แต่ภาพที่เห็นด้านบนนี้เป็นเพียงภาพที่เราต้องเร่งทำให้ทันก่อนนำไปใช้กับกลุ่มทดลองค่ะ จึงทำให้ภาพบางภาพยังมีความแปลก ๆ หรือไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ค่อนข้างโอเคแล้วสำหรับเราค่ะ 

หลังจากวาดภาพทั้งหมด เราก็เอาภาพไปทำเป็นเล่ม E-Book เพื่อนำไปใช้ทดลองก่อนค่ะ โดยเด็กที่เราเลือกมาทดลองก็เป็นน้อง ๆ ที่รู้จักนี่แหละค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคริสเตียน โบสถ์ที่เราอยู่ก็เลยมีเด็กค่อยข้างเยอะ ทำให้เราสามารถเอางานเรามาใช้ทดลองกับน้อง ๆ ได้ท ซึ่งผลการทดลองออกมาค่อนข้างดีเลยค่ะ อย่างน้องคนแรกอายุ 3 ขวบที่เราไปทดลอง เราขอเรียกว่า น้อง A นะคะ น้อง A เป็นเด็ก 3 ขวบคนแรกที่เราไปทดลองด้วย จากการทดลองพบว่าน้องมีความสนใจเรื่องแมลงด้วยค่ะ น้องรู้จักแมลงทั่ว ๆ ไป แต่ที่น่าสนใจคือ น้องรู้จักแมลงใบไม้ใาก่อนด้วยค่ะ ทำให้เมื่ออ่านหนังสือของเราแล้วน้องค่อนข้างชอบเลยค่ะ แม้น้องจะยังอ่านด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ก็อาศัยการดูภาพเป็นหลักค่ะ ซึ่งรอบแรกน้องก็ยังไม่เข้าใจ รอบสองเราจึงใช้ของเล่นกล้องมาเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งทำให้น้องมีความสนใจและเข้าใจดรื่องราวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ซึ่งพอดูจบแล้วเราก็ทดลองด้วยการถามคำถามบางอย่างซึ่งทำให้เรารู้ว่าน้องยังไม่เข้าใจภาพบางภาพ ถึงเราจะพยายามอธิบายบังไง น้องก็ยังงค่ะ 55555 นี่จึงทำให้เรารู้ว่า ภาพที่เราวาดเราอาจเข้าใจ แต่เด็กไม่เข้าใจนั่นเองค่ะ เราจึงต้องกลับมาทำการแก้ไขภาพนั้น ๆ เพื่อให้น้อง ๆ สามารถเข้าใจได้นั่นเองค่ะ แต่ก็อย่างที่กล่าวมาว่า หนังสือของเรากลุ่มเป้าหมายคือ 5-7 ปี น้องคนแรกที่ทดลองอาจจะยังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง แต่หลังจากที่พวกเราดูหนังสือภาพกันเสร็จแล้ว เราก็เลยลองชวนน้อง A ไปลองหาแมลงรอบ ๆ กันไหม ซึ่งน้องก็ตอบมาว่าอยากไปหาแมลงด้วยค่ะ พวกเราเลยออกไปหาแมลงข้างนอกกันค่ะ แต่วันนั้นเราก็ไม่เจอแมลงหรอกค่ะ 55555 แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือ การที่น้องได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอก ได้เห็นว่าย้องมีความสุขกับการออกมาสัมผัสธรรมชาติ ได้วิ่งเล่นหิน เล่นทราย มองดูใบไม้ ใบหญ้า วิ่งไล่นก แค่นี้น้องก็สนุกแล้วค่ะ เด็กกับธรรมชาตินี่เชื่อมเข้าถึงกันได้เป็นอย่างดีมากเลยค่ะ เราอยากสนุับสนุนให้ผู้ปกครองพาเด็ก ๆ ออกไปเล่นกับธรรมชาติมากกว่าการเล่นกับมือถือมาก ๆ เลยค่ะ 

ต่อมาเราก็เริ่มมาทดลองกับเด็กกลุ่มเป้าหมายค่ะ ซึ่งผลการทดลองก็คือ น้องสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของเราได้ค่ะ เข้าใจภาพที่น้อง 3  ขวบยังไม่เข้าใจ นั่นเป็นเพราะเด็กที่โตกว่าอาจเริ่มมีประสบการณ์เกี่ยวกับแมลงมากขึ้น ระหว่างเล่าน้องมีการแสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงเรื่องของแมลงในเรื่องกับแมลงที่เคยเห็นหรือสัตว์ที่รู้จัก เช่น แมลงใบไม้ลอกคราบได้เหมือนงูเลย เปลี่ยนสีได้เหมือนกิ้งก่าเลย ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ยังมีการเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับแมลงของตัวเองระหว่างเล่าด้วยค่ะ นี่จึงทำให้เรารู้ว่า เด็ก ๆ ถึงจะมีความเข้าใจที่ต่างกัน แต่เรื่องราวของแมลงก็ยังเป็นเรื่องสนุกที่เด็ก ๆ ชอบนั่นเองค่ะ เมื่อทดลองเสร็จแล้ว เราจึงกลับมานั่งแก้งานของเรา มีการพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อปรึกษาแนวทางการปรับมุมมองของภาพต่าง ๆ ถึงจุดนี้เราก็รอช้าไม่ได้เพราะอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะต้องส่งงานแล้วค่ะ ไฟลุกสุด ๆ 555555 

ซึ่งสุดท้ายและท้ายที่สุดมันก็สำเร็จค่ะ เราสามารถแก้ไขและวาดภาพทั้งหมดได้เสร็จทันเวลา แต่ความสำเร็จนี้ เพื่อนรักอย่างเจ้าแมลงใบไม้ที่เราเลี้ยงก็จากโลกนี้ไปซะแล้วค่ะ แม้ตัวจะจากไปแล้ว แต่ความทรงจำและความผูกพันที่เรามีให้มัน ยังคงอยู่ และมันก็อยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมดแล้วค่ะ 

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ที่ให้ความรู้และข้อแนะนำทุกอย่าง คนที่คอยให้กำลังใจ ทุก ๆ ที่อยู่ในชีวิตเรา เราอยากขอบคุณทุก ๆ คนจริง ๆ ค่ะ ที่ทำให้งานธีสิสของเราบรรลุผล และประสบความสำเร็จได้ค่ะ 

และหากใครที่ติดตรามบล็อคและอ่านมาจนถึงจุดนี้ ถ้าอยากเห็นผลงานตัวจริง เล่มจริง เสียงจริง มาเจอกันได้ที่งานนิทรรศการต้นฉบับวรรณกรรมสำหรับเด็กนิพนธ์ ครั้งที่ 23 "ช้างป๋องรอเล่น" ได้ในวันที่ 1-8 กรกฎาคม 2566 ที่ลานสานฝัน TK Park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล กรุงเทพฯ ได้เลยค่ะ 

แล้วพบกันที่งานนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ^^