ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดของใคร
ที่สุดท้ายแล้วเขาก็ถอนตัวออกไปไม่ได้
“พี่จุนฮยองพอก่อน” มือเล็กพยายามดันใบหน้าคนที่เอาแต่ซุกอยู่กับซอกคอเขาให้ออกไปก่อนที่อีกคนจะทิ้งรอยไว้ มือที่รอบเอวอยู่ไม่ว่างเปล่ายังคงลูบไล้ตามหน้าอกของเขา
แต่ไม่ได้จริงๆอีกไม่กี่นาทีเพื่อนของเขากำลังจะกลับมา
มือเล็กออกแรงสุดกำลัง หมุนตัวออกจากเกาะกุมทันที
“อีกสิบนาทีโยซอบจะถึงห้องแล้ว” เขาบอกก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าห้องของตัวเองไป ปล่อยให้อีกคนอารมณ์ค้างอยู่แบบนั้น
อีกีกวังหยิบหนังสือข้างเตียงมาอ่านพร้อมกับหูฟังที่ถูกเสียบและเปิดเพลย์ลิสต์เดิมๆ
เสียงเปิดประตูพร้อมกับน้ำเสียงที่สดใสของคนที่เข้ามาทำให้เขาเผลอกำมือแน่นจนหนังสือยับยู่ยี่
ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังต่อมาจากห้องข้างๆเขามันยิ่งตอกย้ำมากขึ้น มือเล็กวางหนังสือเพราะเขาคงอ่านต่อไปในสภาพที่น้ำตาไหลแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เพลงที่เปิดเพียงแค่ระดับ2ไม่ได้ช่วยกลบเสียงอะไรทั้งนั้น บ่งบอกถึงความขี้ขลาดของเขาเองด้วย
ถ้าหากวันนั้นเขาไม่เปิดประตูให้อีกคนเข้ามา
ถ้าหากวันนั้นเขาไม่เผลอตัวไปกับสัมผัสของอีกคน
เขาจะตกหลุมรักแฟนเพื่อนอยู่แบบนี้อีกมั้ย
อีกีกวังรู้ต่อให้เลิกกันแล้วยงจุนฮยองคงไม่เลิกเขาในเมื่อเขาเป็นเพียงแค่ของเล่นตอนที่ยังโยซอบแฟนตัวจริงไม่อยู่
และเขาเองก็ไม่ใช่สเปคของจุนฮยอง
ยังโยซอบที่ทั้งน่ารัก ความสามารถโดดเด่นมีแต่คนอยากรู้จัก
ต่างจากอีกีกวังคนที่ชอบแต่ฟุตบอล ไม่ชอบการอยู่กับคนเยอะๆ เก็บตัว
ไม่มีอะไรที่เข้าคำว่าตกหลุมรักได้
ความสัมพันธ์แบบบนเตียงเท่านั้นที่พวกเขามีให้กัน
ไม่สิ
ที่จุนฮยองมีให้อีกีกวังต่างหาก
“ตั้งใจเรียนนะครับ” จุนฮยองยีผมสีบลอนด์คนตรงหน้าก่อนจะยิ้มบางให้เมื่อมาส่งอีกคนที่หน้าคณะ
“อื้มอยู่แล้ว” คนตัวเล็กยิ้มหวานมาให้ก่อนโบกมือให้กับคนที่ขับรถออกไป
“อารมณไหนอยากมานั่งข้างสนามบอลวะ” จุนฮยองถามคนที่อุตส่าห์ให้เขาหอบกีต้าร์มานั่งข้างสนามบอล แถมยังเอาแต่ชะเง้อมองไปมา
“อีฮงกิ”
“ห้ะๆ”
“บอกว่าทำไมมาซ้อมตรงน-/กีกวังง” อีฮงกิไม่ได้ฟังเขาเลยเอาแต่โบกมือหยอยๆให้คนที่ชื่อกีกวัง
กีกวัง?
ไม่ต้องเดาให้มากคนที่ชื่อกีกวังแถมยังเล่นบอลที่เขารู้จักกับคนที่เพื่อนโบกมือให้คือคนเดียวกัน
คนที่ยิ้มกว้างแถมยังโบกมือกลับให้เพื่อนเขานี่ใช่กีกวังที่เขารู้จักจริงๆหรอ
ดูสดใส
ไม่จริง
มาได้ยังไง
เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ฮงกิมาด้วย
ยงจุนฮยองอีกแล้ว
เพราะเย็นนี้เขามีนัดกับเพื่อนสมัยเด็กที่เพิ่งจำกันได้ไม่นานมานี้อย่างอีฮงกิ
ใครจะไปคิดว่าคนนั้นคือเพื่อนของอีกคน
“แล้วกีกวังกลับไง” หลังจากกินข้าวเย็นด้วยกันเสร็จซึ่งพ่วงจุนฮยองมาด้วย ทำเอาบรรยากาศตอนกินดูแปลกประหลาดดี ฮงกิก็หันมาถามคนที่ไม่มีรถกลับว่าจะต้องกลับแบบไหนแต่ไม่ทันได้ตอบจุนฮยองก็ตอบแทนไปก่อน
“เดี๋ยวกูไปส่งเอง เป็นเมทแฟนกู” ฮงกิพยักหน้าเข้าใจก่อนจะบอกลาทั้งสองคนโดยไม่ทันได้มองสีหน้าอึกอักของกีกวังเลย
“พี่กลับไปก่อนเถอะ” กีกวังพยายามจะหาทางเลือกอื่นที่เขาไม่ต้องได้ไปขึ้นรถคันนั้น
รถคนที่มีเมทของเขานั่งมาก่อนตลอดเวลา
“อย่าเรื่องมากได้มั้ย”
“อย่ามาสั่งผมได้มั้ย” จุนฮยองชะงักเล็กน้อยกับประโยคนี้ของอีกคน เขารู้สึกหงุดหงิด
“ทำไมอยากไปหาผู้ชายคนอื่นว่างั้น”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่หรอครับ”
“อีกีกวัง!” ไม่แม้แต่จะหลบตาอีกีกวังกำลังจ้องมองลึกเข้าไปในตาคมที่กำลังหงุดหงิด
เพราะเพียงแค่กีกวังดื้องั้นหรอ
คนตัวเล็กตรงหน้ากดโทรศัพท์ซักพักก่อนจะพยายามเดินหนีออกไปคุยแต่จุนฮยองคว้าข้อมือของอีกคนให้คุยกันต่อหน้า
“ฮัลโหลพี่ดูจุนหรอครับ”
“มารับผมหน่อยสิ โอ้ย” แรงบีบที่ข้อมือแรงขึ้นจนต้องส่งเสียงเรียก จุนฮยองที่ฉุนขาดดึงโทรศัพท์ออกมาจากมืออีกคนแล้วกระชากให้อีกคนไปที่รถเขา เพราะว่าตอนนี้เองก็ค่ำมากแล้วลานจอดรถจึงโล่งอย่างเห็นได้ชัด
“เกินไปแล้วอีกีกวัง” พวกเขาสองคนอยู่ในรถที่ดูคับแคบมากกว่าเดิมเมื่อจุนฮยองเบียดให้กีกวังชิดกับอีกด้านหนึ่งของรถโดยมีแขนของเขากักเอาไว้
“เกินไปอะไรครับ”
“โทรหาคนอื่นต่อหน้าฉัน”
“แล้วยังไงเราเป็นอะไรกันรึไง”
“หึ อยากให้ทวนว่าเราเป็นอะไรกันงั้นสิ” จูบที่ไม่ทันตั้งตัวมาพร้อมกับแรงที่บีบข้อมือเขาไว้ทั้งสองข้าง จุนฮยองรวบข้อมือของอีกคนไว้ข้างเดียวก่อนจะใช้มืออีกข้างบีบปากอีกคนให้ยอมรับรสสัมผัส
“พี่จุนฮยองปล่อยผม” เสียงเริ่มสั่นเพราะความกลัว กีกวังแค่คิดว่าถ้าหากเขาลองไม่ยอมจุนฮยองซักครั้ง เขาน่าจะได้เป็นอิสระ
เขาน่าจะพอทำใจได้
แต่มันผิดไปหมด
จุนฮยองไม่ฟังอะไรทั้งนั้นยังคงตั้งใจสร้างรอยตามซอกคอขาว ไหปลาร้า ลาดไหล่ของอีกคน
“ไม่ๆ พี่จุนฮยอง กีกวังขอโทษ” เสียงอ้อนวอนดูยากที่จะเข้าถึงคนที่กำลังโมโหอยู่ มือที่ว่างเพียงข้างเดียวกำลังปลดกางเกงของอีกคนด้วยความรีบเร่ง กีกวังพยายามใช้แรงหนีบขาตัวเองไว้
Rrrrr
“พี่จุนฮยองโทรศัพท์” เสียงแหบพยายามพูดอีกครั้งตาใสลองเพ่งมองที่รายชื่อของคนที่โทรมา
“พี่จุนฮยอง โยซอบโทรมา” ราวกับค้อนปอนด์ทุบลงหัวของจุนฮยองให้ได้สติ คนตัวสูงหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันไปให้ความสนใจกับคนในสายแทน
น้ำเสียงที่อ่อนหวานเต็มไปด้วยความเอ็นดูมันยิ่งตอกย้ำว่าเขามันแค่ของเล่นของจุนฮยองที่ยังไม่อยากให้ใครได้เล่นด้วยแค่นั้น
“ได้เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ”
….
“ครับผม อีกสิบนาทีเลยนะ” กีกวังเปิดประตูข้างคนขับลงออกจากรถพร้อมๆกับที่เสียงเครื่องยนต์สตาท์แล้วออกตัวไปเหลือเพียงเขากับกลิ่นควัน เหมือนกับอีกคนลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ทำอะไรกับเขา
อิพี่เอ๋ย ระวังตัวไว้เถอะ ฮึ! จะให้พี่ดูจุนต่อยสัก 4-5 หมัด คอยดู๊!