[2016, Kore-eda Hirokazu] 

ชื่อเรื่องภาษาไทย 'รักได้ไหมพ่อคนนี้' ชวนให้กลัวว่าจะซ้ำทางกับเรื่อง Like father, Like son 
แต่ฮิโรคาซู โคริเอดะ ก็ไม่ทำให้ความกลัวนั้นกลายเป็นจริง

เรียวตะ คุณพ่อร่างสูงใหญ่แต่ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาไม่โตซักทีในสายตาของพี่สาว แม่ และเมียงานเขียนของเขาได้รับรางวัลใหญ่ระดับหมู่บ้านสองสามครัวเรือน ชื่อหนังสือไม่มีใครเรียกถูก จำนำข้าวของเลี้ยงปากท้อง ติดการพนันจนคนรอบข้างแปะป้าย'ผู้รู้'ให้ และหย่าเมีย 
แต่ต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูลูกด้วย เขาจึงทำงานเป็นนักสืบเอกชน

ขณะทำงานเป็นนักสืบที่เรียวตะอ้างว่าทำไปเพื่อหาวัตถุดิบไปเขียนหนังสือ เขาก็ตามสืบเรื่องของเมีย
กับแฟนใหม่ของเมียไปด้วย โดยมีลูกชายเป็นหนอน 
ด้วยความที่เรียวตะอยากแก้ปมในอดีตของตัวเองและไม่ยอมลงให้กับ 'ชะตาชีวิต' ที่เขาและลูกค้าในอาชีพนักสืบ(เปรียบเป็นตัวแทนของคนทั่วๆ ไปที่ไม่ปลื้มชีวิตตัวเอง)พร่ำบอกว่า 
'ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้'
ก่อนพายุหมายเลข 24 พัดผ่านไป คนเป็นพ่อคนจึงพยายามทำอะไรบางอย่าง

.
.

แม้ After the storm เป็นเรื่องที่มีเมนเป็นตัว 'คุณพ่อ' แต่เราว่าพายุไม่ได้โจมตีแค่พ่อคนเดียวเท่านั้น
แต่กระหน่ำคนทั้ง 3 รุ่นในครอบครัว ซึ่งการแตะ 3 Gen นี่แหละที่เราชอบมากและเป็นจุดพลัสคะแนน

บทบาทกระจายสู่ตัวละคร ทุกเพศ ทุกวัย อย่างทั่วถึง ตามน้ำหนักที่แต่ละตัวสมควรได้รับ
การมีอยู่ของตัวครตัวหนึ่งมีเพื่อส่งเสริมตัวละครอื่น คำพูด การกระทำ การตัดสินใจต่างๆ 
มีเหตุผลรองรับทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่เคยเจอ ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ 
ทำให้คนดูเข้าใจตัวละคร ไม่เชียร์ ไม่สาปใคร ยอมรับเนื้อเรื่องที่เป็นไป 

แต่ขออนุญาตไม่ชอบบทของเรียวตะ-คุณพ่อจอมห่วย (แต่นี่มันปมของเรื่องเลยนะ) 
เพราะบทส่งมาห่วยเพื่อห่วย ข้อดีจางๆ ของบทนี้คือมีสำนึกรักลูกชาย หรือบางทีอาจจะรักลูก
เพราะรักตัวเองด้วยซ้ำ
แต่หนังก็ให้เหตุผลความห่วยของเรียวตะว่าเป็นเพราะพ่อของเขานั่นเอง เรียกได้ว่าลูกไม้ตกโคนต้น

แอบชอบสัญญะล็อตเตอรี่-เป็นสัญญะความหวังซึ่งแรกทีเดียวเป็นความหวังแค่ของเรียวตะกับลูกชาย
แต่ที่สุดท้ายแล้ว พ่อ แม่ ลูก ก็ช่วยกันกอบกู้เอาไว้

ซาวด์น้อย แต่ใส่มาในเวลาที่'ใช่เลย'ทั้งนั้น ยิ่งตอน end credit หลายๆคนน้ำตาท่วมเอ่อเอาตรงนี้ 

หนังเนิบหน่อย แต่มีคุณย่าคอยช่วยไว้ (เราชอบบทนี้มาก นางเป็นคนแก่สายบันเทิง) 
เราไม่ค่อยรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นเท่าไหร่ คุณย่าทำให้เรารู้ว่า อ๋อ คนญี่ปุ่นตบมุกตลกกันแบบนี้หรอ 

เรื่องนี้ไปดูเหอะ อบอุ่นใจ ดีต่อขากรรไกร 
ดูเพื่อเข้าใจคนรอบข้าง และตรวจสอบตัวเอง และเหมาะยิ่งสำหรับคนที่ยังไม่ติ๊กถูกช่อง 
to do list ในชีวิตหลายๆ ข้อ แต่ก็ต้องเตรียมใจกับประโยคเรียบๆ สอดไส้มีดเอาไว้ ประมาณว่า 
คนเก่งเปล่งประกายช้า ต้นส้มที่ยังไม่ออกดอกออกผล ฯ

ไปดู ไปโดนพายุซัดพร้อมๆ กับครอบครัวนี้ หลังพายุพัดผ่าน ม่านหมอกจะแหวกทางให้ฟ้าใส


[4/5]

เข้าฉายในไทย : 15 กันยายน 2559