เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
from j to his only mmustardsun
เมื่อเธอมาส่ง
  • วันจันทร์

    เจ็ดโมงสี่สิบเอ็ดนาที

    ไม่มีสัญญาณไวฟาย

     

     

             สวัสดีครับ หายไปนานเลย สบายดีกันไหมส่วนผมสบายดีนะ ยิ้มได้บ้างแล้ว แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างดีตามที่มีคนเคยบอกไว้เลยครับ

             หายไปเป็นเดือนๆมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตผมมากมายจัดเป็น majorchange เลยก็ได้นะตอนนี้ผมอยู่ที่สวีเดนครับ แต่หยุดความคิดที่ว่าผมเจ็บจนต้องหนีมาพักใจไกลถึงนี่เชียวนะพอดีได้ทุนมาแลกเปลี่ยนเทอมนึงน่ะครับ

              นอกจากเจ็ทแล็คแล้วผมไม่มีอาการโฮมซิกใดๆเลยเพราะพื้นฐานเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ใกล้บ้างไกลบ้าง ส่วนคนที่ไปด้วยทุกครั้งก็ 55 นั่นแหละครับ คนเดิม                                                                                                       


  • เรื่องราวก่อนขึ้นเครื่องบินต่างหากที่ทำให้จิตใจผมผิดปกติ

    เขามาส่งผมกับกลุ่มเพื่อนของเรา แม้จะไม่ได้คุยกันเหมือนคนอื่นๆ แต่การพยักหน้าเบาๆรอยยิ้มจางๆกับการขยับปากที่อ่านได้ว่า‘โชคดีนะ ดูแลตัวเองดีๆ’ เหมือนจะเป็นอะไรที่ผมจำได้ชัดเจนที่สุดทั้งดีใจที่เขามา แต่ก็เสียใจที่เราไม่ได้กอดลา เราไม่แม้แต่จะพูดกันด้วยซ้ำ

                ผมพิมพ์คำว่า ‘ถึงแล้ว’ และเกือบกดส่งด้วยความเคยชินเกือบไปแล้วจริงๆ ไม่รู้เลยว่าถ้าส่งไปแล้วจะอ้างว่าทำไปในฐานะอะไร โกหกไม่ได้เลยว่าผมโคตรจะคิดถึงเขามากๆแค่รอยยิ้มแรกกับการเจอกันครั้งแรกในรอบเดือนของเรายังทำให้ผมแทบจะร้องไห้จริงๆไม่ใช่แทบ แต่แอบมาร้องตอนรอขึ้นเครื่องต่างหาก ต้องขอบคุณที่การร้องไห้ที่สนามบินดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติบ้าจริงๆที่เขาทำให้ผมร้องไห้ในที่สาธารณะที่มีแต่คนแปลกหน้าได้ถึงสองครั้งสองคราในขณะที่ไม่เคยทำให้ผมแสดงออกว่ารักเขาต่อหน้าเพื่อนๆเราได้ด้วยซ้ำ เอาล่ะพร้อมรับคำว่าสมน้ำหน้าแล้วครับ

  •  

    บ่ายโมงสองนาที

     

                เมื่อกี้แอนน์, โฮสท์มัมที่น่ารักที่สุดในโลกพาไปข้างนอกมากครับ อะไรที่เมื่อกี้ที่คิดจะพิมพ์ไว้ลืมไปหมดเลยอ่ะ5555 งั้นขอเล่าเรื่องตะกี้นี้ให้อ่านละกันนะ

                ผมออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว แล้วก็ขนมตุนตอนดึกอีกนิดหน่อย(ผมถือว่าชิปส์คละรสสิบถุงกับช็อคโกแลตยี่ห้อแปลกๆคือนิดหน่อย)เอาของกลับมาเก็บที่ห้อง แล้วผมก็โดนเรียกตัวออกไปอีกรอบเพื่อทานมื้อกลางวัน

                แอนน์เป็นผู้หญิงวัยห้าสิบที่ยังสาว, แอคทีฟมากๆและยังทำงานประจำดั้งนั้นผมเลยต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า(จริงๆก็ใช้เป็นหมดแล้วยกเว้นเครื่องล้างจาน)  หรือตำแหน่งที่เก็บของต่างๆและจัดการหาอะไรใส่ท้องเองเวลาที่เธอไม่อยู่บ้าน

                พอกินเสร็จแล้วแอนน์ก็สอนผมทำเมนูอาหารเช้าง่ายๆอีกสองสามอย่างที่พอชิมแล้วสิ่งที่แว๊บเข้ามาในหัวเลยคือเขาน่าจะชอบ,  ถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำให้กินนะ:-) 

  •             

    ผมเลิกเล่นโซเชี่ยลไปนานแล้วครับ เห็นมีคนคอมเม้นท์มาขอเฟสบุ้คในบทความก่อนเอาจริงๆก็ตั้งแต่ตอนนั้นแหละผมกลัวไปหมดจนถึงตอนนี้ก็ยังกลัวว่าถ้าเปิดขึ้นมาแล้วเจอโพสท์ของเขาที่กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่นหรืออะไรก็ตามที่สื่อว่าเขาเดินห่างออกไปไกลมากๆแล้ว แค่นึกเอาเองยังดิ่งเลยครับถ้าเห็นของจริงผมไม่อยากจะนึกภาพตัวเองสักเท่าไหร่

    ‘อย่าคิดไปเองเลย บั่นทอนจิตใจเปล่าๆถ้าผลมันออกมาดีแล้วจะรู้สึกเสียเวลาที่มานั่งเครียดตอนนี้นะ กินข้าวให้หมดจานได้แล้ว’เขาพูดในวันที่เรากำลังนั่งรอการประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย, แล้วผลก็ออกมาดีจริงๆ เรากอดกันนานเป็นนาที เป็นวันนึงที่เราแทบจะสำลักความสุขกันทั้งคู่

    ‘เลิกขี้แพนิคจนใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขสักที’ เขาบอกในวันที่เรากำลังต่อแถวเล่นรถไฟเหาะตีลังกาเส้นสีแดงในยูนิเวอร์แซลสตูดิโอที่สิงคโปร์ผมเอาแต่พูดวนไปวนมาว่า ถ้าตายจะทำยังไง พ่อแม่ยังไมได้เลี้ยงเลยเอาชีวิตมาเสี่ยงทำไม บลาๆๆๆ และสุดท้ายพอได้เล่นก็เป็นผมเองที่สนุกกว่าใครจนต้องขอร้องให้เขาพาผมไปต่อแถวเล่นใหม่อีกครั้ง

     

    แล้วถ้าครั้งนี้ผมไม่คิดมากผลจะออกมาดีเหมือนที่ผ่านมาอีกไหมนะ





    P.S. แต่ถ้ากำลังมีความสุขกับใครอยู่จริงๆก็ยินดีด้วยนะ

    ยินดีจริงๆ ขอโทษที่เป็นความสุขให้ไม่ได้

    will always be your only j . 


     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in