สวัสดีทุกคน เราชื่อ มายาวี น้อยเนาวรัตน์ ชื่อเล่น นิ้ง เราเกิดวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2540 ที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร
เราไม่รู้นะว่าหลายๆคนจำวันแรกหรือจำความรู้สึกแรกของการเป็นตัวเองหรือการมีตัวตนอยู่บนโลกนี้ได้มั้ย แต่เราจำได้
ภาพแรกของเราบนโลกใบนี้คือเรากำลังเดินจูงมือไปพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเราเรียกเขาว่าพ่อ และ ผู้หญิงที่หน้าตาใจดีที่ส่งยิ้มให้เราซึ่งเราเรียกว่าแม่ แน่นอนล่ะมันก็ดูปกติหนิไม่มีความสับสนตรงไหนมีพ่อมีแม่มีเรา ครบสมบูรณ์แบบ
แล้วทำไมเราเกิดมาพร้อมความสับสน?
ตอนเราเด็กๆเราจำได้ว่ามีวันหนึ่งแม่เดินมาบอกเราว่าที่จริงเขาไม่ใช่แม่เราเขาเป็นแค่ป้าสะใภ้ของเราส่วนพ่อแน่นอนเขาคือลุงแท้ๆของเรา ซึ่งแม่ของเราจริงๆแล้วมีพี่สาวของเราไปแล้วสองคนซึ่งสาเหตุที่เรามาอยู่กับลุงและป้าสะใภ้ก็คือ ตอนนั้นบ้านเรายังไม่มีหลานผู้ชายแล้วย่าเราไปดูดวงมาพอดีหมอดูบอกว่าหลานคนที่เจ็ดจะเป็นผู้ชาย แน่นอนล่ะพอแม่แท้ๆของเราคำนวนดูแล้วถ้าปล่อยให้มีเราเราจะเป็นหลานคนที่เจ็ดและเป็นผู้ชายแน่นอน แม่แท้ๆเราจึงปล่อยให้มีเราเกิดมาอยู่ในท้องของแม่ แต่โชคไม่เข้าข้างเราซะเลย ก่อนเราคลอดไม่กี่สัปดาห์อยู่ดีดีก็มีคนอุ้มเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาได้บ้านอายุประมาณสองขวบได้ อ่อ ใช่แล้ว พี่ชายต่างแม่ของเราเอง เราเลยกลายเป็นหลานคนที่ 8 โดยปริยาย แล้วดันเป็นผู้หญิงด้วยสิ่555555
วันที่แม่แท้ๆคลอดเราลุงกับป้าสะใภ้มาเยี่ยม แม่ถามแบบเขินอายว่าพี่อยากได้ลูกมั้ยเพราะตอนนั้นลุงกับป้าสะใภ้เรายังไม่มีลูก ลุงตกลงและรับเรามาเลี้ยง
หลังจากที่เราฟังแม่ซึ่งจริงๆแล้วเป็นป้าสะใภ้เราเล่าให้ฟังเราไม่เชื่อ เด็กสามขวบอย่างเราตอนนั้นน่าจะยังแยกความสับสนแบบนี้ไม่ออก จนแม่แท้ๆเราเอาเราไปนอนด้วยเราร้องไห้หาป้าหาลุงเรา เรากลัว ทั้งๆที่คนที่เรากลัวนั้นคือแม่แท้ๆของเราเอง
พอโตขึ้นเข้าอนุบาล ประถม มัธยม เวลาใครถามเรื่องพ่อกับแม่ น้ำตาเราซึมทุกที เหมือนตอนนั้นความรู้สึกเราคือความน้อยใจว่าทำไมแม่ถึงไม่เลี้ยงเราเพียงแค่เราเกิดมาไม่ใช่ผู้ชายหรอ แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจและยอมรับสิ่งที่มันเกิด ซึ่งตอนนี้ใครจะถามเราเรื่องพ่อแม่ถามได้นะเราจะยิ้มให้และเล่าให้ฟังอย่างภูมิใจด้วยซ้ำ5555555555555
สรุปแล้วเราโตมากับลุงกับป้าสะใภ้ซึ่งเราเรียกเขาว่าพ่อกับแม่ ส่วนพ่อกับแม่แท้ๆเราเราเรียกเขาว่า แม่กับป๋า ซึ่งแม่กับป๋าเราได้แยกทางกันไปเมื่อตอนเราอายุ 9 ขวบ แม่ย้ายไปอยู่อีกที่นึงเราเจอแม่แท้ๆแค่ปีละ 2-3 ครั้ง
นี่แหละคือความสับสนที่ติดตัวเรามา
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ
นิ้ง :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in