เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หลานรักอูจินprimint
#หลานรักอูจิน ตอนที่12
  • หลานรักอูจิน

    เมฆฟ้า (ฮวัง มินฮยอน) x ไอจันทร์ (พัค อูจิน)

     

     

     

     

                พรึ่บ!

               

                ไฟดับ

     

                เมฆฟ้าที่นอนอยู่บนเตียงผุดลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับโทรศัพท์ที่สั่นไหวจากข้อความเข้าของคนที่ตนกำลังนึกถึง

               

                ไอจันทร์

               

                เมื่อเจ้าตัวคิดได้แบบนั้นก็รีบกุรีกุจอออกจากห้องนอนของตนเองไปด้วยความรวดเร็วและไม่ลืมที่จะเปิดไฟจากโทรศัพท์เพื่อช่วยในการนำทางไปยังห้องของเด็กน้อยที่อยู่อีกฟากฝั่งของบ้าน และใช้เวลาเพียงไม่นานเมฆฟ้าก็เดินมาถึงหน้าห้องของเจ้าของข้อความที่ยังคงส่งมาไม่หยุด เขาก้มลงตอบนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆหมุนลูกบิดเปิดประตูห้องของผู้ซึ่งเป็นหลานโดยที่มันไม่ได้ถูกล็อกลงกลอนไว้

                คุณอา...

                เสียงสั่นไหวเอ่ยเรียกเมื่อรับรู้การมาของเขา เมฆฟ้าค่อยๆเดินย่างกรายก่อนจะไปทรุดนั่งลงข้างเตียงตรงหน้าเด็กน้อยที่นั่งกอดเข่าจนดูน่าสงสารเมฆฟ้าเอื้อมไปจับมือสั่นๆของหลานก่อนจะลูบบนหลังมือนั้นอย่างแผ่วเบาหวังคลายความกลัวของเด็กน้อยให้มลายหายไป

                อาอยู่ตรงนี้แล้วครับไม่ต้องกลัวแล้วนะ เขาพูดพร้อมส่งยิ้มบางให้หลานและลูบหัวที่ออกจะฟูเล็กน้อยอย่างปลอบประโลมแต่ร่างกายของคนตรงหน้าก็ยังมีอาการสั่นเทาเหมือนลูกแมวตื่นกลัว ผู้เป็นอาจึงดึงร่างกายของเด็กน้อยเข้าหาและสวมกอดอย่างอ่อนโยน ไอจันทร์กอดตอบและซบหน้าลงกับบ่ากว้างของคุณอาตน

                “เราอยากได้ยานอนหลับมั้ยครับ” เด็กน้อยสั่นหัวปฏิเสธไปมาและพูดประโยคเสียงอู้อี้เพราะจากการซบที่บ่าของตนอยู่

                “ผมอยากเลิกผมไม่อยากพึ่งมันแล้ว”

                “ดีแล้ว” เขาลูบหัวเด็กน้อยอีกครั้งอย่างนึกเอ็นดูและเอาศรีษะของตนพิงแนบไปกับหัวทุยของเด็กน้อยอีกที

     

     

                ล่วงเลยผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่นับจะรู้แต่คงนานพอดูเขาถึงเริ่มมีอาการปวดบ่าเล็กน้อยจากการเป็นที่รองศรีษะของอีกคนและเด็กน้อยของเขาก็หยุดสั่นแล้วแต่แทนสิ่งอื่นคือเริ่มมีเหงือเม็ดเล็กผุดตามกรอบหน้าของไอจันทร์และตัวเขาเอง

                “เราไปนั่งที่ระเบียงกันมั้ยครับ อยู่ร้อนๆแบบนี้แย่แน่” ไอจันทร์ผละออกจากเขาและพยักหน้าหงึกหงักอย่างคนเห็นด้วย

                เมฆฟ้าลุกขึ้นยืนก่อนจากส่งมือไปยังตรงหน้าเด็กน้อย ไอจันทร์สบตาก่อนจะวางมือลงบนมือเรียวขาวของคุณอา และถูกเกาะกุมจากมือเรียวนั้นก่อนจะจูงมือเด็กน้อยออกมายังหน้าระเบียงห้องนอน

                เมื่อย่างกาวออกมาสัมผัสกับกระเบื้องอันเหยียบเย็นและลมอ่อนๆที่พัดมากระทบผิวหน้าและผิวกาย เด็กน้อยหลับตาก่อนจะคลี่ยิ้มบางอย่างน่าเอ็นดู แม้รอบตัวจะมืดไปหมดแต่เขาก็เห็นว่าเด็กข้างตัวของตนยิ้มออกมาได้น่ารักขนาดไหน

     

                ครืน

     

                โทรศัพท์ในมือสั่นระรัวจากหน้าต่างแชทของผู้เป็นเพื่อนและยังมีฐานะเป็นเลขาคนสนิทของตนอีก เขาจึงก้มลงตอบคนในแชทยุกยิก

               

                มึงก็ไปนอนที่คอนโดมึงดิ

               

                ข้อความจากเจตเด้งขึ้นและตนเองก็คิดแต่แรกว่าจะทำเช่นนั้นจนกระทั่งเมฆฟ้าเงยหน้าหวังเอ่ยปากชวนเด็กข้างกายแต่แล้วคำชวนก็กลืนหายไปในลำคอ

               

                เด็กน้อยตรงหน้าที่แหงนมองท้องฟ้าด้วยดวงตาที่เจิดจรัส เรียวตาเล็กๆแต่แก้วตากลับสะท้อนความงดงามของท้องฟ้าได้อย่างสวยงามเหมือนดวงดาวนับล้านที่อยู่บนฟากฟ้าถูกบรรจุในดวงตาคู่นั้น มันสวยแม้เขาจะไม่ได้เงยหน้ามองฟ้าก็ตาม  และริมฝีปากของเด็กน้อยที่คลี่ยิ้มบางๆนั้นทำให้ตนถึงกับหลุดยิ้มตาม และภาพตรงหน้าของเด็กน้อยยิ่งขับให้ดูสวยงามอีกเท่าตัวเมื่อมีรอยช้ำบนแก้มกลม ติ่งหู และตรงลำคอสีคาราเมลนั้น เขายิ้มอีกครั้งในความพึงพอใจกับผลงานฝีมือของตนเอง.... ก่อนก้มหน้าตอบข้อความของเจตที่ค้างคาไว้อยู่

                “ขอโทษที่ทำเราช้ำนะ” เมฆฟ้าเอื้อมมือสัมผัสข้างแก้มช้ำนั้นอย่างแผ่วเบา ไอจันทร์หลุดออกจากภวังค์ของดวงดาวก่อนจะมาทำปากยื่นปากยาวแม้จะมืดแต่เขาก็เห็นความน่ามันเขี้ยวนั้นชัดเจน

                “ใครเค้าทำโทษด้วยการกัดกันครับ แถมยังกัดแรงอีก”

                “ก็เราน่ามันเขี้ยวนี่”

                “แต่ก็ไม่ควรกัดกันแบบนี่นะครับ” หันมาตีหน้ายุ่งคิ้วขมวดใส่ แต่ท่าทางแบบนั้นกลับทำให้เขาหลุดขำจนอดยื่นมือไปยีหัวทุยด้วยความเอ็นดูเสียไม่ได้

     

                อ่า...อยากจะกัดอีกสักทีให้หายมันเขี้ยวนัก

     

                “ผมไม่เคยเห็นดาวชัดขนาดนี้มาหลายปีแล้วครับ” เขาหลุดออกจากความคิดและหยุดยีผมนุ่มกลุ่มนั้นก่อนจะมองขึ้นบนฟ้าตามคนข้างกาย

                “คงเพราะไฟดับ มันมืด เลยเห็นดาวชัดเจนมั้ง” เขาให้คำตอบที่เขาเองก็ไม่แน่ใจในคำตอบดีนัก

                “อย่างนั้นหรอครับ...”

                “งั้นคุณอาก็คงเป็นดวงดาว” เขาหันไปหาคนข้างกายก่อนเด็กน้อยจะหันมาสบตาตอบ  

                “...”

                “เพราะเวลาผมอยู่ในความมืดทีไรคุณอามักคือแสงสว่างของผมเสมอเลย”

                “ไม่ว่าจะในวันนั้น วันที่ผมไม่เหลือใคร จนกระทั่งความมืดในตอนนี้คุณอาก็ยังอยู่กับผม”

                “ไอจันทร์...” เขาจ้องตาลึก แม้ท่ามกลางรอบตัวจะมืดมิดเพียงใดแต่ไม่ใช่อุปสรรคต่อการจ้องไปยังแววตาคู่นั้น

                “ขอบคุณนะครับ” เด็กน้อยยกยิ้มจนเห็นเขี้ยวน่ารักๆของเจ้าตัว และตนก็เอื้อมไปจับมือของเด็กน้อยก่อนจะสอดนิ้วเข้าคู่กับมือของอีกคน

                “อืม ไม่ว่าจะตอนไหนอาก็จะอยู่กับเราเสมอ” เขากระชับมือคู่นั้นให้แน่นขึ้น เพื่อเป็นสิ่งยืนยันในคำพูดของตนเอง

                “ไม่ว่าเราจะกลัวหรือไม่กลัวความมืดแล้ว แต่อาจะอยู่กับเรานะ”

                “ครับ” และมือของเด็กน้อยก็กุมมือของคนเป็นอาตอบ ก่อนยกยิ้มที่เขาคิดว่าสดใสที่สุดแล้วตั้งแต่รู้จักเด็กคนนี้มา เป็นรอยยิ้มที่เขาอยากรักษาให้อยู่กับไอจันทร์เด็กน้อยของเขาไว้ตลอดไป

    .

     

    .

     

    .

    ____________________________________________________________________________ 

     

    ขอโทษในความไม่สะดวกด้วยนะคะ อีกอย่างเราอยากเก็บบทบรรยายไว้ในนี้ด้วย ขอโทษจริงๆนะคะ 

    แล้วก็ถ้าเจอคำผิดหรือมีจุดผิดพลาดอะไร แต่งดีไม่ดียังไงบอกได้นะคะ เราพร้อมน้อมรับแล้วเอาไปรับปรุงค่าาาาา

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  ? ?

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in