……….
ตอนที่ 20 : Deathless City
“โอ้ มืดดีจริงๆ” ริกอุทานขึ้นเมื่อพวกเราเข้าอุโมงค์มา
ตอนนี้พวกเราอยู่ในอุโมงค์ที่ถูกสร้างเอาไว้เป็นทางเข้าไปสู่หุบเขาข้างใน ซึ่งเป็นใจกลางของเกมส์นี้ที่เขาว่ากันมา แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นแค่เมืองๆ นึงที่ปลอดซอมบี้และมีข้าวของขายมากกว่า เอิร์นขับพาเราเข้ามาได้หลายนาทีจนพวกเราเห็นแสงสว่างตรงปลายอุโมงค์
“ถึงซะที” ผมพูดขึ้นเมื่อพวกเราผ่านพ้นอุโมงค์มาเจอกับประตูทางเข้าที่ตั้งสูงตระหง่าน และยังมีกำแพงสูงล้อมรอบข้างในเขาอีกทีหนึ่ง
“อลังเวอร์ !” ริกอุทานเมื่อเห็นภาพข้างหน้า
“มากันกี่คน !” ลุงคนหนึ่งตะโกน ดูเป็นเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ทางเข้าท่าทางจริงจังกับหน้าที่ เพื่อนอีกคนของเขาหนึ่งเดินมาทางพวกเรา
“สี่คนคับ ข้างหลังอีกสอง” เปาที่นั่งข้างคนขับตอบ
“พาหนะต้องจอดชั้นนอกสุดนะ ต่อจากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปเอง” เจ้าหน้าที่อีกคนพูด
“เปิดประตู !” ลุงหันไปทางประตูและตะโกนขึ้นหลังจากมองดูรอบๆ ตัวรถ
เมื่อประตูเปิดขึ้น เอิร์นก็เดินเครื่องขับพาเราเข้าไปยังตัวเมืองด้านใน มีป้ายบอกชื่อเมืองอยู่ข้างประตู เขียนว่า เดสเลส ซิตี้ เอิร์นขับผ่านป้ายมาก่อนจะเลี้ยวซ้ายเมื่อมีพนักงานอีกคนบอกให้เลี้ยวเพื่อไปยังจุดจอดรถ เอิร์นขับพาเราทั้งหมดลงยังชั้นใต้ดินที่ทำเป็นที่จอดพาหนะต่างๆ
ข้างล่างเต็มไปด้วยรถยนต์มากมายจอดวางเข้าระเบียบเหมือนกับห้างฯทั่วไป เอิร์นขับวนอยู่หลายรอบจนต้องลงไปอีกชั้นนึงเพื่อจะได้จอดรถ ซึ่งชั้นนี้มีรถแค่ประปรายเท่านั้น เราจึงเลือกที่จอดได้อย่างสบาย
พวกเราเลือกจอดใกล้กับลิฟต์ที่พาเราขึ้นไปสู่ข้างบน จะได้สะดวกเวลาขึ้นลงไม่ต้องเดินไกลด้วย
“หาที่พักก่อนเลยอย่างแรก นี่ก็จะสามทุ่มแล้วด้วย” ผมบอก
“หาที่พักเสร็จแล้วไปหาไรกินต่อเลยละกัน กูหิวแล้วเนี่ย” เอิร์นพูดขณะกดปุ่มเรียกลิฟต์
ทันทีที่พวกเราก้าวออกมาจากลิฟต์ก็ต้องตะลึงกับร้านค้าต่างๆที่แน่นเอียดตลอดสองข้างทาง และผู้เล่นมากมายที่เดินจับจ่ายซื้อข้าวของที่พวกตนต้องการ
“หาแผนที่ก่อนมั้ย เดี๋ยวจะหลงกันเปล่าๆ” เปาพูดขึ้นซึ่งพวกเราทุกคนต่างเห็นด้วย
“ในไอดีการ์ดน่าจะมีนะ” ริกพูดพลางหยิบไอดีการ์ดขึ้นมา
“นี่ไง ! ข้างหลังเนี่ย ป้ายอันเบอเร่อเลย” ผมพูดเมื่อมองไปรอบๆ และเห็นป้ายแผนที่อยู่ข้างๆลิฟต์ที่เราออกมา
“เอ้า ! ตั้งไว้ยังงี้ใครมันจะเห็นวะ” เอิร์นบ่น
“พวกเรานี่ไง” ผมตอบ
พวกเราทั้งสี่ต่างคนต่างก็มองแผนที่เพื่อจดจำเส้นทางเอาไว้ ซึ่งหลังจากมองแผนผังของเมืองซึ่งออกแบบมาให้เหมือนกับเป้ายิงปืนที่แบ่งเป็นวงจากชั้นนอกเข้าชั้นในและระหว่างชั้นก็เป็นถนนที่มีร้านขายของเต็มไปหมด
โดยชั้นในสุดซึ่งก็คือชั้นที่แต้มเยอะสุดดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางที่เอาไว้ช่วยเหลือผู้เล่นผมคิดว่ามันคงเอาไว้สอบถามการเล่นเบื้องต้นหรืออะไรทำนองนั้น โดยทั้งทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก จะเป็นประตูใหญ่ที่เราเข้ามาตอนแรก และเป็นถนนยาวที่ทะลุมาถึงชั้นในได้เลยโดยไม่ต้องผ่านตรอกซอกซอยยิบย่อยแต่ละชั้นอีก ทั้งยังมีรถรางบริการอีกด้วย ซึ่งคิดดูดีๆแล้วมันใหญ่มาก หรือว่ามันเป็นศูนย์กลางจริงๆผมคิดในใจ
“หยั่งกะเป้ายิงปืน แน่ะ 1 .. 2 ..3.. ” ริกพูดขึ้นพลางนับเลข
“10 ชั้น กูนับและ 10 แต้มพอดีแต้มใหญ่สุดคือศูนย์กลางของเกมส์นั่นแหละ” เปาพูดขึ้นเมื่อเห็นริกพยายามจะนับชั้น
“รู้สึกรอบนอกจะเป็นที่พักนะ เข้าไปเรื่อยๆ ก็ไล่เป็นพวกร้านอาหาร ขายของจิปาถะก่อนจะเข้าในสุดที่ขายพวกปืนและจุดบริการผู้เล่น” เอิร์นอธิบาย
“งั้นเราไปหาที่พักกันก่อนเลยละกันจะได้ไปกินข้าว” เปาพูดพลางหันไปมองบรรยากาศที่คนเดินกันขวักไขว่เต็มถนน
“ตอนนี้เราอยู่ชั้น 1 กูขอเรียกนอกสุดว่า 1 ตามแต้มเป้ายิงปืนเลยละกันง่ายดี” ผมพูด
“งั้นก็ไปกันเถอะ เกะกะทางคนเขาจะออกลิฟต์ เราก็เดินหาไปเรื่อยๆ เนี่ยแหละ ไม่ต้องรีบหรอก” เปาพูดพลางเดินนำหน้าไป
พวกเราสี่คนเดินหาที่พักไปเรื่อยๆมีทั้งแบบหรูหราห้าดาวกับแทบจะไม่มีดาวก็มี ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ถนน 2 แล้ว เพราะดูเหมือนรอบนอกสภาพที่พักมันแย่ไปหน่อย แต่สภาพก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเลขที่มากขึ้น ซึ่งผมคิดว่าเมืองนี้คงไล่ระดับแย่สุดไว้นอกซึ่งกว้างกว่าและแคบลงเรื่อยๆตามของที่มีระดับขึ้นมา
“เอานี่แหละ กูขี้เกียจเดินแล้ว” เอิร์นพูดขึ้นเมื่อเราเดินมาจนถึงถนน 4
พวกเรามาหยุดหน้าโรงแรมราวๆสามดาว ซึ่งราคาต่อคืนไม่แพงมากนัก อีกทั้งที่นี่ยังพิเศษตรงที่ห้องนึงมีถึง 8เตียง แต่พวกเราก็ตัดสินใจเลือกห้อง 4เตียง พวกเราเดินตามพนักงานโรงแรมไปยังห้องซึ่งอยู่ชั้น2
สภาพห้องไม่ใหญ่มาก มีเตียงฝั่งละสอง มีโต๊ะไม้เล็กๆ ตรงหัวมุมแต่ละเตียง เหนือเตียงทุกเตียงมีรูปวิวธรรมชาติแขวนประดับไว้ มีประตูกระจกที่ออกไปมองสภาพถนนข้างล่างได้
“ว่าแต่จะอยู่นี่นานมั้ย” เอิร์นถามขึ้นขณะที่พวกเราต่างก็เก็บสัมภาระต่างๆ ซึ่งมีแค่ 2ตู้เท่านั้นในห้องนี้ แต่พวกเราก็มีแค่เป้เท่านั้นแหละ ผมเลยยัดไว้ในตู้เดียวกับริกมัน
“พรุ่งนี้ก็ไปเดินเล่นหาซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมแล้วก็ออกเดินทางเลยดีมะ” ผมถาม
“เอางั้นก็ได้ ไม่อยากจะหมดไปกับค่าที่พักเท่าไหร่ด้วย” ริกเสริม
“งั้นลงไปหาอะไรกินกันดีกว่าปะ” เอิร์นพูดขึ้น
“แต่มันอยู่ตั้งถนน 5 ขึ้นไปเลยนะ มึงเหนื่อยแล้วไม่ใช่หรอ” เปาถาม
“เรื่องกินกูไม่เหนื่อยอยู่แล้ว” เอิร์นพูดพร้อมกับลุกขึ้น
“งั้นก็ปะ แถวๆ นี้มันก็พอมีร้านอาหารอยู่หน่อยแหละ แต่ถ้าอยากได้ดีๆ คงต้องเดินอีกหน่อย”ผมพูด
พวกเราล็อคห้องและออกเดินสู่ถนนที่ตอนนี้ผู้คนเริ่มน้อยลงไปบ้างเพราะนี่มันก็ปาไปเกือบจะ 5 ทุ่มแล้วเราทั้งสี่เดินมาอีกแค่ถนนเดียวก็เจอกับร้านอาหารมากมายปะปนไปกับร้านค้ายิบย่อยต่างๆเช่น ร้านขายยา ร้านมินิมาร์ท ถนนเส้นนี้คนค่อนข้างเยอะทีเดียวสงสัยจะออกมาหาอะไรกินตอนดึกๆ เหมือนกัน
เราเดินสวนกับผู้คนไปมาจนมาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งฟาสฟู้ดซึ่งเอิร์นเนี่ยแหละเป็นคนเลือกเอง เพราะส่วนใหญ่คนมักจะไปกินพวกอาหารจีน เกาหลี ไทย แต่ที่มันเลือกคงเพราะว่าคนมันไม่เยอะด้วยล่ะมั้งผมเดา
“แล้วจุดหมายต่อไปเราจะไปที่ไหนล่ะ” เอิร์นถามขณะกัดแฮมเบอร์เกอร์คำโต
“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมตอบพลางสูดเส้นสปาเก็ตตี้
“เราตะลุยไปที่ที่เค้าว่าโหดๆ กันมะ” ริกแนะนำ ในปากเต็มไปด้วยไก่ทอด
“ที่ผ่านมาก็ใช่ว่ามึงจะรอดนะริก” เปาพูดไปดูดน้ำอัดลมในแก้วไป
“อันที่จริงกูก็พอตัวอยู่นะเว่ย” ริกพูด
หลังจากที่พวกเรากินกันเสร็จสรรพก็พากันก้าวย่างกลับสู่ที่พักที่จองเอาไว้ เราออกมาก็หลังเที่ยงคืนแต่ก็ยังมีคนเดินกันอยู่บ้าง เราเดินทะลุตรอกเล็กๆ มายังถนน 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม เมื่อทุกคนเข้าห้องต่างก็ผลัดกันไปอาบน้ำให้สบายตัวหลังจากผ่านอะไรมามากมาย
“สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปหาเสื้อผ้าก่อนเลยล่ะมั้งเนี่ย” ริกพูดพลางมองเสื้อที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและรอยขาดจากการต่อสู้มาทั้งวัน
“แนะนำนะให้ซื้อเสื้อธรรมดาๆ พอ เดี๋ยวจะไม่มีตังไปซื้อกระสุนกับอาวุธจำเป็น”เปาแนะนำ
“แต่ใส่แบบนี้ก็เท่ห์ไปอีกแบบนะ ไม่มีคนกล้าเข้ามายุ่งเลย” ผมพูด
“ก็ดูชุดพวกเรากับคนอื่นสิ เรานี่หยั่งกับฆาตกรเพิ่งฆ่าคนมางั้นแหละใครมันจะกล้าเข้ามายุ่งวะ” ริกพูด
“เอ้า ! ใครจะอาบต่อ” เอิร์นเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมกับตะโกนบอกกับทุกคน
“กูขอก่อนๆ !” ริกพูดก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวและพุ่งออกจากเตียงไป พวกเราทุกคนคุยเล่นสัพเพเหระเรื่อยเปื่อยตลอดทั้งคืนทั้งเรื่องจะไปไหนต่อ พรุ่งนี้จะซื้ออะไร พรุ่งนี้กินอะไรเป็นข้าวเช้าดี และอีกมากมายหลายเรื่อง จนทุกคนต่างก็ทยอยหลับไปด้วยความอ่อนล้าและเพลียมาทั้งวัน
‘เฮ้อ ~ เกมส์นี้มันช่างเหมือนจริงซะเหลือเกิ๊นนน’ ผมคิดในใจก่อนหลับเปลือกตาอันหนักอึ้งลง หมดไปอีกวันแล้วสินะ
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in