายแบกกล้ามนั่นไม่ไหวก็โทรเรียกแล้วกัน ยินดีรับใช้เสมอ" 

     ว่าจบก็รีบเร่งฝีเท้าเข้าร้านไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยเจ้าคนหัวดื้ออ้าปากพะงาบๆอย่างเจ็บใจ

    ภายในร้านอาหารเล็กๆที่ตกแต่งธรรมดา มีบาร์และโต๊ะนั่งไม้เบๆ คงเป็นเพราะว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ ผู้คนจึงแน่นขนัดเต็มร้าน ทันทีที่ชายหนุ่มร่างสูงลงนั่งตรงโต๊ะตัวในสุด พนักงานสาวร่างท้วมก็รีบเอาเมนูมาให้ดู แซมแอบมองพี่ชายที่กำลังกุมท้องเดินมาถึงประตูร้าน จึงรีบสั่งอาหารให้อย่างรวดเร็วก่อนจะลุกมาเปิดประตูให้ คนเป็นพี่พยายามยืดตัวอกผายไหล่ผึ่ง เก็บอาการเหนื่อยแทบสลบ ยกนิ้วชี้ไปยังโต๊ะข้างกาย

    "นายลืมที่พ่อสอนแล้วเหรอแซม ว่าเราควรจะเลือกนั่งโต๊ะใกล้ประตูไว้ เผื่อมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาเราจะได้หนีทัน"

    "เหรอ...สงสัยพ่อคงลืมสอนฉัน"

    คนร่างสูงกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม เป็นเชิงรู้ทันว่าอีกฝ่ายกุเรื่องขึ้นมาเพราะลากสังขารต่อไปไม่ไหวแล้ว พี่ชายจึงทำหน้าเซ็งขณะวางก้นลงบนเก้าอี้ไม้ พนักงานร่างท้วมคนเดิมจึงรีบกุลีกุจอเข้ามารับออร์เดอร์ แซมรีบตัดบท

    "ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันสั่งให้แล้ว ชีสเบอร์เกอร์ พาย แล้วก็เบียร์"

    "เยี่ยม แต่ฉันรู้ว่านายลืมไปอย่าง"

    ดีนมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าง ก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างนึกสนุกแล้วหันขวับไปทางคนรับออร์เดอร์ "ใส่หอมไปในเบอร์เกอร์เยอะๆ เลยนะคุณผู้หญิง"

    "เฮ้ ดีน...แต่ไอ้คนที่ต้องอยู่กับหอมเยอะๆจากปากของนายนี่มันฉันนะ"

    "อ่ะเหรอ รู้อะไรไหมแซมมี่ หอมเนี่ยมีประโยชน์นะ"

    "อะไร ?"

    "อิ่ม"

    ดีนพูดสั้นๆ พลางเลิกคิ้วขึ้นจนเห็นหน้าผากเป็นร่องเล็กๆดูกวนอารมณ์ คนฟังมองกลับตาขวาง ได้แต่ขยับมือขึ้นลงไม่รู้จะเริ่มอธิบายยังไงกับคนตรงหน้าให้รู้จักใส่ใจคนรอบข้างเสียบ้าง ของกินยังไงมันก็อิ่มเหมือนกันล่ะ แต่กลิ่นยามพูดเนี่ยล่ะโว้ย

    "ฉันน่ะนะ...ไม่เห็นว่าของพรรค์นั้นมันจะมีประโยชน์ตรงไหน...เหม็นก็เหม็น ปอกก็แสบตา ใช้ไล่ผีก็ไม่ได้ เป็นพืชที่น่ารังเกียจสุดๆ"

    ....พอสิ้นคำ ก็มีแสงสว่างจ้าเข้ามาในร้าน ราวกับมีเทวดาปรากฏกาย....

    ....ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร แต่ตื่นเช้าขึ้นมา แซมก็มีรากขึ้นที่เท้า....

    ......................................................................


    [ "เอาล่ะครับตอนนี้ทุกคนหั่นหอมใหญ่กว่าหนึ่งกระจาดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ! น้ำตาไหลพรากๆ กันอย่างกับน้ำตกไนแองกาล่าเลยครับ ! โอ้โหวววว ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างกระเป๋าตังค์หายกับหั่นหอม อันไหนจะทำให้น้ำตาไหลได้มากกว่ากัน" ]

    ......................................................................


    "นายกำลังจะกลายเป็นหัวหอมพร้อมปลูกแซม...ภายในหนึ่งอาทิตย์"

    "อะไรนะ ?"

    "หัวหอมพร้อมปลูก"

    เจ้าพี่บ้าย้ำพร้อมกับยื่นหนังสือเกี่ยวกับตำนานพื้นเมืองให้ดู ในนั้นเขียนภาพเทพเจ้าซึ่งคุ้มครองคนในแถบนี้ ที่ชอบสั่งสอนมนุษย์ให้รู้จักรักในสิ่งที่เกลียด แซมถอนหายใจหนักขณะเอาเท้าที่เต็มไปด้วยรากจุ่มลงไปในถังน้ำเพื่อดับกระหาย มิน่าตอนที่เขาพูดคำว่าเกลียดหัวหอม คนทั้งร้านถึงสะดุ้งโหยงขนาดนั้น

    "แล้วยังไงต่อ ?"

    "ไม่ยังไง ถ้ามันเป็นคำสาปเฉพาะที่ก็ทำลายไม่ได้อยู่แล้ว แต่ดูนี่สิ เขาเขียนบอกไว้ว่า ต้องทำสิ่งที่เกลียดภายในอาทิตย์นั้นเยอะๆจนเทพพอใจเพื่อป้องกันการกลายร่าง แล้วก็นี่..."   ดีนชี้ไปที่โฆษณาในเว็บไซด์ที่เพิ่งค้นเจอ   "หมู่บ้านข้างๆมีเทศกาลบูชาเทพหอมใหญ่อยู่พอดี สมัครฟรีด้วย"

    "ให้ฉันควงมีดทาเนยไปไล่ผีดีกว่า"

    คนฟังถึงกับทิ้งตัว เอนหลังไปยังพนักพิง แขนก็ตวัดขึ้นก่ายหน้าผากอย่างเหนื่อยใจ และนั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายนึกสนุกขึ้นไปใหญ่

    "ไม่เอาน่าแซมมี่ ฉันไม่อยากไปปราบปีศาจพร้อมกับหอมใหญ่หรอกนะ ลองคิดดูสิ เทศกาลนี้มันน่าสนุกดีออก แล้วถ้าชนะ นายก็จะได้ตั้งพันดอลล์เชียวนะ"

    ....เรื่องมันก็เป็นแบบนี้.....

    ......................................................................



    "วู้ว!! สุดท้ายก็ชนะจนได้ สุดยอดเลยไอ้น้องชาย!"

    ดีนหัวเราะร่าบอกขณะขับรถไปตามทาง หน้าต่างของอิมพาร่าสีดำขลับถูกเปิดกว้างเพื่อให้อากาศหอมๆได้ถ่ายเท งานนี้เทพคงจะพอใจอย่างที่พี่ชายว่า แน่ล่ะ จะไม่ให้พอใจได้ยังไง ทั้งปอกจนน้ำตาไหล ด่านต่อไปก็ต้องมาคั้นน้ำกิน อีกส่วนก็ราดอาบตัวอีก นี่ถ้ารากที่เท้าไม่หลุด แซมคงคิดว่าคำสาปกลายเป็นหัวหอมนั่นสัมฤทธิ์ผลไปแล้ว

    "นี่ดีน นายสัญญากับฉันไว้จำได้ไหม ว่าถ้าฉันชนะ ฉันจะยกเงินให้นาย แต่ฉันขออะไรอย่าง"

    คนเป็นน้องทวงสัญญาด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนพาให้คู่สนทนารู้สึกหวาดหวั่น บางทีจำนวนเงินมันก็ทำให้คนเราหน้ามืดยอมรับปากอะไรง่ายๆ ดีนจึงใช้คติใจดีสู้เสือพยายามยิ้มถามกลับ

    "อะ...อะไร ?"

    "ฉันจะจูบนาย"

    ว่าเสร็จก็โอบคอหมับ อีกฝ่ายร้องตกใจที่จู่ๆน้องชายก็กระโจนเข้ามา มือเผลอปัดพวงมาลัยเสียรถไถลไปผิดเลน คนขับรีบหมุนมันกลับมา แซมยังคงส่งเสียงอ้อนพี่ที่ยังคงเหยียบ 120 อยู่

    "ทำไม นายรังเกียจที่จะรับจูบหอมๆของฉันเหรอ ชอบหอมเยอะๆไม่ใช่รึไง ?"

    "หอมเยอะๆน่ะฉันชอบเว้ย แต่จะให้ฉันจูบนายได้ไงล่ะฮะ ?"

    "รังเกียจเหรอ ?"

    "เออสิ !"

    แล้วแสงสว่างก็วาบขึ้นกลางรถวูบหนึ่งก่อนจะหายไป ดีนถึงกับหน้าถอดสีรีบเหยียบเบรคหยุดรถเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนพ่อหนุ่มคนข้างกายก็เขยิบตัวกลับมานั่งตามเดิมแล้วเริ่มฮัมเพลง คนเป็นพี่เริ่มหน้าซีด

    "นายว่า...มันจะเกิดอะไรขึ้น"

    "ก็ระหว่างทีมฮันเตอร์ที่มีแซมมี่สองคน กับมากกว่าจูบที่จะทำให้เทพพอใจล่ะมั้ง"

    ว่าแล้วก็หัวเราะคิกใส่ก่อนจะเบนหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มออกนอกหน้าต่าง หนีอีกคนที่กำลังตีหน้ายักษ์มองมา ดีนเอื้อมมือไปเปิดวิทยุสุดเสียง ก่อนจะเข้าเกียร์ให้รถคู่ใจทะยานไปบนท้องถนน

    ......................................................................

    end
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in