เกือบร้องไห้ไปแล้วไหมล่ะ นี่ถ้ามันขยี้อีกสักนิดน้ำตาท่วมแน่ๆเลย ฮือ ถึงกับแอบคิดเล่นๆว่าถ้าตัวเองได้ดู Toy Story 3 ในโรงมันจะเป็นยังไง เพราะตอนนั้นที่ดูที่บ้านยังร้องจนตาบวมเลย

จริงๆตอนที่เห็นข่าวว่าจะสร้างนี่ค้านหัวชนฝาเลย คือภาคสามมันปิดท้ายได้สมบูรณ์แบบมากๆ (น่าจะเป็นไตรภาคที่จบแบบ complete สุดๆอีกหนึ่งเรื่องของโลกภาพยนตร์เลยแหละผมว่า) กลัวว่าถ้าสร้างต่อมันจะทำให้ภาคก่อนหน้าเสียสมดุล แต่ก็เข้าใจว่าชื่อ Toy Story มันยังขายได้อยู่ ไม่แปลกที่ดิสนีย์กับพิกซาร์จะเข็นเอาภาคนี้ออกมาจนได้

กับภาคนี้ก็เล่าเรื่อง 2 ปีหลังภาคสามที่เหล่าของเล่นได้ถูกเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม แอนดี้ มาเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา บอนนี่ แล้ววันนึงบอนนี่ได้สร้างของเล่นใหม่ขึ้นมา ฟอร์คกี้ จนกระทั่งเจ้าฟอร์คกี้นี่หนีหายไป วู้ดดี้และพรรคพวกจึงต้องร่วมมือกันออกตามหาของเล่นแสนรักของบอนนี่กลับมาให้ได้

ภาคนี้ได้มือใหม่อย่าง Josh Cooley มากำกับ (แต่ที่จริงแกก็ทำงานในพิกซาร์มานานแล้วแหละ เพิ่งได้ขึ้นแท่นผู้กำกับครั้งแรก) ซึ่งว่ากันตรงๆก็ยังเทียบ John Lasseter (สองภาคแรก) หรือ Lee Unkrich (ภาคสาม) ไม่ได้ ฝีมือยังไม่เนี้ยบเท่าไร แต่มันก็ยังนับว่าเป็นแอนิเมชั่นที่คุณภาพสูงตามมาตรฐานของพิกซาร์ คือดูสนุก มีอารมณ์ขัน มีการผจญภัย แฝงข้อคิดในเรื่องต่างๆ อย่างใน Toy Story นี้ก็จะเป็นเรื่องของมิตรภาพ โดยภาคนี้ก็ยังมีประเด็นนี้แบบครบถ้วน ทำได้ซึ้งอีกต่างหาก แต่อย่างที่ผมกล่าวไป มันขยี้ไม่สุดเท่าที่ควรอะ

ส่วนที่ว่าเทียบภาคก่อนๆได้มั้ย ผมว่าไม่ได้ ภาคนี้อ่อนที่สุดในทุกภาค (แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงมากเมื่อเทียบกับแอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆสมัยนี้) แต่ก็นั่นแหละ มันก็ยังเป็นงานคราฟต์ขั้นสูงอยู่ดี มันก็ยังตอบโจทย์คนที่ชอบความบันเทิงมากๆเหมือนทุกภาค

ตัวละครเดิมๆก็กลับมากันครบ แต่ภาคนี้เด่นไปที่วู้ดดี้คนเดียวเลย นอกจากนี้ก็มีตัวละครใหม่ๆที่มาสร้างสีสันให้กับหนัง ตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษเลยคือ ดั๊กกี้ กับ บันนี่ ที่พากย์โดยดาราตลก Jordan Peele กับ Keegan-Michael Key แย่งซีนมาก ออกมาไม่เยอะแต่ฮาแบบจัดหนักเต็มเหนี่ยวมาก คือเปลี่ยนโทนจากหนังซึ้งๆไปเป็นตลกคาเฟ่ได้เนียนมาก

โอ้ ประทับใจจริงๆครับ แม้จะยังสู้ภาคสามไม่ได้ แต่มันก็ยังเป็นประสบการณ์ย้อนวัยในโรงหนังที่ชวนให้เรารำลึกถึงวัยเด็กได้อย่างเต็มเปี่ยม ให้เราได้คิดถึงว่าสมัยก่อนตอนที่ยังเด็กนั้นเราก็มีความสุขได้กับอะไรเล็กๆน้อยๆ ใครที่ติดตามมาทุกภาค ภาคนี้ก็ควรดูอย่างยิ่งครับ

จริงๆเกือบน้ำตาไหลตั้งแต่เปิดเรื่องมาแล้วแหละ แต่มันดันเปลี่ยนฉากก่อนซะงั้น ให้ตายเถอะ อยากร้องไห้จริงๆเลยครับ

ปล. : ช่วงนี้เจอพี่ Keanu Reeves บ่อยมาก เรื่องนี้พี่แกก็มาพากย์เป็นตัวละครใหม่ เท่ดีครับ

ปล. 2 : พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะได้ดู Rocketman ครับ

Directed by: Josh Cooley

Screenplay by: Stephany Folsom & Andrew Stanton

Genre: Animation, Adventure, Family

Runtime: 100 mins

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^