ทวิตเตอร์เป็น SNS ที่สนุกมากค่ะ

ถ้าคุณคิดว่าชีวิตคุณช่างธรรมดา ก็ลองสมัครทวิตเตอร์ไปหาเรื่องพีคๆในชีวิตเพิ่มได้ 555555

เรื่องนี้เกิดขึ้นใน DM (Direct Message) ของทวิตเตอร์ที่ไม่เคยสงบสุขของเรา

ช่วงปลายเดือนตุลาที่ผ่านมาเราได้แปลรายการหนึ่งลงในทวิตเตอร์

(แบบที่ชอบทำเป็นปกตินั่นแหละค่ะ)

ตอนนั้นแปลแค่ฆ่าเวลาดูรายการของเมนตอนบ่ายเท่านั้นเอง

นั่งดูรายการญป.อยู่เขาบอกมีคนญป.อาศัยอยู่ในกรุงเทพตั้ง 46,000 คน เฮ้ยยยย เยอะเบอร์นี้เลยหรออออ pic.twitter.com/wEd7eGLmw1

— んふんふんふ！(ミオだよ！) (@meawziie) October 26, 2016

ปรากฎว่า โอ้โหหคนรีถล่มทะลายมากกกกก

(และก็เกิดการรีโพสเนื้อหาของเรามากมายโดยไม่ได้ขอ มากมาย ชริงๆ)

แต่ในการรีโพสที่ไม่ได้รับการขอจากเจ้าของเนี่ย มีเพจๆนึงค่ะ 

ได้ทำการขออนุญาตเนื้อหาของเราไปโพสอย่างถูกต้อง

ซึ่งเราอยากบอกชื่อเพจมากแต่บอกไม่ได้เพราะมันจะเกี่ยวกับเนื้อหาต่อไปนี้ ซึ่งก็คือหัวเรื่องของวันนี้

เพจๆนี้มีคนกดไลค์อยู่ราวๆ 3 แสนคนค่ะ ก็เยอะพอสมควร 

เป็นเพจที่แคปทวิตเตอร์ไปลงเฟซอะไรประมานนั้น

แอดมินได้ทำการ DM มาขอทวิตเตอร์เราไปรีโพส ซึ่งถ้าขอมาขนาดนี้แน่นอนเรายินดี

ในระหว่างที่เราก็นั่งปั่นงานเช็คนู้นนี่ไปเรื่อยๆ ราวๆ3ทุ่มมีDM แปลกๆภาษาอังกฤษมาหาเรา

(จริงๆเราเป็นคนไม่ล็อค DM ค่ะ)

เค้าน่าจะเป็นคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแหละ

เนื้อหาคร่าวๆคือเค้าอยากให้เราบอกทวิตเตอร์ของแอดมินเพจให้หน่อย

ซึ่งเรื่อง Privacy อะไรแบบนี้เราเข้าใจดี เราก็เลยไม่บอกค่ะ

เอาจริงๆอินี่ก็ค่อนข้างโรคจิตค่ะ แต่เราก็อยากรู้ว่าเค้าจะเอาไปทำไมแว้

ก็เลยคุยไปเรื่อยๆ (สรุปอินี่บ้ากว่า)

นางก็วอแว ว่าแบบยูไม่รู้จักเค้าแล้วจะปกป้องเค้าทำไม

เราก็บอกว่า เฮ้ยย ไม่รู้จักแต่นี่ไม่ใช่เรื่องของกรูที่เค้าไม่อยากให้รู้เราก็ไม่บอก

เราก็ถามนางเอาไปทำไม นางก็บอกเราแค่ว่า ไม่อยากทำให้ยูรู้สึก uncomfortable

เอ้าอินี่ กุอยากรู้ 555555555555555

ลากมาซะยาว

แต่ในการคุยกับคนประหลาดนี่ไปเรื่อยๆ นางก็ถามว่ายูเรียนอยู่หรอ

เราก็บอก ใช่ เราเรียนญป.อยู่ 5555555 (ก็ตอบเค้าเนอะ)

แล้วนางก็รัวญป.มาหาเรา เราก็ตอบญป.ไปสักพักนางก็บอกเราว่า

私は 日本人 ですが 英語の方が 好きです

ผมเป็นคนญี่ปุ่น แต่ชอบภาษาอังกฤษมากกว่า

I feel more comfortable using English.

I hate the Japanese people who cannot speak any foreign language.

Most of Japanese can speak only Japanese.

เราอ่านละแบบ เย่ดดดดดดดดดดดดด

จริงๆเราก็พอรู้นะว่าญี่ปุ่นมันมีคนหลายประเภทมากๆ 

คนที่เกลียดความเป็นญี่ปุ่นของตัวเองก็มีเยอะเช่นกัน

บางคนชอบไปทางอเมริกา ฝรั่งไรงี้ แล้วเกลียดความเป็นชนชาติเชื้อชาติของตัวเอง

ซึ่งขัดแย้งกับมนุษย์เกาะ(เกาะ = ญี่ปุ่น)ส่วนใหญ่ที่คิดว่า "ญี่ปุ่นนี่แหละ นัมเบอร์วัน!!!"

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้คุยกับคนส่วนน้อย(เดี๋ยวนี้อาจจะมากขึ้น)ที่ดูจะไม่ชอบความญี่ปุ่นของตัวเอง

ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นในความคิดของเรา เราก็คิดถึง "ความโลกหมุนรอบญี่ปุ่น"

มันอาจจะเป็นมุมมองแคบๆของตัวเราเองก็ได้ ใครที่มีวิชั่นกว้างขวางกว่านี้อาจจะเห็นต่างไปจากเรา

มันก็มีชาติอื่นที่มองญี่ปุ่นเป็นชาติที่ดูไม่ค่อยสนใจภาษาอังกฤษ

(แน่นอนมันก็มีเหมือนกันแหละคนที่พูดได้คล่องสำเนียงเป๊ะ เราก็ต้องมองให้กว้าง)

แต่ในญี่ปุ่นเองเค้าก็มีคนที่เกลียดในจุดๆนั้นของคนในชาติเค้าเหมือนกัน

พออ่านDMนั้นเราก็แอบคิดอะไรได้หลายๆเรื่องเลยนะ

อย่างเช่นว่า เราเกิดเป็นคนไทย มันก็มีบ้างที่เรารู้สึกว่า โหยยประเทศเราแม่มไม่เกร๋เลย

แต่ในลึกๆแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกว่า เป็นคนไทยมันไม่ดีขนาดนั้นอะ

แล้วเราก็ไม่เคยคิดอยากเกิดเป็นคนญี่ปุ่นด้วย

(หรือแม้แต่อยากได้สามีเป็นคนญี่ปุ่น/อันนี้จริงจัง)

สังคมญี่ปุ่นมันมีความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยความซับซ้อนอะ

กฎสังคมมากมายที่ถูกตั้งขึ้นมาแล้วทุกคน "จำเป็น" ต้องทำตาม

ยากจัง....

ถามว่าสุดท้ายนี้เรารู้ไหมว่าคนญี่ปุ่นที่DM มาหาเราเค้าต้องการอะไร

ตอบ: ไม่รู้เหมือนเดิม แม่มล็อคทวิตไปแล้วด้วยอดส่องเบย

แต่อย่างน้อยการคุยกับการประหลาดครั้งนี้ก็ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่างเหมือนกันนะ

ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้ค่ะ

ปล.สรุปบทความนี้ต้องการสื่ออะไร 5555555555555555555

เท่าที่รู้คนพีคๆรวมตัวกันในทวิตเตอร์ชริงๆ