เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
All of Minbaekseo_sso
Missing You


  •                 ผมเคยลองคิดเล่นๆว่าถ้าเกิดเราห่างจากครอบครัวหรือคนรักเป็นเวลานาน เวลาเจอหน้ากันมันจะเป็นยังไง เป็นเวลาเกือบจะ3เดือนแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าสมาชิกในวงเลย


                   พี่มินฮยอนทำไมยังไม่นอนครับ” เสียงรูมเมทของผมอย่างไล ควานลินทักผมขึ้น

                   “ก็คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ นายล่ะ” ผมยิ้มแล้วตอบ

                   “พรุ่งนี้เราจะได้เจอพวกพี่ๆด้วย ผมตื่นเต้น” ควานลินตอบพร้อมกับทำหน้าตาดีใจ 

    ควานลินน่ะสนิทกับสมาชิกในวงของผมมากโดยเฉพาะ เขาคนนั้น 

                    “ตื่นเต้นได้นะ แต่อย่านอนดึก” ผมพูดติดตลกแล้วเดินไปปิดไฟห้อง เมื่อเห็นเด็กๆในห้องเข้าประจำที่นอนแล้ว
     
                  “ฝันดีนะเด็กๆ” ผมบอก ได้ยินเสียงครางงึมงำของอูจินและจีฮุนที่มาจากเตียงสองชั้นของอีกฝั่งนึง และเสียงกรนเบาๆของแจฮวานที่นอนอยู่ชั้นบน

                    ส่วนผมก็คงต้องนอนบ้างแล้ว ตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้เจอเขาคนนั้นแล้ว จะทำยังไงดีนะ เข้าไปกอด เข้าไปคุย อ่า... แค่คิดก็ตื่นเต้นไปหมดแล้ว   ถึงผมจะบอกควานลินให้รีบนอนแต่จริงๆผมก็นอนไม่หลับหรอก ผมหยิบโทรศัพท์ที่ไม่ค่อยว่างให้ใช้นักขึ้นมา เข้าแอพพลิเคชั่นสีนำตาลเหลือง        กดเข้าไปที่กลุ่มที่เคยคุยกันอย่างคุ้นเคย


    ฮวังมินฮยอนเป็นฝ่าบาทล่ะ (5)23:17

    แค่อ่านชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่เขาก็ขำแล้วเพื่อนๆในวงชอบล้อเขาแบบนี้อยู่เรื่อย


    Optimushwang:พวกนายนอนกันรึยัง

                   ผมเป็นคนทักทุกคนไปก่อน 

                    อะอ่านแล้วสองคน

    Glorypath:มินฮยอนนนนนคิดถึงนายจัง ว่างแล้วหรอ

    Optimushwang:ก็ว่างมั้งส่งเด็กๆเข้านอนแล้ว

    Pockyjr:เป็นไงเหนื่อยมั้ย?

    Optimushwang:ก็นิดหน่อยน่ะ 

    เตรียมคัมแบคกันอยู่

    โปรโมตเป็นไปได้ดีนะได้ที่1ด้วย

    วันนี้ฉันร้องไห้แทบแย่แหนะ

    Nuestaron:นายก็ร้องหรอพี่ร้องหนักมากๆเลยนะTT TT

    Glorypath:พี่น่ะขี้แยอยู่แล้วเถอะ

    Pockyjr:ใช่ๆพี่ขี้แยฮ่าๆ

    Optimushwang:แล้วนี่ดงโฮล่ะ

    Nuestaron:เมื่อกี้ก็อยู่ห้องซ้อมด้วยกันนะ

    แต่พอกลับมาหอก็หายไปเลย

    Optimushwang:อ๋อครับ

    Pockyjr:พรุ่งนี้เรามีงานด้วยกันหนิเนาะที่ปูซาน

    Glorypath:ใช่ๆจะได้เจอกันแล้วนะฝ่าบาท

    Nuestaron:ขอกอดทีนะ คิดถึง

    Optimushwang:คิดค่ากอดครับ

    ฮ่าๆล้อเล่น

    พวกนายแล้วก็อารอนฮยองอาบน้ำเข้านอนกันได้แล้วนะดึกแล้ว

    Pockyjr:อื้อนายด้วยนะฝันดีมินฮยอน

    Glorypath:ฝันดีครับฝ่าบาทท

    Nuestaron:ฝันดี >_<
     

                  ผมอ่านข้อความของทุกคนแล้วยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ พวกเขายังอบอุ่นกับผมอยู่เสมอ ถึงจะไม่ได้เจอกันนานแต่ยังรู้สึกแบบเดิมไม่เปลี่ยนเลย แต่อีกคนไปไหนนะถึงไม่อ่านข้อความในกลุ่มเลย


    เจ้าหมีคังดงโฮ23:23

    Optimushwang:นี่หลับไปแล้วหรอไม่เห็นอ่านในกรุ้ปเลย

    Realbaekho:พึ่งอาบน้ำเสร็จ

                    
    แค่เขาตอบ ผมก็ดีใจมากแล้วล่ะ


    Realbaekho:มีอะไรรึเปล่า

    Optimushwang:อ่าก็มีแหละมั้ง

    Realbaekho:ก็ว่ามาสิ 

    Optimushwang:คิดถึง
                    
    ความคิดถึงที่ผมมีให้ดงโฮ มันพิเศษกว่าคนอื่น อาจเป็นเพราะเราเคยใกล้ชิดกันมากๆ

    Realbaekho:ทักมาตรงเวลาดีนะ23:23 เป๊ะเลย

    Optimushwang:ฉันไม่ได้สังเกตเลยแหะ

    พรุ่งนี้เรามีงานที่ปูซานเหมือนกันใช่มั้ย?

    Realbaekho:อืม จะได้เจอกันแล้วนะ

    Optimushwang:ฉันอยากเจอนายมากๆเลย

    Realbaekho:เหมือนกัน:)
                    

    อิโมจิยิ้มที่ส่งมาทำให้ผมนึกถึงรอยยิ้มของดงโฮจริงๆ คิดถึงจะแย่แล้ว

    Optimushwang:ได้ที่1ยินดีด้วยนะฉันไม่อยู่นี่งอแงใหญ่เลยนะ

    Realbaekho:อะไรเล่า ก็ดีใจถ้านายอยู่ก็ร้องไห้เหมือนกันนั่นแหละ

    Optimushwang:ถ้าฉันร้องใครจะปลอบนาย

    ฉันไม่ร้องหรอกแต่ดีใจจริงๆนะ 

    อยากกลับไปหาแล้ว

    Realbaekho:ใช้เวลากับน้องๆให้เต็มที่อยู่กับน้องๆมีเวลาจำกัดนะ 

    ดูเหมือนนานแต่จริงๆมันแปปเดียว

    ยังไงพวกเราก็ยังรอนายอยู่ตรงนี้ตลอดไม่ไปไหน

    Optimushwang:ดงโฮฉันอยากร้องไห้

    พรุ่งนี้ถ้าเจอกันขอร้องไห้ด้วยได้มั้ย

    Realbaekho:ไหนบอกไม่ร้อง?

    Optimushwang:อยากร้องแล้ว

    Realbaekho:เด็กขี้แย ฮ่าๆดึกแล้วมินฮยอนอ่าฝันดีนะ

    Optimushwang:ฝันดีเหมือนกันดงโฮ:)

                    






    ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยเสียงปลุกของพี่จีซอง พวกผมทั้ง11คนรีบออกจากหอแล้วไปเตรียมตัวกันเพื่องานเย็นนี้ที่ปูซาน               

    ระหว่างทางก็มีเสียงคุยกันของแดเนียลและซองอู ส่วนเบาะหลังเป็นจีฮุนกับอูจินที่ทะเลาะแย่งหมอนรองคอกัน และเมมเบอร์คนอื่นๆงีบเอาแรง               


                    “พี่มินฮยอน               

                    “อ้าว ไม่ได้หลับหรอแดฮวี               

                    “พี่ตื่นเต้นมั้ยจะได้เจอวงของพี่แล้ว”               

                    “ตื่นเต้นสิ ผมตอบแล้วยีหัวแดฮวีอย่างเอ็นดู               

                    “งั้นถ้าพี่เจอแล้วจะทำยังไงหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมใช้ความคิดสักพักก่อนจะตอบแดฮวีไป               

                    “ก็คงเข้าไปทัก พี่คิดถึงพวกเขามากเลยแหละ               

                    “ผมด้วย จะได้เจอพี่ดงโฮแล้ว               

                    “หายกลัวพี่เขาแล้วหรอ ผมผลักหัวแดฮวีเบาๆ               

                    “ไม่ได้กลัวซะหน่อย แดฮวีเบะปากอย่างงอนๆ ทำให้ผมหลุดหัวเราะ


                   ถ้าได้เจอกันจะทำยังไงดีนะ ผมคิดมาตลอดทางจนถึงสถานที่จัดงานในตอนเย็นๆ สต๊าฟเรียกรวมพวกผมให้ไปขึ้นเวทีเพื่อฝากตัวกับสต๊าฟในงาน               

                    นั่นไงผมเจอพวกเขาแล้ว เมมเบอร์ในวงเห็นแบบนั้นก็ชี้ให้ผมดูแล้วพูดแซวๆกัน ในที่สุดผมก็ไม่ได้ยืนในตำแหน่งที่เคยยืนกัน พี่ซองอุนกับพี่จีซองดันให้ผมมายืนข้างแดเนียลแทน               

                    ผมหันไปทางขวาของตัวเอง    

                    แล้วก็รีบหันมามองตรงทันที           

                    ดงโฮเขาอยู่ข้างผม               

                    พอได้มาเจอจริงๆผมทำอะไรไม่ถูกเลย ผมเกร็ง ไม่กล้าสบตามอง แต่ดงโฮก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ผมได้สบตากับเมมเบอร์ในวงของตัวเองทุกคนยิ้มทักทายผมแต่ก็ไม่ได้ออกท่าทางอะไร มีแต่ดงโฮนี่แหละ ไม่หันมาสบตาผมเลย               

                    แต่ก็ดีแล้ว ถ้าสบตาดงโฮตอนนี้ผมก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน               

                    เรายืนกันประมาณห้านาที แต่สำหรับผมมันเหมือนนานเอามากๆ ผมอยากทักนะแต่ไม่กล้า ทำตัวไม่ถูกเอาเสียเลย

                   พวกผมฝากตัวกับสต๊าฟเสร็จก็แยกย้ายกันลงเวที พวกผมลงเวทีอีกทางนึง ดงโฮลงอีกทางนึง ผมหันหลังกลับไปมองครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะคุยกับทุกคน แต่ก็ไม่กล้าทัก เลยได้แต่มองทุกคนลงเวทีไป               

                    ถึงจะไม่ได้พูดออกไป แต่วันนี้ทำเต็มที่นะทุกคน

                   






                    ผมลงไปได้สักพักก็โดนเรียกขึ้นเวทีมาบล็อกกิ้งและซ้อมการแสดงคืนนี้ เราแสดงกัน2เพลงและการซ้อมก็ผ่านไปได้ด้วยดี พวกผมโค้งให้สต๊าฟแล้วเดินลงเวทีไป ผมไปนั่งพักเหนื่อยที่บันไดด้านหลังเวที
     
                  นิวอีสต์ขึ้นเวทีครับ           


                    ผมรีบหันขวับไปดู เพื่อนๆในวงทั้ง4คนกำลังขึ้นเวทีแล้วโค้งให้สต๊าฟ และเพลงของพวกเราทั้ง5คนก็ดังขึ้น

    ยอโบเซโย

                    ท่อนนั้นเป็นของผมเอง แต่ตอนนี้เร็นได้ร้องแทนผมไปแล้ว ร้องได้เพราะมากๆเลย ระหว่างที่เขาแสดงผมก็นั่งร้องเพลงคลอไปด้วย คิดถึงจัง อยากร้องเพลงด้วยกันอีก

                    เสียงนุ่มละมุนของเร็นมันยังน่าฟังไม่เปลี่ยน

                    เสียงโทนเพราะๆของพี่อารอนมันยังน่าฟังทุกครั้ง ภาษาอังกฤษของพี่ยังดีเหมือนเดิมเลย

                    แรปนุ่มๆ ไม่ได้หนักจนเกินไปของจงฮยอนยังเข้าอารมณ์กับเพลงได้ดีเสมอ

                    และเสียงหวานๆที่ชวนฟังของแบคโฮยังคงทำให้ผมยิ้มออกทุกครั้ง

                    ทุกอย่างมันยังเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปคือทุกคนมีความสุขมากกว่าเดิมเพราะฐานแฟนคลับของเราเพิ่มขึ้นมากจริงๆ ผมได้ดูวีดีโอในเน็ตหลายอันมีเสียงแฟนชาร์ทดังมากๆ กระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆหลังรายการจบ มันดีมากๆจนได้รับถ้วยรางวัลใบที่2มาครองแล้ว ผมอยากขอบคุณเลิฟและเมมเบอร์ของผมที่ทำงานอย่างหนัก
    ผมอยากขอบคุณทุกคนจริงๆ






                    “ทำไมไม่ไปคุยกับเมมเบอร์เล่า หลังจากเราแต่งหน้าเสร็จผมก็มานั่งเล่นที่โซฟาแล้วซองอูก็เข้ามาทักผม

                    “เอาจริงๆมั้ย

                    “เออ เอาจริงๆ

                    “ไม่กล้า แล้วก็โดนซองอูฟาดเข้าให้

                    “นั่นวงนายนะ ทำไม อายหรอ?

                    “ไม่ต้องมาทะเล้น มันก็แค่... เอ่อ... ไม่รู้จะเริ่มยังไง

                    “เอ้าทำไมต้องคิดมากล่ะ ทำเหมือนที่เคยๆไง

                    “มันไม่ได้... พอไม่ได้เจอกันนานๆมันก็นะ... เรียกว่าทำตัวไม่ถูกละกัน

                    “หลังแสดงจบพาไปเอามั้ย แจฮวานเข้ามากลางวงสนทนาพร้อมลากอูจินเข้ามาด้วย

                    “ผมอยากไปเจอพี่จงฮยอนด้วย อูจินพูดขึ้นพร้อมกับขนมที่เต็มปาก

                    “ก็ไปกันหมดนี่แหละ เนอะควานลิน ซองอูพูดแล้วเพยิดหน้าไปหาควานลิน

                    “ใช่ครับๆ คิดถึงพี่ดงโฮม้ากมาก ควานลินพูดสำเนียงปูซานออกมาจนคนทั้งกลุ่มขำออกมา
    พี่ก็คิดถึงเหมือนกันควานลิน


                    ผมยืนดูการแสดงของเมมเบอร์ในวงอยู่ด้านหลัง ทุกคนทำการแสดงได้ดีมากและแฟนคลับของพวกเราก็ตั้งใจร้องแฟนชาร์ทไปพร้อมกันดังมากๆ ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกปะปนกันไปหมด ทั้งดีใจที่วงเรามีคนรักมากมาย ทั้งตื้นตันที่ความอดทนของพวกเราไม่เคยถูกทรยศ และก็ภูมิใจที่ผมได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง ถึงแม้ในตอนนี้จะยังไม่ใช่แต่ถ้าหมดสัญญาผมจะกลับไปทำหน้าที่มินฮยอนนิวอีสต์อย่างเต็มที่อีกครั้ง ไม่ให้แพ้มินฮยอนวอนนาวันเลย

                    หลังการแสดงทั้งงานจบพวกเราก็โดนเรียกขึ้นเวทีอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมไม่ได้ยืนในตำแหน่งเหมือนเมื่อตอนเย็นแล้ว ผมถูกห่างออกไปอีกแต่ก็มองเห็นเมมเบอร์ของผมได้ หวังว่าหลังเวทีจะได้เจอกันนะ


                    “พี่ดงโฮฮฮ และพวกเราก็มาเจอกันหลังเวทีจริงๆ ถึงพี่เมเนเจอร์จะบอกว่าต้องรีบกลับแล้วแต่พี่จีซองกับพี่ซองอุนก็ขอให้พวกเรามาจนได้ 

                    เมมเบอร์วอนนาวันทั้ง10คนก็เข้าไปทักทายพี่ๆที่คุ้นเคยกันดี รวมถึงทักทายพี่อารอนด้วย ผมเดินเข้าไปคุยกับพี่อารอนก่อน พร้อมถามถึงเรื่องที่หอว่าอยู่กันยังไง ใครทำอาหารเช้า เสื้อผ้าซักยังไง จนโดนพี่อารอนเอ็ดกลับมาว่า จะห่วงทำไมทำเป็นหน่า ผมก็ยิ้มๆไป

                    เมมเบอร์ที่ทักทายกันอย่างสนิทสนมเริ่มทยอยกลับที่ละคนเพราะพี่เมเนเจอร์เรียกแล้ว พี่จีซองหันมาบอกผมว่าพี่เมเนเจอร์ให้ผมอยู่ต่อได้อีกหน่อย ผมก็เลยมาอยู่ต่อหน้าเมมเบอร์ของผมอีกครั้ง

                    “เราเอ่อ... มากอดกันมั้ย เป็นเสียงพี่อารอนพี่ใหญ่ของพวกเรา คงเป็นเพราะพวกเรายืนนิ่งๆกันมานานแล้ว เราทั้ง5คนเลยกอดคอเข้าหากันด้าน ขวาผมเป็นเร็นส่วนอีกข้าง เป็นดงโฮ

                    “คิดถึงพวกนายจัง ผมยิ้มให้ทุกคนและก็ได้ยิ้มกลับมา แต่ผมสะดุดรอยยิ้มของคนข้างๆมากที่สุด ดงโฮกำลังยิ้มให้ผม มันเป็นยิ้มที่ผมชอบมันที่สุด เขาเป็นคนที่ยิ้มสวยเอามากๆ

                    “คิดถึงเหมือนกัน นี่งานแรกเลยนะที่เจอกัน จงฮยอนพูด

                    “ก็ฉันเตรียมตัวคัมแบคไงเล่า ผมเอื้อมไปต่อยอกจงฮยอนเบาๆ

                    “ได้ที่1ด้วย สุดยอดไปเลย

                    “อื้อ พวกเราตกใจกันมาก ฉันเผลอร้องไห้ออกมาด้วย เลิฟแคปเอาไว้อีก ฮืออ หน้าฉันตลกอะ พี่อารอนทำหน้าเบะเหมือนตอนได้ถ้วยจนพวกเราขำออกมา ก็เพราะเสียงหัวเราะของคนข้างผมอีกที่ทำให้ผมสะดุด เสียงหัวเราะที่อารมณ์ดีที่ใครได้ยินต้องหัวเราะตามเอาง่ายๆ

                    “ฉันก็เอ๋อๆอยู่ เลยพูดขอบคุณไม่ออกเลย เป็นจงฮยอนที่พูดออกมาอย่างเขินๆบ้าง

                    “ส่วนฉันก็เหมือนชัทดาวน์ตัวเองไปแล้ว เร็นพูด

                    “มีแต่ดงโฮนี่แหละมีสติดีสุด แต่ก็เอาแต่ยื่นไมค์ให้ฉัน

                    “ก็ฉันพูดเป็นที่ไหนเล่า ดงโฮเอ็ดจงฮยอนไปเลยสร้างเสียงหัวเราะให้พวกเรา

                    “ร้องไห้ด้วยหนิ ผมมองตาดงโฮแล้วพูดออกไป อ่า... ได้สบตาแล้ว

                    “ก็... ดีใจไง แล้วก็ได้คุยกันแล้ว

                    “ขี้แย ฉันไม่อยู่ก็เป็นแบบนี้แหละ ผมยีผมดงโฮเบาๆ

                    “ไม่ได้ขี้แย พี่อารอนนู้น

                    “อย่าพูดถึงมันพี่ขอออ แล้วทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ถึงจะเป็นเวลาที่ไม่มากแต่เราก็พูดคุยกันด้วยรอยยิ้มเหมือนตอนที่เรายังอยู่5คน ทุกคนหัวเราะและยิ้มให้กัน มันอบอุ่นมากจริงๆนะ






                    “เด็กๆ ต้องไปเปลี่ยนชุดกลับแล้วนะ พี่เมเนเจอร์ของเมมเบอร์มาตาม ทุกคนหันมามองหน้าผม ผมก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ มีงานต่อเหมือนกันสินะ

                    “เอาเป็นว่าเจอกันใหม่นะ จงฮยอนพูดแล้วเดินมากอดผม ตามมาด้วยพี่อารอนและเร็น ผมยิ้มแล้วบอกว่า ถ้าว่างจะแชทไปหานะ

                    “อ้าว ไม่ไปหรอ? ผมหันมาเห็นดงโฮกำลังยืนนิ่งๆอยู่เลยถาม

                    “ยังไม่อยากไปน่ะ ดงโฮเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มบางๆให้ผม
    ทั่วบริเวณนั้นเขาสู่ความเงียบอีกครั้ง ผมอยากกอดนะ แต่กลัวว่ากอดแล้วจะปล่อยไปไม่ได้ ผมคิดถึงดงโฮมากจริงๆ ผมเคยดูแลเขาทุกอย่าง ทำให้ทุกอย่างจนมันติดเป็นนิสัยของผมไปแล้ว

                    “กอดได้มั้ย ผมยื่นทั้งสองแขนออกไปแล้วยิ้ม ดงโฮก็เดินเอื่อยๆเขามาซบไหล่ผม ผมกวาดแขนโอบรอบตัวดงโฮไว้

                    “อ้วนขึ้นหรอ

                    “อยากตายหรือไง ดงโฮพูดเสียงอู้อี้ ทำเอาผมหัวเราะออกมา ดงโฮไม่ได้อ้วนขึ้นหรอกผอมลงด้วยซ้ำ คงเพราะทำงานหนัก

                    “นี่ ไหนบอกจะร้องไห้ไง ไม่ร้องแล้วหรอ

                    “ถ้าร้องแล้วจะปลอบมั้ย

                    “โตแล้ว หยุดร้องเองก็ได้

                    “ถ้านายไม่ปลอบฉันก็จะไม่ร้อง

                    “ก็ดี ดงโฮผละออกมาแล้วทำหน้าตาทะเล้นใส่ ไม่เปลี่ยนเลยนะเรื่องกวนคนอื่นเนี่ย

                    “ห้ามพูดว่าอยากกลับมาอีกนะ...

                    “…”

                    “ยังไงนายก็ต้องกลับมาอยู่แล้วพวกฉันรู้แล้วก็รอนายด้วย

                    “อยู่กับน้องๆให้มีความสุข ทำงานให้เต็มที่แล้วก็รักน้องๆให้มากๆ

                    “มันเป็นโอกาสครั้งเดียวที่จะได้อยู่ด้วยกัน นายทำงานหนักเพื่อมันนะมินฮยอน

                    “เพื่อเป็นวอนนาวัน เพราะงั้นห้ามพูดอีกนะ

                    “เหมือนแม่เลย ผมยีหัวดงโฮอย่างเอ็นดู

                    “นายก็เคยพูดแบบนี้กับฉันเถอะ

                    “นี่เอาคืนหรอ
                    
                    “ใช่ จะทำไม


                    ผมวิ่งไล่ตีดงโฮไปทั่วบริเวณนั้น เรายิ้ม เราหัวเราะไปด้วยกันเหมือนสมัยที่เราเป็นเทรนนี่ ผมคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ไม่ใช่แค่ได้อยู่กับดงโฮ แต่ได้อยู่กับเมมเบอร์ทุกคน


                    “มินฮยอนอ่า น้องๆรอแล้วนะ เสียงพี่เมเนเจอร์เข้ามาบอก ผมพยักหน้า แล้วพี่เขาก็ปิดประตู

                    “...

                    “ไปสิ น้องๆรอนะ

                    ไม่ค่อยอยากไปเลย

                    “หรอ

                    “…”

                    เหมือนกันเลย ดงโฮมอบยิ้มที่สดใสที่สุดให้ผม อ่า... มันทำผมน้ำตาคลอนะเนี่ย

                    “งั้น ถ้าฉันว่างจะแชทไปนะ รอตอบด้วย ผมสวมกอดดงโฮอีกครั้ง ผมกอดแน่นกว่าเดิม ไม่อยากปล่อยไปเลย

                    “เนี่ย ที่ไม่กล้ากอดเพราะแบบนี้ไง ไม่อยากปล่อยแล้ว ผมยอมรับว่าผมเริ่มงอแงแล้ว

                    อืม ก็ไม่ได้ห้าม ไม่อยากให้ปล่อยเหมือนกัน มันทำผมกอดแน่นขึ้นไปอีก ทำไมนะ นานกว่านี้ไม่ได้หรอ

                    “แต่...

                    “นานไปแล้วนะ  หายใจไม่ออก

                    “ข ขอโทษ ผมรีบผละออกมา ดงโฮดูจะชอบใจใบหน้าตื่นๆของผม

                    “งั้นจะไปจริงๆแล้วนะ ผมกุมมืออีกคนไว้ มือนี้ยังนุ่มเหมือนเคยเพราะไม่ได้จับงานบ้านอะไรเลย ทุกอย่างผมเป็นคนทำให้เขา

                    “อื้อ ไปเถอะเดี๋ยวฉันก็ต้องไป ดงโฮยิ้ม

                    “ค่อยเจอกันนะ ผมบีบมือแน่นแล้วก็คลายออก ที่ทำตัวไม่ถูกเพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าทำเหมือนอย่างที่เคยๆกันจะเป็นแบบนี้ ถ้าได้กอดก็ไม่อยากผละออก ถ้าได้จับมือก็ไม่อยากจะปล่อยไป

                    ผมโบกมือลาดงโฮที่ยืมยิ้มให้ เขาก็ดูเศร้าไม่ต่างจากผม แต่ถ้าโชคดีเราอาจจะเจอกันที่งานอื่นอีกก็ได้ จริงๆผมก็ต้องได้กลับไปเจอทุกคนอยู่แล้ว แต่มันก็เหมือนจะนานสำหรับผม แต่ผมต้องรอให้ได้ถึงคุยแชทจะไม่ดีเท่าเห็นหน้ากันก็เถอะ

                    แต่ก็นะ ถึงจะคิดถึงมากแค่ไหนแต่หน้าที่ในวงวอนนาวันตอนนี้ผมก็ต้องทำให้ดี ให้สมกับที่ทุกคนเหนื่อยกันมา ผมจะเป็นมินฮยอนวอนนาวันที่ทำงานหนัก






                    และจะกลับไปเป็นมินฮยอนนิวอีสต์ที่ทำงานให้หนักกว่าเพื่อทุกๆคน





    #SSPDFIC
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in