เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ออกไปเที่ยวatnirnoom
ทริปผจญ(ลุงป้ามหา)ภัย. Flight back home
  • หลังจากไปเรียนมาสองเทอม ก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว
    ที่มาเขียนโพสต์นี้เพราะเบื่อมาก นั่งรอในเกทมา 5 ชม ละจ้าาาา

    ปวดหลังจากการยกของย้ายห้อง แล้วก็ไปยิมเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน เมื่อคืนดันนอนขดตัวอีก เพราะหนาวมากแต่เก็บที่นอนลงกล่องไปแล้ว ตอนนี้ปวดหลังเหมือนคนแก่เลย ไม่นะคะ ทำให้ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะมีชีวิตรอดไปถึงบ้านที่เชียงใหม่ไหม จะผ่านวิกฤตนั่งเครื่อง 1 วันกว่า หรือไม่. มาสวดภาวนาให้กระดูกสันหลังของน้องด้วยนะคะ

    เช้านี้ ตื่นมาตอนตีห้าครึ่ง เพราะรูมเมทตื่นขึ้นมาเก็บของ ว่าจะตื่นมาบอกลา แต่กลายเป็น
    ว่าเผลอหลับไปอีกเฉย ตื่นมาอีกทีก็แปดโมงแล้วจ้า. ขอโทษนะรูมเมท เดี๋ยวส่งเมสเสจไปบอกลา

    ตื่นมา อาบน้ำ เข้าห้องน้ำ อึด้วย ไปปวดตอนเดินทางไกลจะไม่ดี พอสิบโมง แล้วก็ลากกระเป๋าสองใบออกจากหอ ไปขึ้นรถบัสหน้ามหาลัย โดยมีคุณเพื่อนไปส่ง เราก็เลยตอบแทนเพื่อนด้วยขนมกรุบกรอบที่เราซื้อมาแล้วยัดกระเป๋าไม่ได้ 5555 

    นั่งรถบัสไปสนามบิน. Boston Logan airport ใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงกว่า ที่จริงมีเพื่อนคนเกาหลีมาด้วยกัน แต่นางคิดว่ารถน่าจะเหลือที่เลยไปนั่งคนเดียวแถวหลัง ระหว่างทางไปนี่ก็นั่งฟังเพลง มิวสิเคิลของแฮมิลตันไป อย่างคึก 

    ไปลงที่ terminal C ไปถึงบ่ายโมงแต่เครื่องออกหกโมงจ้าาา ก็นั่งรอไปยาวๆ คิดว่าจะไปรอในเกทละกัน ปรากฎว่าไม่ผ่าน security เพราะลืมเอาน้ำออกจากขวดน้ำพลาสติก ก็เลยต้องยืนรอจนท. ตรวจกระเป๋า. จนท. ตรวจกระเป๋าของคุณป้าอีกคนอยู่ นางลืมเอาน้ำส้มออกจากกระเป๋าจ้า แถมเอากราโรล่าบาร์มาเยอะมากกกก ประมาณ 20 อันอะ ป้าจะเอาไปทำไรเยอะวะคะ. พอถึงตาจนท. ตรวจกระเป๋าเรานี่รีบบอก I just forgot to drain out my water bottle ลุงจนท. ก็แบบเอ่อ ละเดินเอาน้ำไปเททิ้งจ้า

    ผ่าน security มา ก็ไปนั่งๆนอนๆรอที่หน้าเกือบ แต่เรื่องไม่จบ ว่าจะเอาหนังสือมาอ่าน ปรากฎว่าหยิบออกมาหนังสือเปื้อนหมึกน้ำเงินเต็มไปหมด เพราะปากกาแตกจ้า กระเป๋าดินสอผ้าคือเปียกชุ่ม ต้องเอาไปทิ้ง มือเปื้อน หนังสือเปื้อน แล้วปากกาเยอะมาก แบบเวรกรรมอะไรนะ 

    นั่งรอไปเรื่อยๆ สักห้าโมง เขาบอกว่าเปลี่ยนเกทจ้า อะไรกัลลลล วิ่งไปอีกเกทด้วยความเร็วแสง. ขึ้นเครื่องหกโมงพอดี. กับสายการบิน jet blue เพื่อไปสู่ JFK airport ค่ะ. จะบอกว่าเครื่องบินในประเทศที่เมกาเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แบบเครื่องที่นั่งมานี้ ร้องเสียงดังแบบรถไถคูโบต้าตลอด 1 ชมที่นั่งไปเลยค่ะ นี่ก็คิดว่า กุจะตายป่าววะ ตลอดทาง. คนที่นั่งข้างๆเป็นผชฝรั่งสัก 40 กว่า นั่งอ่านโน้ตเปียโน ใส่หูฟังไปตลอดทาง แอบสงสัยว่าเขาอาจเป็นนักดนตรีในบรอดเวย์ก็ได้ 

    มาถึง JFK ก็เดินงงๆไปเปลี่ยน terminal เพราะตอนนี้จะบินกับ Ethihad ไป อะบูดาบี ค่าาา เครื่องขึ้นเกือบห้าทุ่ม ก็ไปนั่งรออีกแล้ว ดีที่กระเป๋า check through ถึงไทย เลยไม่ต้องกังวล เดินตัวปลิวไปเลย มารอหน้าเกท นี่ก็นั่งไถโทรศัพท์ไปเรื่อย แล้วความพีคก็เกิดขึ้น เมื่อมีลุงแขกคนนึงส่งแอร์ดรอปรูปเซลฟี่ตัวเองมาให้ดิฉันค่าาาา วดฟฟฟ เป็นรูปลุงหนวดกำนัน หน้าแขกๆ ทำหน้าขรึมๆ น้องกลัวววว รีบกดรีเจค แล้วก็รีบมองหา อิลุงที่ไหนฟะ ปรากฎว่าลุงเขานั่งถัดไปอีกสามแถวทำท่าสำรวจโทรศัพท์ เหมือนเพิ่งเคยเล่น ลุงงงง ส่งมาไปเรื่อยได้ไง แอบหลอนแต่ก็ตลก //ถ้าเป็นท่านชีคหล่อๆจะกดรับค่ะ แต่เป็นคุณลุงก็ขอผ่านดีกว่าค่ะ

    พอขึ้นเครื่องได้นั่งกับป้าคนอินเดีย ที่นั่งสามคน เรานั่งติดหน้าต่าง ป้านั่งติดทางเดิน. เราก็บ่นในแชทกับเพื่อนว่าปวดหลัง เพื่อนบอกเอาขาวางพาดเก้าอี้กลางที่ว่างเลย เราก็เกรงใจป้า ไม่เอาอะแก ปรากฏว่าป้าไม่เกรงใจกุละจ้า ป้าเอากระเป๋าป้ามาวาง สักพักป้าล้มตัวนอนเลยจ้า เอาหัวมาทางเรา อินี่ก็ไม่ยอมเว่ย ทำไมป้านอนได้ ไม่ยอม จะนอนใช่มะ ไม่ให้นอน แบร่ เปิดหนังดู หน้าจอสว่างโร่เลยจ้า ป้านอนได้นอนไปเรยยย สักพักป้านอนไม่หลับหันตีนมาทางนี่แทน อีกนิดเดียวนี่เอาตีนวางตักกุเลยจ้า นี่ก็เปิดเพลงฟัง แล้วเขย่าขา ทำเปงเมามันกับเพลงให้ป้ารู้ตัว สุดท้ายป้ายอม ป้าไปนั่งหลับเงียบๆ

    มาถึงอะบูดาบีลากันทีกับป้าอินเดีย มาเจอป้าคนไทยจ้าาา ป้าเดินมาพูดอังกฤษใส่เราให้ช่วยใส่ซิม นี่ก็ช่วยใส่ หยิบซิมมาดู อ่าวดีแทคนี่หว่า เลยรีบพูด คนไทยปะคะ. ป้าก็อ่อใช่ คนไทยเหมือนกันเหรอ /ไฮี่ๆๆ เราว่าเราหน้าโคเรียแน่ๆเรยค่ะ ป้าไม่รู้ //. หลังจากนั้นต่อแถวบอดดิ้งพาสขึ้นเครื่องไปสุวรรณภูมิค่ะ แถวยาวเว่อ นี่ก็ไปต่อ พอใกล้จะถึง ป้ามาจากไหนไม่รู้มาแทรกดาด แล้วบอกขอบคุณนะ นี่เหวอ แบบวอทททท เห้ยคนไทยเหมือนกัน จะแซงกันก็ได้หรอ มองพาสปอตป้าเป็นอังกฤษซะเปล่า นิสัยก็มนุษย์ป้าไทยๆชัดๆ. //นี่มันทริปมนุษย์ป้าหรอฟะ มนุดป้ามีทุกสัญชาติจริงๆโว้ย

    ขึ้นเครื่องได้รั่งริมหน้าตา กับผชฝรั่งสองคน คุยกันหนุงหนิงเชียวแต่ฟังไม่ออกไม่ใช่อังกฤษ แต่น้องว่าเขาเปงผัวกันแน่ๆค่ะ มีการดูหนังพร้อมกัน หัวเราะด้วยกัน ทำวากันด้า ฟอร์เอเว้อใส่กัน หัวร่อต่อกระซิก //อินี่ก็หลับจ้า ตื่นมากินเท่านั้น //พอใกล้ลงเครื่องผชคนนึงก็ยื่นกล่องอินทผลัมให้กิน อินี่ก็ตะกละ ไปแดกของเขาแล้วเพิ่งคิดได้ว่าอย่ารับของจากคนแปลกหน้า เออ แต่แดกไปละอะ เขาก็ไม่ได้ดูเลวร้าย อีกอย่างอยู่บนเครื่อง ถ้าใส่ยาพิษคงมีแอร์มาช่วย พอกินแล้วก็เลย เอ่อ คุยกะเขาดีกว่า เลยถามว่ามาจากไหน เขาสองคนบอกมาจากสวิสเซอร์แลนด์ แล้สถามว่าเรามาจากไหน นี่ก็บอกมาจากไทย นางเหวอกันไปหน่อย 555 ฉันหน้าโคเรียแน่ๆ ล้อเล่น นางงงว่ากุมาจากไทย แต่นั่งเครื่องมาไทยด้วยสภาพสะบักสะบอมหมือนนั่งมานานแล้ว ซึ่งก็ถูกค่ะ เพราะดิฉันนั่งเครื่องมาจะ20 ชมแล้ว ฮืออออ เลยบอกว่าไปเรียนที่เมกามาจะกลับบ้าน. พอเครื่องลงนางก็โบกมือลา นี่ก็อวยพรขอให้สนุกนะ //เป็นไฟลท์เดียวที่ไม่ได้นั่งกะมนุษย์ลุงป้า. พอเล่าให้เพื่อนฟัง นางบอกทำไมทริปมุงบันเทิงจังวะ ฮืออออ

    ตอนนี้ก็ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพแล้ว เหลือบินกลับเชียงใหม่ 

    บินกลับเชียงใหม่ กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ตอนแรกว่าจะนั่งกินขนมในเลานจ์ สุดท้ายเมาท์กับเพื่อนเพลินจนมิได้ไป. ผู้โดยสารส่วนมากเป็นฝรั่งนักท่องเที่ยว นี่เป็นคนไทยไม่กี่คน แอร์เห็นเรานี่รีบพ่นไทยใส่เลยจ้า ได้ค่ะ ซิส ที่นั่งสามที่มีเรานั่งคนเดียวจ้า งงไปเลย แต่อาหารบนเครื่องอร่อย รักสายการบิน. สรุปว่าก็กลับถึงบ้านปลอดภัย แค่หลังร้าว นั่งเก้าอี้ไม่ได้ไปสักพัก 5555
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in