เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My AIESEC Lifesaisaaii
ยากลำบาก (Tough Time First Time)
  • กาลเวลาผ่านไป คนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
    เราก็เช่นกัน
    เปลี่ยนไปยังไงน่ะเหรอ?

    สถานบันเทิง...

    ไม่ผิดหรอก สถานบันเทิงจริงๆ 55555555

    มีคนเคยบอกไว้ว่า
    ถ้าไม่ได้ไปข้าวสาร แสดงว่าคุณไม่เคยอยู่ในไอเซค

    ไอเราก็ไม่ใช่คนที่นิยมไปสถานบันเทิงซะด้วยสิ
    แต่พอไปครั้งแรกที่บาหลี ดันติดใจ...
    สวัสดีไทยแลนด์รอบที่ 23 ก็พาต่างชาติไปข้าวสารซะเลย!

    และนั่นคือการไปข้าวสารครั้งแรก + จุดเริ่มต้นของความยากลำบากในชมรม

    เวลาล่วงเลยมาจนถึง

    โครงการสวัสดีไทยแลนด์รอบที่ 23

    รูปรวมโครงการสวัสดีไทยแลนด์รอบที่ 23 เป็นรอบที่เราชอบที่สุดและมีคนที่สัมมามากสุด
    เราเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานมากกว่าเดิม
    สัมภาษณ์ชาวต่างชาติหลากเชื้อชาติมากขึ้น ทั้งฟิลิปปินส์ อียิปต์ เม็กซิโก เวียดนาม และอื่นๆ ทั้งๆ ที่ตอนเข้าชมรมมาแรกๆ เราแทบไม่มีความ active เลยแม้แต่น้อยเพราะมัวแต่กลัวนู่นนี่ เบี่ยงไปเรื่อย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ดีเอามากๆ สมาชิกใหม่อย่าลอกเลียนแบบนะคะ แต่พอได้เข้าร่วมโครงการมันก็ทำให้เราเห็นภาพต่างๆ ชัดมากขึ้น โดยเฉพาะตอนชาวต่างชาติไปสอนเด็กที่โรงเรียนต่างจังหวัด เหมือนเราเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เด็กๆ ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น
    ไปรับแก๊งฟิลิปปินส์ที่สนามบินสุวรรณภูมิครั้งแรก แก๊งนี้ดีมาก สนิทมาก
    รอบนี้เราได้คุยกับชาวต่างชาติเยอะกว่ารอบ 22 ด้วยความที่มีคนที่เราสัมมาประมาณ 7 คน ใช่ค่ะ ตั้ง 7 คนเลย และเราได้คุยด้วยแทบทุกคนเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ และจัดร่วมกับ UTCC (ม.หอการค้าไทย) เราเล่นอูโน่กับต่างชาติด้วยแถมโดนโกงอีก มันน่าตี 555555555555 แบบยังไม่ทันวางไพ่เลย พูดอูโน่ตัดหน้ากูแล้ว โดนจั่วเพิ่มอีก 5 ใบ กูเกือบจะชนะอยู่แล้วเชียว!! บางคนก็ยังซาบซึ้งกับสิ่งที่เราทำ เช่น ไปซื้อซิมส์ที่สนามบินมาให้, ให้ผ่านสัมภาษณ์เพื่อที่เขาจะได้สานฝันการเป็นครูและบอกว่าเราคือกุญแจสำคัญของความฝันของเขาอีกด้วย เราอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย นี่เราคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงเหรอ? ดูยิ่งใหญ่และทัชใจจัง
    รอบ 23 ถ่ายรูปกับหลายคนมากๆ นี่ยังไม่หมด
    แล้วรอบนี้เป็นครั้งแรกที่เราสัญญากับพวกเขาไว้ว่าวันสุดท้ายจะไปหาที่ Farewell Party เป็นการกินอาหารร่วมกันครั้งสุดท้ายเพื่ออำลาก่อนที่ทุกคนจะกลับประเทศ แล้วหลังจากนั้นก็ไปข้าวสาร(ซึ่งเป็นรอบแก้ตัว เพราะรอบแรกอย่างเละ) โชคดีที่แก๊ง AIESECer ไทยไปด้วยหลายคนและหาโฮสเทลแถวนั้นอยู่กัน เราเลยไปข้าวสารได้อย่างสบายๆ ซึ่งตอนนั้นเราไปก็แค่ไปเต้นเฉยๆ ไม่กินอะไรเพราะไม่เคยกิน
    กับแก๊งฟิลิปปินส์เจ้าเก่าเจ้าเดิม เต้นเสร็จก็แยกย้าย บ๊ายบายกัน ฮือ
    แล้วไหนล่ะความยากลำบากที่เกริ่นไป?
    กำลังจะเล่าอยู่นี่ไงแก
  • ที่เล่าไว้เมื่อสักครู่ว่าไปข้าวสารรอบแก้ตัว แต่รอบแรกอย่างเละ

    รอบแรกแม่งเละจริง

    เป็นการไปข้าวสารครั้งแรก พาต่างชาติไปครั้งแรก
    และเราก็แพนิคไปแล้วซะด้วยสิ
    เรากับ Samantha เป็นคนที่เราสัมและเป็นบัดดี้จากแคนาดา
    เรากับแซม(ชื่อเล่น) ถูกจับพลัดจับผลูมาเป็นบัดดี้กัน ถึงแม้คนนี้เราจะเป็นคนสัมมาก็เถอะ 555555 ชีมาถึงวันสองเพราะไฟลท์ดีเลย์แรงมากตั้งแต่ต้นทาง ดีเลย์เป็นวัน เราพาชีกับต่างชาติคนอื่นไปข้าวสารเป็นครั้งแรก และ ณ ตอนนั้นไม่มีคนไทยที่เราคุ้นเคยไปด้วยเลย มีแต่เราที่พามา ที่เหลือเป็นบัดดี้ซึ่งเขาก็แยกย้ายกลับบ้านเขา ไม่ได้นอนที่พักกับเรา และต่างชาติก็ไปตั้งเยอะด้วยนะ ไอ้บ้าเอ๊ย
    ประเด็นคือพอเราไปจริงๆ เราก็แพนิคมาก ไหนจะต้องดูแลทุกคน พื้นที่แถวนั้นทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดี มีแต่กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมด จะอันตรายมั้ย แต่ไอเราก็อยากมาเพราะอยากรู้อยากลอง ไปๆ มาๆ คือชีและเพื่อนๆ เมาค่ะ บางคนคือต้องรีบแบกหามกลับที่พักเพราะอีกวันพวกนางต้องไปหาครูที่โรงเรียนแล้ว ตอนนั้นแยกย้ายกันนั่งแท็กซี่กลับ บัดดี้อาสาไปส่งที่ที่พักให้ เราไม่รู้ว่าแซมแยกไปกับบัดดี้รึเปล่า เมื่อถึงที่พักเรียบร้อยแล้ว

    เราหาแซมไม่เจอ

    แซมถึงรึยัง? ขึ้นห้องรึยัง? หรือยังมาไม่ถึง?
    ตอนนั้นคือชิบหายแล้วมึง ทำคนหาย เราโทรหาชี ชีไม่รับ เราโทรหาบัดดี้ที่ไปด้วย เขาบอกแซมอยู่กับเขาแต่ยังมาไม่ถึง โล่งใจไปนิดนึง เราขึ้นห้องมาเล่น Truth or Dare กับคนอื่นต่อ สักพักมีคนถามหาเราและต่อจากนั้นแซมก็ปรากฎตัว

    สภาพชีมอมแมมมาก เหมือนเมาแล้วล้มข้างกองขยะ
    และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าชีไปล้มตรงไหนมา แต่เละมากแม่

    เรารีบเอากระเป๋าเดินทางชีออกมาจากห้อง และพาชีไปห้องพัก อาบน้ำดับกลิ่นซะแม่
    โล่งใจที่ชีกลับมา แต่ทำไมไปสำมะเลเทเมาขนาดนี้!!

    รอบนั้นกูเข็ดกับข้าวสารเลย ถ้าจะพาใครมาขอคนไทยไปช่วยดูแลด้วย กูแพนิคมาก ฮือ
    มันจึงมีรอบแก้ตัวไง และรอบแก้ตัวก็เป็นไปได้สวย Thanks god
  • ยังไม่จบกับชีแซม ยังมีอีก

    ชีไปโรงเรียนแล้วใช่มะ เราก็คอยถามไถ่ว่าโรงเรียนเป็นไงบ้าง บลาๆๆ ตามประสาบัดดี้ ผ่านไปไม่กี่วันโรงเรียนก็โทรหาคนดูแลเรื่องจัดหาโรงเรียน ประมาณว่าชีแต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่เหมาะกับการเป็นครูเลย เพราะชีแต่งสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น อะไรประมาณนี้ อะ เราก็ไปเตือน ชีก็โอเค

    และไม่ถึง 5 วันต่อมา
    ชีทักมาว่ามีปัญหากับโรงเรียน เรื่องเงิน เรื่องที่ไม่ได้นอนห้องแอร์
    และชีจะกลับประเทศในวันรุ่งขึ้น...

    เราว่ามันไม่ใช่แล้ว เราเลยปรึกษากับ VP ว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี เราก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้ผลลัพธ์ออกมาดีทุกฝ่าย มีคนไปคุยกับทางโรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้น เราพยายามโน้มน้าวชีแล้วว่ามันไม่ใช่แบบนั้นนะ ลองแก้แบบนี้ดูดีมั้ย? ลองปรับตัวอีกสักรอบดีมั้ย? แต่ชีก็ไม่เอาอ่าวแล้ว อีกวันนึงชีกลับไปแล้วจริงๆ พร้อมทั้งอันฟอลไอจีเรา ภาพสุดท้ายที่ลงคือรูปหลังคาโรงเรียนและท้องฟ้า พร้อมกับแคปชั่นออกแนว

    Pretend to be happy in Thailand

    แกว่าตอนนั้นเรารู้สึกแย่ป้ะ? ตอนนั้นเราโคตรรู้สึกแย่เลย เหมือนสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ต้นพังถล่มลงมา เราตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมาสัมแซมตอน 7 โมงเช้า เรามั่นใจว่าถ้าชีผ่าน ชีจะมาสร้างประโยชน์ให้แน่ๆ เราพยายามคุยกับแซม เราจะเป็นบัดดี้ที่ดี เราจะไม่ทิ้งชี แต่นี่คือสิ่งที่ชีทำกับเราในฐานะการเป็นบัดดี้ครั้งแรก เรารู้สึกว่าเราล้มเหลวมาก เราทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบ มันแย่มากจนเราไม่ไหวต้องร้องไห้ออกมา ซึ่งปกติเราเป็นคนที่ร้องไห้ยากมาก ยกเว้นกับเรื่องที่กระทบจิตใจจริงๆ

    ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราจมอยู่กับความรู้สึกที่แย่มาตลอดหลายวัน หลายสัปดาห์
    มันลำบากมากๆ เลยที่ตอนนั้นไม่มีคนคอยฮีลเรา หรือมีแล้วแต่มันยังไม่มากพอ

    รู้สึกว่า lost confidence ไปเลย

    แต่ชีวิตก็ต้อง move on เนอะ
    เรากลับมาอีกครั้งในโครงการสวัสดีไทยแลนด์รอบที่ 25
    และเราขอลองเป็นบัดดี้อีกรอบหนึ่ง
    ถ้ารอบนี้ล้มเหลวอีก

    เราคงออกจากไอเซค
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in