เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I GO AROUND THE PLACE EATING AWAY MY PROBLEM 8-O8dashslash
Appreciating rainy season
  •           สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนคนได้จริง ๆ 
              วันก่อนเรามีโอกาสได้ไปดูดอกไฮเดรนเยียมา หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าดอกอะจิไซ มันแบบ.. อลังการงานสร้างมากค่ะคุณพี่! ตอนดูในเว็บก็ว่าใหญ่แล้ว ไปเจอของจริงใหญ่กว่าที่คิดอีก ปริ่มสุด ๆ รูปที่โชว์ในเว็บสวนใหญ่เค้าจะโชว์กันแค่ด้านหน้าของสวน ไอ้เราก็เลยคิดว่าจะมีแค่นั้น แต่คือสวนจริงมันยังมีไปต่อด้านหลังอีกใหญ่มาก คือแบบไม่คิดฝัน


    ดอกไฮเดรเยียก็จะบานช่วงหน้าฝนนี่แหละ ซึ่งก็คือช่วงเดือนหกของญี่ปุ่น (เดือนนี้นั่นเอง) คือแบบบานทุกหย่อมหญ้าทุกหนแห่ง ถึงไม่ต้องดั้นด้นไปที่สวนนี้คุณก็พบปะมันได้ตามสวนหน้าบ้านคุณค่ะ (หน้าบ้านคุณแต่ก็คือสวนของคนอื่นค่ะ ได้แต่ยืนดูจะให้ไปถ่ายบ้านคนอื่นก็ยังไงอยู่ เค้าจะจับชั้นเอาค่ะคุณพี่) ตอนไปก็พยายามหลีกเลี่ยงคนเต็มที่ สำหรับคนอื่นอาจจะยากนะ แต่สำหรับเรา.. อีซี่ค่ะ ไปก็ไปคนเดียวค่ะ แถมไปถึงคนก็ไม่กล้าเข้าใกล้เราเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ ห่างกันเกินสองเมตรตลอดเวลา.. แต่ถึงยังงั้นยังงี้ก็คนเยอะกว่าที่คิดอยู่ดีเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย คือ เพิ่งเคยเห็นรถติดเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่นอะ ติดเพราะคนมารถส่วนตัวกันแล้วรอเอารถเข้าไปจอด (แต่ตัวผ้มนั้นไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลยคับ!!! เพราะผ้มมารถไฟ.. ที่ไม่มีคน.. และเดินต่อมาที่สวนอีกยี่สิบกว่านาที.. ซึ่งระหว่างเดินมาก็มีผ้มคนเดียว..)


    สวนนี้จริง ๆ แล้วก็อยู่ในจังหวัดที่เราอาศัยอยู่นี่แหละ ไม่อยากไปไหนไกล แต่ก็เป็นสวนที่ดังอันดับต้น ๆ ของจังหวัดเลยเรื่องดอกไม้ชนิดนี้ ชื่อคาตะฮาระออนเซ็นอะจิไซโนะซาโตะ 形原温泉あじさいの里 (ชื่อออนเซ็นคาตะฮาระ แล้วตามด้วยการบอกว่าเป็นหมู่บ้านแห่งอะจิไซ) อยู่ที่เมืองกามาโกริ จังหวัดไอจินั่งมาจากนาโกย่าก็แปปเดียวเพราะมีรถด่วนผ่าน ในช่วงเดือนหกที่เค้าเปิดสวนให้เข้าดู จริง ๆ แล้วเค้าจะมีรถบัสรับส่งจากสถานีกามาโกริมาที่ตัวออนเซ็นเลย แต่เหตุผลที่ผ้มต้องเดินนั้น.. เพราะผ้มมาไม่ทันรอบรถครับ.. แล้วมันต้องรออีกหนึ่งชั่วโมง.. ผ้มก็เลยนั่งรถไปต่อไปที่สถานีย่อยแล้วเดินเองอีกนิดหน่อยใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่เดินถึงสวนนี่ดั่งอาบน้ำ โคตรร้อนนนนนนนนน


    ตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่นรู้สึกว่านิสัยเราเปลี่ยนไปพอสมควร (ไม่ถึงกับคอร์แวลู่เปลี่ยน แต่ก็พอสมควร) เมื่อก่อนนี่ไม่มีหรอกนะจะมานั่งชื่นชมดอกไม้อะไรแบบนี้ เดินถ่ายเล่นได้เป็นวัน ๆ เอ็นจอยกับซีซั่นต่าง ๆ การเปลี่ยนผ่านของเดือนต่าง ๆ คือแบบ ชีวิตมันมีรายละเอียดขึ้นเยอะ ทำให้เราสนใจรายละเอียดของเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มากขึ้นด้วย ไปนั่งเปรียบเทียบรูปที่ตัวเองถ่ายเมื่อปีที่แล้ว เหมือนหนังคนละม้วน.. ฮ่าฮ่าฮ่า ดูออกเลยว่าเรามีความสุขกับการช่ื่นชมและการนั่งดูสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น รูปมันบอกได้ขนาดนั้นเลย แสดงว่าปีที่แล้วกูคงอาการหนักพอตัว ฮ่าฮ่าฮ่า หรือไม่ก็แค่เราเอ็นจอยกับการถ่ายรูปมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ดีทั้งนั้น รู้สึกดีกับตัวเองตอนนี้พอควร


    นอกเหนือจากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเปิดกว้างให้ความสวยความงามสารพัดแบบมากขึ้นด้วย รวมถึงชื่นชมคุณค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างที่มันเป็นและตามพื้นฐานของมัน เมื่อก่อนอาจเป็นเพราะอยู่กับพ่อมากไป เหมือนมันติดมาว่าของที่จะสวย จะดี จะคุ้มค่าที่จะไปดูน่ะ มันต้องอลังการงานสร้างแบบนี้สิ 

    เอาตรง ๆ เราคิดมาเสมอนะว่าเราไม่ติดนิสัยแบบนั้นมา เพราะส่วนตัวแล้วมีความเชื่อว่าทุกอย่างมันก็งามของมันนั่นแหละ อย่าลดทอน!!!!! แต่ก็นะ.. ติดมาโดยไม่รู้ตัว ถอดออกได้แล้วก็เอ็นจอยชีวิตมาก ไปที่ไหนก็มีความสุข (ซึ่ง.. ก็แอบทำให้ไม่อยากไปไหนกับคนอื่นเหมือนกัน เพราะสำหรับเรา บางทีเราว่านี่ก็ดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นจะว่าไง กลัวไปด้วยกันแล้วเค้าจะไม่เอ็นจอยเหมือนเราแล้วกลายเป็นหมดจอยทั้งคู่)

    และส่วนที่ดีที่สุดก็คือ.. ฉันเลิกบ่นวัฒนธรรมของคนอื่นได้แล้วคับโว้ย เหมือนกับว่าพอเข้าใจที่มาที่ไปมากขึ้น มันก็อยู่ได้โดยไม่ต้อง sulk มาก และอันไหนที่ดี ๆ ก็อะแด็ปท์มาใช้ (เช่น การที่หาเรื่องดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ มาชมได้เสมอเพื่อเป็นการเปิดประเด็นก่อนเข้าสู่เนื้อหาหลัก555555555555 จี้ว่ะ คือคนอื่นอาจจะรู้สึกไม่ชอบ หรือไร้สาระนะ แต่เราชอบ แม่ง ถามจริง ใครทำได้บ้าง? การต้องหาเรื่องดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนอื่นมาพูดทุกครั้งเพื่อเป็นสินน้ำใจก่อนเปิดประเด็นต่อไปอะ กูทำไม่ได้นะส่วนตัวแล้ว เลยนับถือมาก และอยากฝึกฝนตาม) ส่วนที่ไม่ดีก็ไม่ใช่ว่าห้ามว่า ก็คือเข้าใจก่อนว่าทำไมต้องเป็นงี้แล้วก็เชิญวิจารณ์ค่ะ มันก็สบายใจกว่าวิจารณ์โดยไม่เข้าใจบริบทอะไรเลยอยู่นะ

    ป.ล. ต่อไปนี้คงมาเขียนเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้เราเขียนเรื่องที่ที่เราไปมาลงในเวิร์ดเพรสมาตลอด แต่ว่า!!!!! เนื้อที่มันเต็มแล้วง่ะ.. นุลงรูปไม่ได้แล้วค่ะ นุต้องหาที่อยู่ใหม่ ก่อนหน้านี้ไปเขียนที่มีเดียมมาเอนทรี่นึง.. แต่แบบ.. รู้สึกว่ามันไม่ใช่ป่าววะ แหม่ง ๆ ไงไม่รู้ เลยพยายามแสวงหาที่ใหม่ แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่า!!!! ทำไมไม่มาเขียนที่มินิมอร์นะ... ทั้ง ๆ ที่เรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากเรื่องเที่ยวก็เขียนที่นี่มาตลอด.. เอ่โต่...ก็ขอแปะลิ้งค์อินเด็กซ์ของบล็อกเก่าไว้ที่นี่ด้วยแล้วกันค่ะ อยากให้มันเชื่อมถึงกันอยู่ นุทิ้งไม่ลง อะไรที่อัพที่นี่ก็จะพยายามไปอัพเก็บลงในอินเด็กซ์ของที่นู่นด้วย.. นิสัยของคนมูฟออนกับเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้ (แม้แต่กับการย้ายบล็อก) ก็เป็นยังงี้แหละค่ะ โปรดดูไว้!!!!!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in