……….
ตอนที่ 16 : เริ่มต้นใหม่สินะ
“ทำไมตอนแรกกูยังเห็นพวกทางด่วน ทางยกระดับ ไหงตอนนี้รอบตัวมีแต่ดินแห้งๆกับต้นไม้ใกล้ตายวะ” ริกพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสภาพรอบตัวเปลี่ยนไปเยอะหลังจากที่ระหว่างทางพวกเราต่างหลับกันทั้งคู่ พวกเรานั่งพิงห้องคนขับ หันหน้าไปยังฝาปิดหลังของรถบรรทุก
“นั่นสิ นี่มันจะไปไหนของมันวะ” ผมพูดบ้าง
ผมเคาะกระจกที่อยู่ข้างหลังผมเพื่อเรียกพวกมัน เอิร์นหันมามองผมขณะเอื้อมมือไปหมุนกระจกข้างลงแล้วตะโกนว่า “อะไร” ผมได้ยินมันตะโกนมาตามลม
“นี่เรากำลังจะไปไหนมึงรู้มั้ย” ผมตะโกนต้านลมเพื่อถาม
“กำลังไปเมืองข้างหน้าอยู่ ลองดูในแผนที่เซ่ !” เอิร์นตะโกนบอก
“เออๆ” ผมหันตัวกลับมาพิงหลังห้องคนขับเหมือนเดิมก่อนหยิบไอดีการ์ดจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูแผนที่ที่เอิร์นบอก
“มันกำลังไปไหน” ริกถามพลางมองมาตามมือผม
“มันบอกว่าจะไปเมืองข้างหน้า ให้มาดูแผนที่เอาเอง” ผมพูดก่อนเลือกเมนูแผนที่
ในหน้าต่างแผนที่มีเส้นทางหลายสายทีเดียวที่โยงไปยังเมืองที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ริกพูดว่ามันต้องเป็นเมืองที่ใหญ่มากแน่ๆ ไม่งั้นไม่มีถนนหลายสายมุ่งมานี่หรอกซึ่งตอนนี้เรายังเดินทางไม่ถึงครึ่งของทางเลยด้วยซ้ำ
ผมหยิบน้ำขึ้นมาดื่มแก้คอแห้งก่อนมองไปรอบๆ ในสถานที่แห้งแล้งที่มีแต่ต้นไม้แห้งๆ โขดหินใหญ่หลายลูกและยังมีภูเขาขนาดย่อมประปรายตลอดทาง ลมที่พัดผ่านผมกับริกก็เป็นลมอุ่นๆพัดเอาผมและเสื้อปลิวจนเกิดเสียงกระทบไปมา
“สงสัยต้องหาเสื้อตัวใหม่ซะแล้วสิ เลอะหมดและ” ผมพูดเมื่อมองเสื้อตัวเองที่มีทั้งรอยเลือดรอยเลอะคราบมากมายที่ผ่านๆ มา
“มันก็ต้องเลอะอยู่แล้วล่ะน่า เกมส์แบบนี้” ริกว่า
“นั่นสินะ”
“ว่าแต่ถ้าทางมันยังอีกไกลนะเนี่ย กูจะนอนอีกซักรอบแล้วนา” ริกพูดก่อนจะเอื้อมไปหยิบเป้มาหนุนนอน ขนาดของกระบะหลังรถนี่ก็พอดีกับขนาดตัวผมสองคนเมื่อนอนเหยียดตัวพอดี
“สงสัยต้องนอนมั่งซะล่ะมั้ง” ผมเตรียมจัดที่รอบๆ ตัว ก่อนหยิบเป้มาใช้หนุนหัวเหมือนมัน
เอี๊ยด ~ ! กึง
“โอ๊ย ! หัวกู อยู่ดีๆ มันเบรกทำไมวะ” ริกพูดพลางเอามือลูบหัว
“เจอไรรึเปล่า” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นมองทะลุกระจกไปยังหน้ารถเพื่อจะได้เห็นว่าสองคนนั้นมันหยุดทำไม ก่อนที่สายตาผมจะไปหยุดอยู่ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งข้างหน้าห่างจากเราเกือบครึ่งกิโลได้ และนั่นไม่ใช่ผู้เล่นอย่างแน่นอน
“ได้เรื่องอีกแล้วไง” ผมบอกริก สายตายังคงจ้องไปที่เจ้าพวกนั้น
“เกิดไรขึ้น” ริกลุกขึ้นมาชะโงกตัวออกไปดูข้างรถ ผมเห็นเอิร์นหมุนกระจกรถลงอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เตรียมอาวุธให้พร้อมไว้” เอิร์นพูด ก่อนหยิบปืนสั้นขึ้นมาถือไว้ ส่วนเปาก็แค่ขยับเป้มาวางไว้บนตักเฉยๆ ก่อนจะหันไปสนใจเจ้าซอมบี้ข้างหน้าเหมือนเดิม
“คิดว่าเท่นักรึไงวะ ยืนขวางถนนเนี่ย” ริกพูดติดตลกแต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันไม่ได้ตลกเหมือนที่มันพูดออกมาแน่ๆ
ผมกับริกต่างเตรียมตัวให้พร้อมอีกครั้ง ผมยัดปืนสั้นลงไปเหน็บไว้ที่ขา ก่อนจะเหน็บมีดที่พวกเรากลับไปเอา ทั้งกระสุนทั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาเพียบ ผมเหน็บมีดไว้ที่หน้าแข้งก่อนสะพายปืน HK416ไว้กับตัว พร้อมกับสะพายเป้ ส่วนริกก็กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมตัวเหมือนกันคราวนี้พวกเราจัดเต็มทั้งกระสุนที่แน่นกระเป๋า ไหนจะระเบิดอีก ซึ่งหลังจากที่กลับไปยังร้านขายปืน ผมกับริกก็ใช้เงินซึ่งได้เพิ่มมามากอยู่เหมือนกันจากการฆ่าเจ้ายักษ์นั่นเอาไปซื้อเกราะกันกระสุนมาใส่ซึ่งก็ไม่ใช่ระดับดีอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้อุ่นใจขึ้นเยอะ
ผมสะพายสไนไม้ไว้ข้างหลัง วางเป้ไว้ตรงกลางติดกับห้องคนขับ เผื่อว่าถ้ามีการปะทะขึ้นมาพวกมันจะฉกเอากระเป๋าเป้ไปซะก่อน
“กูจะแล่นรถไปเรื่อยๆ นะ ดูท่าทีมันก่อนถ้ามันเฉยๆ เราจะค่อยๆ ผ่านมันไป แต่ถ้ามันวิ่งตามพวกมึงก็ช่วยๆกันไปละกัน” เปาลดกระจกมาพูดก่อนจะรีบหมุนกระจกขึ้นทันที
“นั่นไง กูเห็นอนาคตกูลางๆ แล้วไง” ริกพูด
“มันจะไปยากอะไรวะ กะอีแค่ซอมบี้ธรรมดาๆ กลุ่มเดียว เป็น 10 มึงยังจัดการมาแล้วไม่ใช่หรอริก” ผมพูด
“อันนี้มันไม่ใช่ระดับเบื้องต้นนะเว่ย” ริกตอบ
กึง ! เปาหันมาเคาะกระจกเป็นสัญญาณว่ามันจะไปต่อแล้ว ผมพยักหน้าตอบก่อนจะหันไปมองริกที่ตอนนี้ยืนขึ้นเพื่อจะได้มองเห็นกลุ่มซอมบี้ข้างหน้าได้ชัดๆ
“มึงมายืนอยู่ตรงนี้นี่ !” ริกตะโกนโต้ลมบอกผมให้ลุกขึ้นมายืนหลังห้องคนขับ
“จะยืนทำไมวะ”
“มึงจะนั่งสู้กับมันรึไง” ริกถาม
“ไม่รู้สิ มันอาจไม่ทำไรเราก็ได้” ผมตอบ
“เตรียมตัวไว้ดีกว่าน่า แต่กูว่าเราคิดผิดอยู่อย่างที่ไม่ยอมเอาอาวุธระยะใกล้มาใช้บ้าง เอามาแต่ปืนกับลูกกระสุน แล้วไอ้ระเบิดเนี่ย ถ้าหมดขึ้นมานี่จบเลย” ริกว่า
“เออแฮะ ลืมคิดไปเลยว่ะ แต่อย่างน้อยกูยังมีไฟฉายไว้ฟาดหน้ามันนะ”
“ตลกตายล่ะ” ริกพูด
ตอนนี้เปาค่อยๆ ขับรถแล่นแบบเอื่อยๆไปยังกลุ่มซอมบี้ที่อยู่เบื้องหน้าเรา ซึ่งตอนนี้อยู่ห่างไปไม่ถึง500 เมตรแล้ว ยิ่งเข้าใกล้ผมก็เริ่มเห็นว่าจำนวนพวกมันเยอะมากเหมือนกันแค่บนถนนก็เกือบ 20 ตัวแล้ว ไม่รู้มันมารวมตัวกันทำไมตรงนี้เหมือนกันแต่ว่าตามพื้นดินที่แห้งแล้งก็ยังมีไอ้เจ้าซอมบี้อีกประปราย คะเนคร่าวๆ มากกว่า 30 แน่ๆ
“เยอะไปนะบางที” ริกพูดขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้พวกมันเรื่อยๆ
“มันเริ่มหันมาทางเราแล้วไง” ผมพูดเมื่อเห็นอากัปกิริยาของพวกซอมบี้ที่หันมาทางเสียงรถยนต์ที่เปากำลังขับ
“กูว่าบอกให้มันเร่งออกไปเลยดีกว่ามั้ย” ริกแนะนำ
“จะบ้ารึไง ถ้ามันแห่ตามล่ะเป็นเรื่องแน่” ผมไม่เห็นด้วย
ตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากซอมบี้ตัวแรกที่ยืนอยู่บนถนนแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้น พอพวกมันเห็นก็เริ่มส่งเสียงร้องเบาๆ บางตัวก็หันมามอง บางตัวทำท่าเหมือนจะวิ่งเข้ามาหา
เปาค่อยๆ เลี้ยวหลบซอมบี้บางตัวที่ขวางทางตอนนี้เรียกได้ว่าเรากำลังเข้าสู่ใจกลางซอมบี้แล้วก็ได้ ถ้าเปรียบเป็นวงกลมล่ะก็ตอนนี้เราอยู่แค่ผิวนอกเท่านั้น
“ไอ้พวกนี้ไม่เหมือนซอมบี้ก่อนหน้านี้” อยู่ดีๆ ริกก็พูดขึ้นหลังจากเงียบมาสักพัก ตอนนี้มันคงเริ่มทำใจได้บ้างแล้วที่ต้องเข้าสู่ดงซอมบี้
“มึงรู้ได้ไง” ผมกระซิบถาม
“ไม่รู้สิ แต่มันไม่เหมือนแน่นอน” ริกกระซิบตอบ
เอี๊ยด ~ กึง
เสียงกระแทกของปืนกลที่ทั้งผมและริกถือดังขึ้นเมื่ออยู่ดีๆรถก็เบรกกะทันหัน เสียงล้อเบรคและเสียงปืนกระแทกเข้ากับตัวรถดังพอที่จะทำให้ซอมบี้รอบข้างแตกตื่นและหันมาทางต้นเสียงได้พร้อมๆกัน
“มันหยุดทำไมวะ” ผมกระซิบถามริก
“จะไปรู้มั้ยเล่า รู้แต่ตอนนี้พวกมันเริ่มมาหาเราแล้ว” ผมมองรอบข้างทันทีเมื่อริกพูดเหล่าซอมบี้เริ่มเดินเข้ามาที่รถแล้ว
ผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่เหมือนจะพยายามที่จะติดอีกครั้ง ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่ารถมีปัญหาซะแล้วบวกกับท่าทางของเปาที่ลุกลี้ลุกลนกับแทบทุกชิ่นส่วนที่มันจะทำให้รถไปต่อได้
“ปัญหาคือทำไมต้องมาเจ๊งตรงนี้ไง” ผมพูดขึ้น
“ฮะ ! รถเจ๊ง มึงล้อกูเล่นสินะ” ริกถามพลางทำท่าจะยิงซอมบี้ที่เริ่มทยอยเข้ามาใกล้รถเรื่อยๆ
“ก็อยากจะโกหกอยู่หรอกนะ”
เอิร์นที่กำลังเถียงกับเปาอยู่ประมาณว่าควรทำไงดี แต่จากกระจกหลังของตัวรถผมเห็นซอมบี้ตัวหนึ่งเดินเข้าใกล้ประตูฝั่งเอิร์น และที่สำคัญที่สุดคือมันไม่ได้ปิดกระจกด้วย ริกมองมาที่ผมเหมือนต้องการถามว่าจะเอาไงดีวะซึ่งทางเลือกของผมย่อมไม่ใช่การยิงเจ้านั่นแน่นอนถึงแม้มันจะอยู่ใกล้ผมมากก็เถอะ ผมเลือกที่จะเคาะกระจกแทน
ผมเคาะกระจกได้สักสองสามทีมันทั้งคู่ก็หันมามองผมแต่ทันทีที่หันมา เปาซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเอิร์น เมื่อเห็นซอมบี้ที่เงื้อมมือเข้ามาในรถก็รีบชักปืนสั้นออกมายิงทันทีจนเกิดเสียงดังลั่นในรถและซอมบี้ตัวนั้นก็กระเด็นออกไป
“มันบ้าไปแล้ว” ริกตะโกนขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เปาทำลงไปก่อนจะเตรียมรับมือทันทีกับซอมบี้ที่ตอนนี้วิ่งกรูกันเข้ามาหาพวกเราแล้ว
“กูขอโทษ มันจำเป็น” ผมได้ยินเปาตะโกนออกมาจากในรถ
“มึงทำอะไรลงไปรู้มั้ยฮะ!” เอิร์นถาม
“ช่วยมึงไง” เปาตอบ
“เออ ! ขอบใจ”
“โอ้ย ! มึงเอาเวลามาช่วยกันหาทางออกจากตรงนี้ก่อนมั้ย!” ผมตะโกนถามก่อนจะถีบซอมบี้ที่เริ่มปีนขึ้นรถ
ตอนนี้ริกกราดกระสุนปืนยิงซอมบี้ที่มาด้านขวาของตัวรถหรือฝั่งคนขับ ส่วนผมคอยคุ้มกันรถจากทางด้านซ้าย
“ติดเซ่ ! ๆ ๆ” เปาตะโกนขณะก้มลงไปใต้พวงมาลัยรถเพื่อพยามยามติดเครื่องโดยมีเอิร์นคอยคุ้มกันทางหน้าต่างให้
“เหวอ !” ริกร้องตกใจ เมื่อซอมบี้แทบจะปีนขึ้นมาทุกส่วนของกระบะหลังอยู่แล้ว
“เร็วหน่อยเด้ !” ผมตะโกนพลางฟาดปืนใส่ซอมบี้ที่กำลังปีนขึ้นมา
“พยายามอยู่ๆ” เปาตะโกนตอบ
“จะเอาเวลาไหนเปลี่ยนกระสุนวะเนี่ย” ริกพูดพลางฟาดซอมบี้ด้วยสันปืน
“ทำไมมันอึดจังวะ !” ผมรู้สึกหงุดหงิดนิดๆเมื่อฟาดเท่าไหร่มันก็ยังไม่ตายสักที
“ก็มันไม่เหมือนพวกแรกที่เราเจอไง” ริกพูด โยนปืนกลไว้ข้างตัวแล้วงัดเอามีดมาใช้แทน
“เราคงต้านไม่ได้นานหรอกยังงี้” ผมตะโกนบอก
“นั่นสิ ฮึ้บ !”
“มึงจะปีนขึ้นไปบนหลังคาทำไมวะ ” ผมตะโกนเมื่อเห็นมันปีนขึ้นไปบนหลังคาพร้อมทั้งกระเป๋าและปืนของมัน
“ยิงคุ้มกันให้ไง” มันตอบ
“แหม ไม่ค่อยเลยนะมึงเนี่ย” ผมชักมีดออกมาปาดคอซอมบี้เงอะงะตัวหนึ่งที่วิ่งขึ้นมาข้างบน เลือดแดงสดพลันไหลทะลักออกมาทันที สภาพตอนนี้เหมือนลานละเลงเลือดมากๆผมทั้งปาดทั้งแทง แต่พวกมันแทบจะไม่เป็นอะไรเลยนอกจากเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาทุกครั้งที่ผมแทงหรือฟันพวกมัน
ริกเริ่มสาดกระสุนใส่พวกซอมบี้ที่ปีนป่ายขึ้นมาบนรถอีกครั้ง นั่นช่วยผมได้เยอะทีเดียว
“เออ ขึ้นไปตั้งนานกว่าจะยิงนะมึง” ผมว่า
“คนมันลน ทำไงได้วะ” ริกตอบกลับ
เพล้ง ! ผมได้ยินเสียงกระจกแตกก่อนจะเห็นว่าฝั่งเอิร์นซอมบี้กรูกันเยอะมาก
“ไอริกทางนู้นก่อนเลย !” ผมตะโกนออกไปพลางเอี้ยวตัวหลบจนเกือบล้มไปกองกับพื้น ผมทิ้งมีดก่อนรีบคว้าเอาปืนสั้นที่แนบอยู่ที่ขาขึ้นมายิงเข้าที่หัวซอมบี้ตัวที่พยายามจัดการผม จนเซล้มลงไป ‘อย่างน้อยจุดอ่อนก็หัวล่ะวะ’ ผมคิด
เสียงเครื่องยนต์ทำงานขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงตะโกนร้องด้วยความดีใจของเปาที่ต้องคอยหาทางแก้พลางจัดการซอมบี้ที่คอยรังควานดังขึ้น
“ลงมาเร็วเข้า !” ผมบอกริก
“อย่าเพิ่งนะเว่ยๆ !” ริกรีบโยนข้าวของลงมาข้างล่างก่อนจะกระโดดลงมายังกระบะข้างหลัง ผมยิงซอมบี้อีกตัวกระเด็นลงจากรถไป ก่อนจะหันไปถีบไอตัวข้างๆที่พยายามปีนขึ้นมาอีก
“ไปได้แล้ว !” ริกตะโกน
“เออๆ รู้แล้ว !” เปาตะโกนตอบ
รถเริ่มเคลื่อนตัวออกอีกครั้งแต่คราวนี้เปาเร่งเครื่องให้เร็วกว่าเดิมอีก และชนเข้าอย่างจังกับซอมบี้ไปสองสามตัวข้างหน้าจนกระเด็นออกข้างของตัวรถ
“ทำไมมันวิ่งเร็วจังวะ !” ผมตกใจกับภาพที่เห็นเมื่อซอมบี้มันยังคงวิ่งไล่และยังปีนขึ้นมาได้อีก
“นั่นดิ” ริกพูดพลางเอาปืนฟาดมันจนล้มลงกลิ้งกับพื้นก่อนที่พวกเราจะสามารถตีฝ่าออกมาจากพวกมันได้ แต่พวกมันยังคงวิ่งตามมาไม่หยุด
“มันจะไม่ยอมเลิกราจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย” ริกนั่งลงพิงกับตัวรถพลางมองไปยังเจ้าซอมบี้ที่วิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ
“มันไม่บ้าวิ่งตามมาตลอดหรอก” ผมยกร่างซอมบี้ทิ้งลงจากรถ ปล่อยร่างนั้นกลิ้งไปตามพื้นถนนที่ร้อนระอุพลางนั่งมองกลุ่มซอมบี้ที่ตอนนี้ตามเรามาได้เกือบนาทีแล้ว มันทำให้ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่ารถเราช้าหรือมันวิ่งเร็วกันแน่
“เอาไงดีวะเอิร์น” เปาถามขึ้น
“อะไรอีกล่ะ” เอิร์นถาม
“น้ำมันจะหมดแล้วว่ะ”
“มึงเอาอีกแล้วใช่มะ” เอิร์นว่า
“น้ำมันหมดนี่มันความผิดกูสินะ !” เปาถามพลางลดความเร็วลงเพราะกลัวจะกินน้ำมันมากไป
“แล้วเอาไงล่ะ ในแผนที่มันมีปั้มน้ำมันห่างออกไปประมาณ...อ้า นั่นไงเห็นรางๆ และ” เอิร์นชี้ไปยังจุดดำๆ หลังจากมองด้วยกล้องส่องทางไกลข้างหน้าห่างจากเราไปหลายกิโลเมตรอยู่เหมือนกัน
“หวังว่ามันจะพาเราไปถึงที่นั่นได้นะ” เปาพูดพร้อมกับมองกระจกหลังไปยังเจ้าซอมบี้ที่ไม่รู้เอาแรงจากไหนวิ่งตามมาเกือบ5 นาทีได้แล้ว
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in