ก่อนจะรู้จัก Couchsurfing
ย้อนกลับไปก่อนที่เราจะได้รู้จักกับ Couchsurfing เราเคยรู้จักรูปแบบการหาที่พักในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ผ่านเว็บไซต์ airbnb.com ที่เจ้าของบ้านเปิดบ้านให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเหมือนกัน แต่ที่ต่างคือ Airbnb มีการตั้งราคาเข้าพักคล้ายโรงแรม แต่ถูกกว่าและได้ความใกล้ชิดกับเจ้าของบ้านเป็นของแถม ให้อารมณ์เหมือนไปนอนพักบ้านญาติห่างๆ ในต่างแดน
เราเคยใช้บริการที่พักจาก Airbnb ตอนไปปารีสเมื่อสองปีก่อน ได้ที่พักเป็นบ้านใจกลางเมือง นอกจากจะราคาถูกกว่าโรงแรมในย่านนั้นพอสมควรแล้ว เจ้าของบ้านที่เราไปพักยังคอยพูดคุยและแนะนำอะไรที่น่าสนใจในเมืองของเขาให้เราฟังด้วย เรียกว่าเป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวสายชอบตีสนิทอย่างเรามาก เลยติดใจและเป็นลูกค้าประจำของ Airbnb เวลาไปเที่ยวต่างประเทศนับตั้งแต่นั้น
แต่สำหรับ Couchsurfing แล้ว ถึงจะเป็นการเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าพักเหมือนกัน แต่เสน่ห์ที่มากกว่าการ ‘ไปอยู่ฟรี’ คือชะตาที่ต้องกันระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้ไปขออาศัย เพราะการติดต่อขอเข้าพักใน Couchsurfing เนี่ย ต้องอ่านประวัติเงื่อนไขความต้องการ รู้จักนิสัยใจคอกัน จากนั้นก็ค่อยส่งข้อความไปทักทาย ขอไปพักด้วยสักคืนสองคืน ถ้าเขาเห็นว่าเราน่าไว้ใจ ดูเป็นมิตรที่ดีและมีเวลาตรงกัน พอตกลงกันได้แล้ว ก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าไปพักบ้านเขาได้เลย
เรียกว่าถ้าชะตาต้องกันแล้ว ต่อให้ค่ารถที่ใช้เดินทางไปยังบ้านของโฮสต์จะแพงกว่าเสียเงินนอนโรงแรมใกล้ๆ ก็ยอม
“พี่โบ้ แล้วแพรจะรู้ได้ยังไงว่าไปนอนบ้านเขาแล้วมันจะปลอดภัย”
“เฮ้ย เราก็ต้องอ่านประวัติเขาดีๆ ก่อน แล้วก็ดูเรเฟอเรนซ์จากคนที่เคยไปพักมาแล้ว แบบนี้ก็จะพอรู้นะว่าคนไหนโอเค คนไหนไม่โอเค” พี่โบ้ตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
แต่... ก็ยังมีความกังวลของหญิงสาวสองคนที่จะต้องไปนอนบ้านคนแปลกหน้า เราเลยขอเพลย์เซฟด้วยการเลือกเฉพาะบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวและมีลูกเล็กเด็กแดงอยู่ด้วย คิดว่าอย่างน้อยบ้านแบบนี้ก็น่าจะไว้ใจได้แหละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in