หมายเหตุเครดิตภาพทั้งหมดในบทรีวิวผู้เขียนไม่ได้เป็นเจ้าของ
เมื่อปีที่แล้วเราได้ฟังเพลงฮิตเพลงนึงที่ชื่อว่า Stitches แน่นอนว่ามันติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
ด้วยเสียงคนร้องเอง หรือเมโลดี้เพลง ฮุคของเพลง รวมทั้งเสียงลีดกีตาร์เบาๆนั่นก็ทำให้เพลงนี้ ติดหูเราได้ไม่ยาก
ตอนได้ดู MV ครั้งแรกก็พบว่า นักร้องนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง ชื่อของเขาคือ Shawn Mendes เพลง Stitches ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรนัก จนกระทั่งวันหนึ่งเราได้ฟัง Treat You Better ซึ่งพอได้มาลองตั้งใจฟังจริงๆ ก็พบว่า เราค่อนข้างชอบเนื้อเสียงของ Shawn Mendes พอสมควร ลักษณะการร้องของชอว์น เมนเดสนั้นถูกใจเรามาก คือเป็นนักร้องที่ร้องด้วยเสียงพูด (นั่นคือเสียงร้องกับเสียงพูดเป็นเสียงเดียวกัน) ทำให้เวลาชอว์นร้องเพลง ไม่ต้องดัดเสียงหรือพยายามปั้นเสียงตัวเองมากมาย เขาก็แค่เปล่งเสียงร้องออกมา ซึ่งมันออกมาดูน่าฟังเสียด้วย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเริ่มติดตามชอว์น เมื่อปลายปี 2016
(ไม่ใช่ภาพจากคอนเสิร์ตที่มะนิลา 2017)
ซึ่งต่อมานั้น
ต้องใช้คำว่า
ตกหลุมรักอย่างจัง
สิ่งที่ทำให้เรารักชอว์น ไม่ใช่แค่เสียงและสไตล์การร้อง ที่ฟังง่ายๆของเขาอีกต่อไป แต่เป็นอินเนอร์ของความเป็นศิลปินที่ปรากฏในทุกไลฟ์คอนเสิร์ตของเขา ยิ่งได้ฟังเพลงของเขาทุกเพลงเรายิ่งพบว่า เด็กคนนี้ แม้ไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านเสียงร้องแบบนักร้องคนอื่นๆ แต่ชอว์นมาพร้อมกับความพยายามและความตั้งใจ รวมทั้งความรักในการร้องเพลงที่เชื่อว่า ถ้าต้องแข่งกันเรื่องความตั้งใจและความรักในการร้องเพลง ชอว์น เมนเดส ไม่แพ้ใครแน่นอน หรือต่อให้พูดเรื่องการร้องเพลง ชอว์นก็ไม่น่าจะโดนดูถูกเอาได้แน่นอน
และนับเป็นโชคของเราที่ชอบชอว์นมาไม่กี่เดือน ก็ได้ดูคอนเสิร์ตสดๆของชอว์นเลย
หลังจากดูไลฟ์ของชอว์นจาก Youtube มาหลายไลฟ์ ความคาดหวังและความตื่นเต้นในการดูคอนเสิร์ตของชอว์นคือ เราอยากเห็นการดีไซน์การร้องของชอว์น
เราเองไม่ค่อยถูกใจกับนักร้องสายพลังพ่นไฟเท่าไรนัก แม้ลักษณะการร้องของชอว์นจะดูเหมือนคนตะโกนร้องเพลงอยู่บ้าง แต่นั่นเป็นเพราะโทนเสียงร้องของชอว์นนั้นไม่ได้หนาหรือมีความกังวาลอะไรมาก แถมเอาเข้าจริงก็เป็นโทนเสียงที่ค่อนข้างธรรมดา การใส่อารมณ์เพื่อไดนามิคในบางเพลงจึงต้องอาศัยการตั้งใจเปล่งเสียงจนดูเหมือนตะแบงร้อง
(ไม่ใช่ภาพจากคอนเสิร์ตที่มะนิลา 2017)
แต่เชื่อเถอะ นี่เป็นเสียงตะแบงร้องเพลงที่นิ่มนวลและไพเราะมาก
เดือนมีนาคม Shawn Mendes กำลังอยู่ในช่วง World Tour พอดี เรามีโอกาสได้จองตั๋วรอบคอนเสิร์ตที่ Manila ฟิลิปปินส์ตอนวันที่ 18 มีนาคม 2017 คอนเสิร์ตจัดที่ SM Mall Of Asia Arena ขนาดของฮอลล์เทียบแล้วใกล้เคียงกับ Impact บ้านเรา แค่ของเขาค่อนข้างทันสมัยกว่าเยอะ ด้วยฮอลล์คอนเสิร์ต 5 ชั้น มีบันไดเลื่อน/ลิฟต์ การแบ่งโซนที่ชัดเจนและดิสเพลย์ในฮอลล์ที่ดูอลังการ
Setlist ของ 'Illuminate' Tour in Manila
ในเอเชีย ฟิลิปปินส์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่วงใหญ่ๆมักจัดทัวร์มาลงเสมอเวลาพวกเขามี World Tour เพราะคัลเจอร์ของคนที่นี่นั้นได้รับอิทธิพลจากอมเริกันมาค่อนข้างมาก การไปดูคอนเสิร์ตถือเป็นไลฟ์สไตล์หนึ่ง บางวงที่มาเล่นที่ฟิลิปปินส์นั้นบางครั้งบัตรราคาถูกจนคุณแทบจะกรีดร้องเลยทีเดียว สำหรับคอนเสิร์ตนี้ของชอว์นเองก็ด้วย แม้บัตรจะไม่ได้ Sold Out เพราะความจุของฮอลล์ที่ราวๆ 15,000 ที่นั่ง แต่ความจุที่เกือบเต็มนั้น ก็น่าจะสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจให้กับชอว์น เมนเดสได้พอสมควร ชอว์นเคยมาที่นี่แล้วเมื่อปีก่อน และเขาก็มาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจากที่สังเกตุดู แฟนบอยดูจะเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆในฟิลิปปินส์ (แฟนบอยเยอะมากๆ เด็กๆเยอะมากกกกกกกกกกกกก)
เพลงที่เราตั้งใจมาฟังเป็นพิเศษคือ Treat You Better, Aftertaste, Mercy, Handwritten, Ruin, Never be alone, Stitches, Three Empty Word (ไปๆมาๆเยอะจัง 5555) ปรากฏว่าก็ตามที่เห็นในเซตลิสต์ คือเล่นหลายเพลง แต่จับเป็น Medley เยอะมาก อย่าง Aftertaste เพลงโปรดเรายังได้ฟังไม่เต็มเพลงเลย ฮือออ น้องงงงงงงงงงงงง TvT
เราอาจจะไม่ลงรายละเอียดอะไรนักในทุกๆเพลง แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ ตอนที่เข้าเดินเข้าฮอลล์ไป แล้วเห็นชอว์น เมสเดส ยืนอยู่หน้าเวที ไฟสปอร์ตไลท์ฉายลงมาที่ตัวทำให้เขาโดดเด่นอยู่กลางเวที พร้อมสะพายกีตาร์โปร่ง และตอนที่ชอว์นเริ่มต้นร้องเพลง มันทำให้เราน้ำตาไหลออกมาเลยจริงๆ
นี่คือนักร้องที่เราคิดว่า คุ้มค่ามากที่ได้มาดูคอนเสิร์ต
เสียงสดของชอว์น ดีกว่าในกว่าฟังจากดิจิตอลไฟล์หรือจากตอนฟังใน Youtube เพราะเราชอบเสียงที่แหบตอนที่แตะไปถึงโน๊ตที่ต้องต่ำมากๆ หรือสูงมาก การต้องลากเสียงยาวๆ การดีไซน์การร้องแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นในยูทูปและในซีดี ชอว์นไม่ได้ใส่เทคนิคพิเศษอะไรมากมาย เพียงแต่เขาเปลี่ยนลักษณะการร้องเล็กน้อย ซึ่งนั่นมีเสน่ห์อย่างมาก และแน่นอนว่า สิ่งที่เราประทับใจเป็นพิเศษจริงๆตอนดูคอนเสิร์ต ชอว์น คือ
การที่ชอว์น เมนเดส
ทำตัวเหมือนเด็กที่นั่งกอดกีต้าร์ร้องเพลงคัฟเวอร์อยู่หน้า Youtube อยู่เสมอ
เขารู้สึกภาคภูมิใจกับคอนเสิร์ตตัวเองอยู่ตลอดเวลา เด็กหนุ่มวัย 18 ปียืนอยู่กลางคอนเสิร์ตที่คนเรือนหมื่นร้องเพลงของเขา หลังจบเพลงทุกครั้งชอว์นจะเอ่ยขอบคุณ ระหว่างเพลงชอว์นมักจะตะโกนออกมาระหว่างเพลงให้แฟนๆช่วยร้องเพลงตาม หรือ ช่วยกรี๊ดออกมาหน่อย เช่น Scream! Sing it out for me! Sing it! Come on!
ในช่วงชีวิตแรกๆของการชมคอนเสิร์ตของเรา มักมุ่งไปที่การถ่ายคลิปวิดิโอ จนบางครั้งก็ลืมดูคอนเสิร์ตจากตาตัวเองไป ช่วงหลังเราจึงแทบไม่ได้ถ่ายวิดิโอเลย แต่ซึมซับบรรยากาศและเสียงร้องสดๆของศิลปินบนเวที คอนเสิร์ตของชอว์น เมนเดสก็เช่นกัน มันมีหลายครั้งมาก ที่เราไม่ได้มองไปที่เวที แค่นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วหลับตาฟังเสียงเพราะๆของชอว์น มันเป็นความรู้สึกที่ดีจนแทบจะใกล้เคียงกับความงดงาม เมื่อมันเป็นการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ ที่ออกมาจากเด็กคนหนึ่งที่ดูรักในการร้องเพลงและรักในความรักที่แฟนๆส่งไปให้ มันจึงทำให้เรารู้สึกได้ถึงความงดงามจริงๆ
น่าเสียดายที่คอนเสิร์ตนี้ ชอว์นไม่ได้เล่น Aftertaste ในเวอร์ชั่นเดียวกับทัวร์ในปีที่แล้ว ถือการสั่งให้ทั้งฮอลล์เงียบเสียง แล้วร้อง Aftertaste พร้อมดีดกีตาร์ประกอบแบบ Unplug การบอกให้คนทั้งฮอลล์เงียบเสียงแล้วเปล่งเสียงร้องสดที่พอให้ดังได้ยินทั้งฮอลล์นั่น แค่ดูจากคลิปก็ขนลุกแล้ว (แต่น้องเอาไปเล่นเป็นเมดเล่ย์แทน ฮือออ)
เพลงนึงที่ทำให้เราขำออกมาเลยคือ Mercy ปกติชอว์นจะต้องสะพายกีตาร์ร้องเพลงตลอด แต่ Mercy เป็นเพลงที่ชอว์นไม่ได้สะพายกีตาร์ พอไม่มีกีตาร์ อันที่จริงชอว์นดูเก้ๆกังๆอยู่นิดหน่อย แม้จะพยายามยึดขาไมค์ไว้ แต่ลักษณะการเดินไปพร้อมกับถือไมค์ลอยโดยไม่มีกีตาร์นั้นดูแล้วไม่ค่อยคุ้นจริงๆ ตัวชอว์นเองก็ดูไม่ค่อยถนัดเหมือนกัน เขาจะดูมั่นใจมากกว่า ถ้าได้กอดกีตาร์เอาไว้
พาร์ทสำคัญคงเป็นส่วนของ Encore เพลง Stitches ที่ชอว์นมีเกือบทุกคอนเสิร์ต คือเริ่มต้นด้วยเวอร์ชั่นอคูสติกกับเปียโนก่อน (หล่อไปอี๊กกกกกกกกกกกกกกก) ก่อนจะดรอปลงมาเล่นเป็นเวอร์ชั่นปกติโดยสะพายกีตาร์กร๊าวใจมาเล่นจนจบเพลง ซึ่งเป็นไลฟ์ที่สมบูรณ์แบบมาก ชอว์นใส่อินเนอร์ลงมาทุกการร้อง
จากการที่ดูไลฟ์คอนเสิร์ตของชอว์นใน Youtube มาค่อนข้างเยอะเราก็พบรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็เป็นปกติของการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วๆไป เซ็ตลิสต์ที่แน่นอน จังหวะโชว์บนเวที เช่น การที่ถึงท่อนลีดใน riff สำคัญก็ต้องหันไปประชันลีลากับแบคอัพ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างออกไป ส่วนที่แตกต่าง เราคิดว่า น่าจะเป็นความใส่ใจ การพูดคุยทักทาย รวมทั้งมุกตลกที่หยอกแฟนๆตลอดเหมือนคนคุ้นเคย เราชอบรอยยิ้มที่ชอว์นมีตลอดเวลาในการแสดง การหัวเราะนิดๆกับการร้องเพลงของตัวเอง การหลับตาฟังแฟนๆร้องเพลงตามทั้งฮอลล์ การเอ่ยคำขอบคุณอย่างตื่นเต้นเมื่อทุกคนร้องเพลงเขาได้ทุกเพลงกันแบบสนั่นฮอลล์ มันแสดงออกถึงความสนุก ความภูมิใจ และความรักอย่างมากมายที่ชอว์นมีต่อการร้องเพลงของตัวเอง และต่อแฟนๆ
แม้คอนเสิร์ตของ Shawn Mendes จะไม่ได้ยิ่งใหญ่และอลังการจนทำให้เรารู้สึกประทับใจไม่รู้ลืมแบบที่ Greenday และ X-japan เคยทำได้ แต่คอนเสิร์ตชอว์น เมนเดสที่เราได้ดูในวันนี้ มันมอบประสบการณ์นึงที่เราแทบไม่เคยได้สัมผัสเลยจากวงอื่นๆที่เคยดู
มันคือความรู้สึกของความรักแบบวัยรุ่น ที่เต็มไปด้วยความจริงแท้ ซื่อตรง เป็นความรักของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีต่อการร้องเพลงของเขา
ย้อนไปถึงตอนที่เขาจับกีตาร์มาดีดพร้อมร้องเพลงคัฟเวอร์อยู่หน้า youtube แม้ไม่ได้มีเสียงร้องที่พิเศษจนคนฮือฮา แต่เพราะความพยายาม ความรักและความมุ่งมั่น ที่พาหนุ่มน้อยคนนั้น มายืนบนเวทีคอนเสิร์ตกับ World Tour ปีที่สองของชีวิตวัย 18 ปี ต่อหน้าแฟนๆเป็นหมื่นๆคนในวันนี้จนได้
นี่คือคอนเสิร์ตของหนุ่มน้อยผู้งมงายในรักคนหนึ่ง
รักที่มีต่อการร้องเพลงของเขานั่นเอง
Shawn Mendes
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in