ภาพยนต์เรื่อง Hacksaw + ridge
กำกับโดย - Mel Gibson
นักแสดง - Andrew Garfield, Sam Worthington, Luke Bracey Hugo Weaving Teresa Palmer
Genre - Biography, Drama, History
ความยาว - 2ชั่วโมง 9 นาที
นี่เป็นงานกลับมาคืนฟอร์มของสุดยอดผู้กับและนักแสดงมากฝีมือ Mel Gibson นี่คือผลงานชั้นยอดในรอบหลายๆปีของเขาเลยทีเดียว หลังจากที่เคยทำหนังได้ออสก้าสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยมมาแล้วกับเรื่อง Braveheart ในปี 1995 และเขายังได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วยในปีนั้น
เรื่องย่อ
พบกับภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของนายทหารผู้ไม่เชื่อเรื่องการเอาชีวิตคน แม้กระทั่งศัตรูของเขา กับภารกิจที่โลกจะต้องจารึกในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และยึดมั่นในสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดชีวิต เมื่อเขาคือทหารคนเดียวที่ช่วยชีวิตเพื่อนทหารผู้บาดเจ็บหลายสิบนายท่ามกลางห่ากระสุนของฝ่ายศัตรู โดยที่เขาไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว
มาเริ่มวิเคราะห์วิจารณ์กัน
ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง ของมหาวีรบุรุษสงคราม นามว่า เดสมัน ดอส และหนังก็เล่าผ่านตัวละคร เดสมัน ดอส ในวัยหนุ่ม ( แสดงโดย แอนดรูว การ์ฟิล ) ที่มีความคึกคะนอง และ มีอุดมคติอันสูงส่ง เดสมัน ดอส วัยรุ่นผู้ที่ เคร่งศาสนาคริสต์ อย่างจริงจัง เพราะการปลูกฝังของแม่ และเหตุการณ์ในอดีตที่เขาไม่อย่างจะทำร้ายใครอีก
หนังเรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องแบบ Classic design เล่าไปตามสถานการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ
ต้องบอกอย่างนี้ว่า การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ใหม่อะไร ออกแนวเชยไปซะด้วยซ้ำ แต่.. ผู้กำกับรู้ตัวเองว่า อยากนำเสนออะไร หนังสงครามนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้คือฉาก ฆ่า ยิง กันในสมรภูมิ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ ทำออกมาได้สมจริงมากๆ ถึงมากที่สุด นี่คือหนังที่มีฉากสงครามที่รุนแรงและสมจริงมากเรื่องหนึ่ง แต่ความรุนแรงนั้นมันคือความโหดร้าย ความสูญเสีย ที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิด ฉากสงครามนั้น สร้างความมันส์ แต่ก็หดหู่ไปในเวลาเดียวกัน
การเปิดเรื่อง (Exposition)
เปิดเรื่องมา หนังพาไปสำรวจ เดสมัน ดอส ในวัยเด็ก อยู่ในครอบครัว ที่มีพ่อเป็นอดีตทหารขี้เมา แต่เขาก็อยู่ในครอบครัวที่มีแม่เป็นคนเคร่งศาสนาเช่นกัน เป็นความขัดแย้งในครอบครัวที่ชัดเจน พอเจ้าหนุ่มเดสมัน โตขึ้น เขากลายเป็นคนเคร่งศาสนา ถือเป็นการให้มิติเป็นอย่างดีกับ ตัวละคร ทำให้รู้จักตัวละครมากขึ้น
การพัฒนาเหตุการณ์ (Rising action)
การพัฒนาจากเด็กหนุ่ม ไปเป็น ทหารนั้น ค่อนข้างธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ เดสมัน ไปสมัครหน่วย แพทย์สนาม เพื่อที่ต้องการช่วยคนเจ็บในสมรภูมิ แต่เขา จะไม่จับปืน หรือ อาวุธ ต่างๆเลย นี่คือจุดที่ ทำให้เพื่อนๆในค่ายหมั่นไส้ ในอุดมคติของเขา และถูกกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ รวมถึงต้องขึ้นศาลทหารกันเลยทีเดียว ตัวละคร เดสมัน รู้สึกเจ็บปวดในค่ายแห่งนี้ ไม่มีใครเข้าใจเขา และคนก็คิดว่า เขาไม่เข้าใจสงครามเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ต่อสู้ในอุดมคติ จนได้ร่วมสงคราม เป็นความขัดแย้งกันที่ นักแสดงนำ แอนดรูว์ การ์ฟิล เล่นได้ดีมากทีเดียว
ภาวะวิกฤติ (Climax)
ไคลแม็ก คือ ฉากสงคราม ที่ทำได้ยอดเยี่ยม สมจริงมากๆ และที่ชอบคือ ความเถื่อน รุนแรง เป็นหนังสงครามที่มีฉากรุนแรงเยอะมาก นั่นทำให้ตื่นเต้น แต่กลับหดหู่ในเวลาเดียวกัน ต้องขอชมทีมงานว่า เนรมิตฉากสงครามได้สุดยอดทีเดียว สุดยอดทางอารมณ์และ งานด้านภาพก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน การตัดต่อฉับไว การใช้มุมภาพแบบ แฮนเฮล นั้นทำให้สมจริง และ วีรกรรมของ เดสมันนั้น ต้องยกย่อง ว่าเป็น วีรบุรุษตัวจริง
ภาวะคลี่คลาย (Resolution) & การยุติเรื่องราว หรือการปิดเรื่อง (Ending)
และตามสูตร หลังจากฉากสงครามอันหนักหน่วง ก็กลับมาสู่การเชิดชูวีรบุรุษ เดสมัน ดอส สรุปวีรกรรม และมีภาพ ฟุตเทจ สัมภาษณ์ เดสมัน ดอส ในวัย ชรา
ความขัดแย้ง (Conflict)
ความขัดแย้งที่เป็น จุดขายของหนัง คือ การที่เดสมัน ดอส สมัครร่วมสงคราม แต่ ไม่ขอจับอาวุธทุกชนิด
การตัดต่อ
หนังสงครามเรื่องนี้ มีการตัดต่อที่ฉับไว ทำให้ตื่นเต้น และสมจริง
สรุป
นี่คือหนังสงคราม ที่เล่าเรื่องตามสูตร เล่าง่าย แต่ดี แคแรคเตอร์ โดดเด่น ฉากสงครามที่สมจริงรุนแรงและสะเทือนอารมณ์ อาจมีช่วงน่าเบื่อบ้าง แต่พอเริ่มเข้าสมรภูมิแล้วนั้น ต้องบอกว่า สุดยอดแห่งความตื่นเต้นเลยทีเดียว นี่คือหนัง โปรอเมริกัน ที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง และเป็น 1 ในหนังที่เข้าชิงรางวัลภาพยนต์ยอดเยี่ยม ของ ลูกโลกทองคำ และ ออสก้าอีกด้วย ภาพยนต์เรื่องนี้ควรค่าแก่การรับชม
คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัว
8 / 10 คะแนน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in