เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
don’t smile at medontsmileatmejn
Don't smile at me
  • ความสัมพันธ์ที่ไปต่อไม่ได้ ก็ควรจบๆ กันไปไม่ใช่หรือไง


    แล้วทำไมถึงไม่ยอมทิ้งมันไปให้พ้นสักทีนะ


    ความรู้สึกบ้าๆ นี่น่ะ



    คิม ดงยอง ยืนเท้าเอวมองกล่องกระดาษขนาดกลางที่เพิ่งจะใช้แรงทั้งหมดลากมันออกมาตั้งไว้กลางบ้านพร้อมถอนหายใจ



    ทั้งหมดทั้งมวลในกล่องนี่ก็แค่ของไร้ประโยชน์ที่ได้รับจากคนที่ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่ทิ้งมันไปให้พ้นๆ สักที ในเมื่อมีไว้ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย


    ไม่เลย


    สักนิดเดียว



    มันก็แค่ถึงเวลาที่เขาควรจะจัดการกับมันเสียที ระยะเวลา 2 ปี มันมากเกินพอแล้วกับสิ่งเหล่านี้





    บ้อก!



    แล้วเจ้านี่ล่ะ?



    หันไปมองหน้าเจ้าของเสียงตัวอ้วนสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังนั่งหน้าซื่อส่ายหางดุกดิกไม่รู้เรื่องราวอยู่ข้างๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่


    แล้ว ของขวัญวันเกิด ชิ้นนี้ล่ะ จะให้เขาเอาไปทิ้งที่ไหน



    ดงยองพยายามหาเจ้าของใหม่ให้เจ้าหมาอ้วนหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ทำให้เขารู้สึกว่า เจ้านี่น่ะ เป็นสิ่งเดียวที่ตัดใจปล่อยไปไม่ได้ แต่อีกใจก็ไม่อยากจะมีมันอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากจะเป็นคนใจร้ายหรอกนะ แต่ยิ่งเห็นหน้าเจ้าหมานี่ ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดไปกันใหญ่


    'มองทำไม'

    'บ้อก!'

    'ไม่เล่น ไปไกลๆ เลย'

    'บ้อก!'

    'ดื้อ!'

    'บ้อก!'

    'เถียงหรอ เดี๋ยวนี้เถียงหรอ'

    'บ้อก! บ้อก!'

    'อดข้าวเย็นไปเลย!'


    ดงยองเลิกสนใจเสียงเห่าบ้อกๆ ของเจ้าชิบะอ้วน หันมาคว้าหนังสืออ่านเล่นเล่มเล็กที่ถูกรื้อทิ้งไว้บนพื้นขึ้นมาแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาเบดกลางบ้าน เปิดหนังสือในมือไปเรื่อย หน้าแล้วหน้าเล่าอย่างไร้จุดหมาย ก่อนคิ้วทั้งคู่จะขมวดเข้าหากันพร้อมใบหน้าที่ตึงขึ้น กระแทกปิดหนังสือและโยนมันไปให้พ้นตัวในเวลาต่อมา เสียงหนังสือกระทบขอบประตูดังปังจนเจ้าสัตว์ขนปุยสีน้ำตาลอ่อนข้างๆ สะดุ้งตาม



    'บ้อก! บ้อก!'

    'ยุ่ง!!'


    คนพาลพลิกตัวหันหน้าเข้าหาโซฟา สองแขนกอดหมอนใบใหญ่เอาไว้แน่น จงใจฝังใบหน้าลงไปจนมิดราวกับต้องการหลบหนีทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาและยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำ



    รวมทั้งเสียงหัวเราะคุ้นเคยที่แทรกเข้ามาในห้วงความคิด เสียงนุ่มละมุนหูที่ดงยองชอบมันนักหนา เสียงที่ชอบอ่านหนังสือให้เขาฟัง


    หนังสือเล่มนั้น


    หนังสือที่เต็มไปด้วยเสียงของคนใจร้าย









    'พี่ขอโทษ'



    คือคำพูดที่เจ็บปวดที่สุดที่ดงยองเคยได้ยินมา

    เขาจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ดี เด็กชายอายุ 18 ผู้ไร้เหตุผล ทรุดตัวลงร้องไห้เหมือนเด็กเล็กๆ งอแง และเอาแต่ใจ

    ใครคนนั้นกอดเขาเอาไว้พร้อมลูบหลังปลอบ กอดที่เขาเคยอุ่นใจทุกครั้งที่เคยได้ แต่วันนี้มันกลายเป็นกอดที่ทำร้ายเขาเหลือเกิน


    ดงยองไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เราจะได้เจอกัน ไม่รู้ว่าจะได้ฟังเขาอ่านหนังสือที่เขาชอบให้ฟังอีกไหม เด็กชายอายุ 18 ในตอนนั้นมีแต่ความหวั่นไหวและความขลาดกลัว ดงยองกลัวทุกอย่าง กลัวความคิดถึง กลัวความเหงา ความห่างไกลที่เราต้องเผชิญ ไม่มีอะไรรองรับความสัมพันธ์เหล่านั้นได้เลย




    พี่ยองโฮ สอบติดมหาวิทยาลัยในโซล ขณะเดียวกันก็ได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา



    โซล



    ชื่อนี้เคยได้ยินเพียงผ่านรายการวิทยุ โฆษณา หรือละครทีวีที่คุณยายเขาชอบดู มันไกลเหลือเกินในความคิดเด็กต่างจังหวัดอย่างเขา ดงยองมองไม่เห็นทางที่ความสัมพันธ์ของเราจะเดินต่อได้ แต่พี่ยองโฮกลับบอกว่าตัดสินใจเลือกทุนไปเรียนต่อไกลถึงเมืองนอก



    เขาเลือกบอกกับดงยองในวินาทีสุดท้ายก่อนเราจะบอกลากันหลังจากเดทในวันที่อากาศสดใสที่สุดในรอบปี



    ไม่มีสัญญาณใดๆ บอกให้ดงยองได้พอเตรียมหัวใจ


    ไม่มีเลย







    'ผมอยู่กับความสัมพันธ์ระยะไกลแบบนี้ไม่ได้พี่รู้ใช่ไหม'

    'พี่ขอโทษ'



    พี่ยองโฮก็เอาแต่ขอโทษ แล้วความรู้สึกของดงยองล่ะ ความเสียใจ ความเหงา ความคิดถึงที่ดงยองต้องเผชิญในวันข้างหน้า เขาไม่ได้นึกถึงมันเลยหรือไง



    โคตรใจร้ายเลย





    เราตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ปีครึ่งลงเพียงเพราะความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของดงยอง พี่ยองโฮเองก็เสียใจ เรื่องนั้นดงยองรู้ดี แต่เขาเองก็คงไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะรักษามันต่อไปไหวได้ยังไง


    นั่นคือสิ่งที่ดงยองคิด เราไม่ควรคาดหวังกับทุกความสัมพันธ์ ไม่ควรคาดหวังกับเรื่องของความรู้สึกที่สามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ทุกวินาที ในเมื่อเขาเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย แล้วจะไปคาดหวังอะไรกับคนที่อยู่ไกลกันอีกซีกโลกอย่างนั้นล่ะ




    แล้วพี่ยองโฮก็จากไป พร้อมกับทิ้งเจ้าลูกหมาหน้าตาซื่อบื้อตัวนึงไว้ให้ เขาขอไม่รับสิ่งใดที่เคยให้กันกลับคืน และจะเก็บทุกอย่างที่เคยมีเอาไว้ ส่วนดงยอง เขาขออย่างเดียว จะโกรธกันก็ได้ แต่ขออย่าเกลียดกันแค่นั้นก็พอ



    ไม่ได้เหรอ?



    ดงยองจะเกลียดคนที่ทิ้งตัวเองไปไกลอีกซีกโลกไม่ได้เลยเหรอ



    ถามตัวเองด้วยคำถามนี้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบกลับมาเลยสักครั้ง หรือนั่นมันเป็นเพราะดงยองเองนั่นแหละ 



    เพราะดงยองเองที่ตั้งใจเก็บมันไว้ 



    คำตอบที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากให้รู้
















    1 กุมภาพันธ์ ปี 2019


    สองปีนับจากวันนั้น

    ดงยองยังคงได้รับจดหมายและการ์ดอวยพรวันเกิดจากอเมริกา เนื้อความข้างในคล้ายกันกับปีที่ผ่านมา บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปของเขา การเรียนที่มีทั้งวิชาที่ชอบ สนุก ตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้ วิชาที่น่าเบื่อ บางวิชาก็หนักหนาจนแทบประคองตัวเองไม่ไหว เนื้อความที่ทวงถามถึงความเป็นไปของเจ้าของวันเกิด ทวงถามถึงจดหมายที่อีกฝ่ายคาดหวังให้คนทางนี้ตอบกลับ แต่ดงยองไม่เคยทำมัน


    เป็นคนใจร้าย รู้ตัวดี


    แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกคนยังคงใจดีกับเขาเหมือนครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน


    2 ปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยหรือไง ใครจะไปเชื่อความรู้สึกแบบนั้นกัน ไม่เชื่อหรอก ดงยองคนนึงแหละ ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด




    'บ้อก บ้อก!'



    'บ้อก บ้อก!'



    'บ้อก!'




    เฮ้อออ

    ถอนหายใจทุกครั้งกับเสียงของเจ้าหมาอ้วนตัวเดิม ความคิดที่กำลังกระจัดกระจายของเขาพังลง ดงยองเลื่อนสายตาจากท้องฟ้ายามพลบค่ำที่กำลังเหม่อมองอยู่เมื่อครู่ กลับมามุ่นคิ้วให้กับเจ้าสัตว์หน้าขนที่ดูเหมือนกำลังยิ้มเยาะเขาที่ไม่ยอมเดินหน้าจากเรื่องราวเดิมๆ นั่นเสียที



    เป็นแค่หมา จะมาเข้าใจอะไร




    'บ้อก บ้อก!'


    มุ่นคิ้วดุกลับไปยังเจ้าของเสียงน่ารำคาญอีกรอบ เจ้าหมาอ้วนส่งเสียงต่อเนื่องอย่างผู้ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องความสนใจจากเจ้านาย ถึงแม้จะได้รับสีหน้าไม่พอใจกลับมาเช่นทุกที ร่างกลมๆ ขยับเข้ามาใกล้ แนบแก้มย้วยลงกับแขน พร้อมกับถูไปมาเอาใจสองสามทีก่อนจะถอยออกมาจ้องตอบเจ้านายพร้อมแยกเขี้้ยวใส่ราวกับส่งยิ้ม




    เฮ้ออ


    ดงยองถอนหายใจอีกครั้ง มันเหนื่อยเหมือนกันนะ ที่เอาแต่คิดถึงเรื่องซับซ้อนอยู่แบบนั้น บางทีคนเรามันก็แค่ต้องการใครสักคนที่คอยนั่งข้างๆ ในช่วงเวลาที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสับสนแบบนี้ล่ะ


    'จอห์นนี่ ไอ้หมาอ้วน'

    'บ้อก!'

    'ขี้ประจบจัง ไม่ให้ข้าวเพิ่มหรอกนะ เปลือง'

    'บ้อก บ้อก!'


    เจ้าหมาอ้วนส่งเสียงตอบกลับ ก่อนจะวิ่งวนไล่งับหางตัวเอง 2-3 รอบแล้วหงายหลังตึง ชักดิ้นชักงอเหมือนกำลังตอบข้อความเจ้านายปากร้าย ถ้าหากไม่เพิ่มข้าวให้ หมาอ้วนตัวนี้ต้องหิวจนตายแน่ๆ


    'หมาปัญญาอ่อน'



    รอยยิ้มน้อยๆ เผยออกมาเป็นครั้งแรกของวัน แววตาที่เคยหม่นปนไปด้วยความเอ็นดู เป็นหมาอย่างแกนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ วันๆ ไม่คิดอะไรเลยนอกจากเรื่องกิน เรื่องเล่น อยากเป็นหมาบ้างจัง มือเรียวเอื้อมไปลูบหัวเจ้าหมาอ้วน และเหมือนมันจะรู้งาน ขยับร่างกลมเข้าใกล้ ไม่ให้เจ้านายต้องยื่นแขนมาไกล เจ้าหมาแสนรู้หยีตาอย่างมีความสุขเมื่อโดนเล่นหัว ถ้าเป็นคน มันก็คงส่งยิ้มกว้างเหมือนกำลังฝันหวานอยู่แน่ๆ


    เจ้านายใจดีกับจอห์นนี่

    เจ้านายลูบหัวจอห์นนี่









    อูรีดงยอง

    สุขสันต์วันเกิด 


    พี่ยังจำได้ดีวันที่เราไปเดินงานสัตว์เลี้ยงด้วยกัน เจ้านี่มันชอบดงยองมากเลยนะ นายก็ชอบมันมากใช่มั้ยล่ะ แน่นอนพี่รู้ พี่น่ะรู้ดีเลยล่ะ เด็กที่กลัวสัตว์คนนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้วหลังจากได้เล่นกับเจ้าอ้วนนี่ แต่กว่าจะกล้าเล่นกับมันก็พยายามอยู่นานเหมือนกันเนอะ ดงยองที่กล้าๆ กลัวๆ ตอนยื่นมือไปเล่นกับมันน่ะนะ น่ารักมากเลย ต่อไปนี้ก็จะได้เล่นกันทุกวันเลยเนอะ

    พี่ตั้งใจให้มันอยู่เป็นตัวแทนของพี่ เวลาดงยองคิดถึงพี่จะได้ไม่เหงาไง






    ประสาท


    ใครจะไปอยากได้ตัวแทนกันล่ะ 



    ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาพูดออกมาได้ยังไงว่าให้เจ้านี่ช่วยคลายเหงาในตอนที่คิดถึงเขา ในเมื่อทุกครั้งที่มองหน้ามัน 



    ก็เห็นแต่หน้าของเขาแทนที่เข้ามา






    เจ้าหมาไร้ประโยชน์














    end.


    ฝากเอ็นดูต้าวหมาอ้วนด้วยนะคะ 


    #dontsmileatmejnd






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in