เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/me Now.geekjuggler
ฝันสลาย...แต่ยังหายใจ
  • ฝันที่พยายามเท่าไรมันก็ไม่เป็นจริง นี่มันเจ็บปวดดีนะ

    สองสามวันที่ผ่านมาเป็นช่วงที่หนักหน่วงและมืดบอดที่สุดในชีวิต
เมื่อคุณรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองตั้งความหวังเอาไว้ มันได้พังทลายลงอีกครั้ง ... และไม่ใช่แค่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ห้า

    เสียใจไหม แน่นอนล่ะ ถ้าตอบว่าปกติก็คงกระดากปาก 
แต่เศร้าไหม กลับไม่ค่อย ไม่รู้ว่าเพราะเผื่อใจเอาไว้ หรือ เพราะมันชาชินไปแล้ว

    หลังจากปล่อยมันให้ตกตะกอนนอนก้นไปสักพัก
    นี่คือ 3 สิ่งที่ได้เรียนรู้กับการประคับประคองความฝันของตัวเอง

    1. All is well. ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันดีเสมอ
    จากช่วงเวลาและความทุ่มเท่ที่จ่ายออกไป ทำให้รู้ว่าถ้าพยายามเต็มที่แล้ว ทุกอย่างมันจะโอเคเสมอ ได้รู้ว่าถ้าตัวเองมีวินัยมากพอเหมือนช่วงก่อร่างปั้นความฝันนั้น (ซึ่งตอนนี้ขาดแคลนเหลือเกิน) หลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำ มันสามารถทำจริงได้หมดเลย

    2. You got only one shot. ครั้งแรกที่อาจไม่มีครั้งที่สอง
    จริงๆ ในปี 2015 ความฝันผมผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกแค่หนึ่งด่านเท่านั้น แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ไม่พร้อม ความตื่นเต้น ประมาท และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ผ่านมันไปไม่ได้ ในใจตอนนั้น คิดว่า เอาวะ มาถึงด่านนั้นแล้ว ปีหน้าเอาใหม่ก็ได้ แต่หลังจากนั้น โอกาสที่ว่าก็ไม่กลับมาอีกเลย ก็ได้บทเรียนเจ็บๆ ให้กับตัวเองว่า จงเต็มที่ในทุกโอกาส เพราะมันอาจไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วตลอดชีวิต

    3. Time to move on เอาล่ะ ไปต่อ
    จริงๆ จะสู้ต่อไปอีกปีได้ไหม มันก็ได้อยู่ แต่เวลา ช่วงวัยอายุ และปัจจัยอะไรอีกหลายๆ อย่างมันไม่ได้รอเราได้ขนาดนั้น มันเจ็บปวดเหมือนกันกับการต้องเดินหน้าต่อไปในจังหวะก้าวเดินของชีวิตโดยต้องทิ้งความฝันของตัวเองไว้ข้างหลัง คุณก็รู้ ไม่มีใครได้ในทุกอย่างที่ต้องการไปเสียทั้งหมด

    จบกันไปอีกหนึ่งช่วงปี
    สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้ ไม่น่าจะมีอะไรเหมาะสมไปกว่า
    คว้าหูฟัง เปิดเพลง Still Breathing ของคณะ Green Day 

    ยิ้มให้ตัวเอง แล้ว “หายใจ” กันต่อไป

    แด่ผู้มีความฝันที่ไม่เป็นจริงและคนที่พยายามคนหาความฝันของตัวเอง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in