ความรู้สึกล่องลอยยังวนอยู่ หลังจากเดินเบอร์มิ่งแฮมมาได้สักระยะ ตื่นตาตื่นใจชิบ!
จะพูดไปนี่เจอแขกเยอะเหมือนกันนะครัชพี่น้อง คือแบบมองไปนี่เพียบเลย เลยหันไปถามพี่สาวว่าเมืองนี้แขกเยอะหรอ แต่ฉันก็ไม่ได้กลัวอะไรเค้านะ เพราะเค้าก็ไม่ได้ดูมีพิษมีภัยอะไร ก็เลยนั่นแหละ เดินเพลิน พี่แคลร์พาเดินรอบเบอร์มิ่งแฮม
และด้วยความ (โคตร)สนิทกันนางเลยพูดอะไรขำๆ (แต่เป็นเรื่องจริงตลอดอะ) กับฉันเสมอ อีหอนางเนี่ย นางเคยบอกว่าอยู่กลางเมือง ฉันเลยหันไปถามถ้าให้เทียบกับสยาม ก็โนโวเทลงี้น่ะหรอ นางบอก "โนว บ้านเจ้นี่เซ็นเตอร์พ้อยย่ะ" บอกทีนี่รู้เลยเกิดยุคไหน อื้อหือ พอไปถึงแม่งกลางเมืองจริง ก็ดีเดินสบายดี๊ ชีวิตอินี่ก็เลยดีเลย มีแม่นมคอยดูแลตั้งแต่ลงเครื่อง มีพี่ดีมีชัยไปกว่าครึ่งสนาม ฮ่าๆๆ เอาน่ะ อันที่จริงฉันก็อยากจะลองแอดเวนเจอร์ดู แต่พออิหรอบนี้ มันก็สบายดีนะ ฮ่าาา
นอนบ้านพี่แคลร์คืนนี้ หล่อนเล่าให้ฟังมาหลายรอบว่ากลุ่มที่สนิท ชื่อClaire the gang ผนวกด้วยเพื่อนเด็กหลากหลายเจเนเรชั่น ส่วนใหญ่อายุเท่าฉัน เป็นเด็กเถื่อนบ้าง น่ารักบ้าง ในคนเดียวกัน คือแล้วแต่โหมดของแต่ละคน ได้ยินชื่อมาเยอะ แต่เห็นนางบอกว่าตอนนี้เหลืออยู่แค่สี่คนผัวเมีย คือไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริงๆหรอก แต่สนิทกัน กินเที่ยวเล่นกันฉันผัวเมีย อะไรจะขนาดนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฉันก็ไม่ไ้ดติดใจอะไรมากจนกระทั่งเจอเพื่อนคนแรกที่เหลืออยู่ของเจ๊แก?!
คือ คนนึงกลับไทยไปหาแฟน อีกคนอยู่กับครอบครัว คนแรกที่ฉันเจอเป็นหนุ่ม(เกือบ)ล่ำรอยสักเต็มตัว ชื่อ เฮียบอส เฮียบอสเนี่ยอายุเท่าฉันนี่แหละ แต่เป็นหนุ่มดิบเถื่อน หน้าหล่อ โฉด สไตล์สาวเห็นแล้วคงกรี๊ด พี่แคลร์เล่าว่าอั้มมาเล่นที่ห้องทุกวัน มากินข้าว มันนอนเล่น แบบโคตรจะไม่ไ้ด้คิดอะไร คือชิวชิบหาย สนิทกันจนกระทั่งว่า พี่บอสแกทำกิจส่วนตัว(มากกก) ที่ห้องอยู่ก็สามารถบอกเจ๊ได้ว่า “พี่โทมาไมตอนนี้ ผมกำลัง..อยู่” เฮฮาดี เห็นพี่ชีวิตดีฉันก็สบายใจ
เจอกันแล้วฉันก็ไปทำอาหารที่ซื้อวัตถุดิบมาจากตลาดจีน เห็นพี่แคลร์เล่าให้ฟังว่าชื่อ “เดย์อิน” ในเบอร์มิ่งแฮมกิน เพราะตอนนี้ขอกินมังก่อนสามวัน (มังที่ว่านี่คือมังสวิรัตินะ ไม่ใช่มังคุด - มุขอะไรของแม่งวะ) คือบนเอาไว้ว่าสามวันหลังได้วีซ่าจะกินมังฯ ความโรคจิตของฉันอย่างหนึ่ง คือชอบกินอาหารบนเครื่องบินมาก...มากกกกกกกก คือชอบโมเม้นท์ตอนแกะฟอยล์ออกมา แล้วเจออาหารร้อนๆอะ (จริงๆความโรคจิตเกิดขึ้นจากการที่ชอบกินอาหารร้อนนี่แหละ จิตมากจริงๆ ฮ่าๆๆ) ควันฉุยๆ มันดูแบบอร่อยย (ทั้งๆที่หลายคนบอกมึงจะบ้าหรอ อาหารบนเครื่องบางทีด.ม.ด.เลยนะมึง - แปลเองนะ) เอาเถอะ นั่นก็เลยทำให้ฉันต้องกินมังฯ หลังจากที่ฉันเอาเต้าหู้ไข่ มาผสมกับผักโน่นนี่นั่นสารพัดผักโยนลงหม้อ
และพี่บอสก็เปิดประตูเข้ามา..
โมเม้นท์แรกฉันยังทำตัวหงิมๆ มองว่าอินี่หล่อดี สักพักความหล่อแม่งเริ่มหายไป เพราะพี่แกแม่งกระโดดลงไปนอนแผ่หราบนเตียงพี่ฉัน และ ดูทีวีอย่างเพลินตา ชิวไป๊พี่ คีพลุคหน่อย คีพลุคกับหนูโหน่ยยยยย อย่าปล่อยตัวขนาดเน้ (อยากจะตะโกนแต่ก็ได้เพียงเก็บไว้ในใจ) สักพักพี่แคลร์หันไปถามอั้มว่า “บอส ภัสมันไปสตาร์บัคมา แล้วพนักงาน เรียกมันไม่ได้ คือแบบฝรั่งไงได้ยินภัส ก็เรียก พาส พาสตลอดเลย ตอนนี้ถ้าไม่ภัสซี่ ก็พุสซี่อะ(ใช่หรอวะ แต่มีคนขำนะนั่น) แต่น้องมันไม่ชอบ มันบอกดูงิ้งไปไม่เข้ากับมัน บอสช่วยคิดชื่อหน่อยชื่อไรดี” พี่บอสนี่เป็นคนคิดชื่อประจำกลุ่มของเขา ไอฉันก็รอเลย โอ้ยชื่อมันต้องดีแน่ๆเลย ชื่อฝรั่งแรกของหนู by พี่บอสเบอร์มิ่งแฮมตั้งให้เลยนะ ... พี่บอสหยุดคิดสักพักแล้วหันกลับมาบอกว่า..
“ลินดามั้ย?...”
เชรี่ยยย พี่ผมขำพรืดๆ เลยครับ พี่น้องครับ ลินดานี่ชื่อแม่หรือไรครับพี่?? พี่แคลร์หัวเราะฉันพุงแทบแตก แล้วแอบมากระซิบหลังไมค์ว่า ขนาดชื่อตัวเองมันยังตั้งว่า จอร์จ แล้วบอกให้เพื่อนอีกคนนึงใช้ชื่อโจชัวเลย ฮืม....
ครีเอทีฟจริงๆ...
ลินดา ลินดา...ลิ๊นดา..เพลงพี่โจอี้บอยลอยเข้ามาในหัวเลยให้ตายเถอะ!
ภัสก็เป็นภัสนี่แหละ ใครฟังไม่รู้เรื่องจะสะกดให้ฟังแม่มเลย!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in