เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บทความ (Article)mary mist
Crossroad, Rose Petals and Destination

  • ทางแยก กลีบกุหลาบ และปลายทาง (Crossroad, Rose Petals and Destination) : เส้นทางที่ไม่ชัดเจน โอกาสที่หอมหวานกับการตัดสินใจที่อาจสร้างเส้นทางจากกลีบดอกกุหลาบหลากสีที่มาพร้อมกับความหมายที่แตกต่างร่วงหล่นปะปนกัน


     By. MARY MIST






    ฉันเคยรู้สึกว่าโอกาสคือสิ่งที่น่ากลัวและอาจทำลายความฝันเราได้ 

     

    หลาย ๆ ครั้งที่ฉันได้รับโอกาสให้ทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่นการถูกเสนอตำแหน่งงานในมหาวิทยาลัยให้ ฉันเริ่มเรียนรู้การทำงานอย่างจริงจังเมื่อฉันได้เขาศึกษาในระดับอุดมศึกษา ฉันยังคงแปลกใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมคนที่ทั้งเก่งรอบด้าน มีแพชชั่น มีความคิดสร้างสรรค์อย่างเพื่อนของฉันถึงเสนอตำแหน่งงานในสโมสรนิสิตให้ฉัน เราไม่เคยทำงานร่วมงานกันมาก่อนเลยเพียงแค่อยู่ในกลุ่มบ้านรับน้องด้วยกัน และแน่นอนว่าฉันตกลงรับทำงาน จวบจนถึงทุกวันนี้ที่ฉันยังคงได้รับการเสนอให้ทำงานอยู่ตลอดโดยที่ไม่ต้องสมัครรับคัดเลือกด้วยซ้ำ เป็นเพราะความมั่นใจในตัวฉันของเพื่อน ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันมั่นใจและกล้าตัดสินใจลองมากขึ้น


    “ความผิดหวังมักเกิดขึ้นอยู่เสมอ” 


    ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันเจออยู่บ่อย ๆ ซึ่งสวนทางกับโอกาสมากมายที่เข้ามา ฉันคิดมาเสมอว่าโอกาสเยอะแน่นอนว่าดีแต่นั่นยิ่งทำให้ฉันคาดหวังมากขึ้นจนเผลอกดดันตัวเองมากเกินไป ‘โอกาส’ บางครั้งก็มาพร้อมกับความล้มเหลวที่มากกว่าความสำเร็จ และการลองเสี่ยงเพื่อทำบางอย่างไปเรื่อย ๆ ก็น่ากลัวขึ้นมาเช่นกัน


    เมื่อไม่กี่วันมานี้ฉันได้รับข้อความว่า “อยากให้ตัดสินใจให้ดีว่าเราชอบและอยากทำมันจริง ๆ” แน่นอนว่ามันเป็นคำถามที่ฉันมักถามตัวเองเช่นกัน ฉันชอบในสิ่งที่กำลังจะทำอยู่จริงไหม ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ใส่ใจกับคำถามนี้มากนักจนกระทั่งมีโอกาสใหม่ที่เพิ่งเข้ามา การทำงานเป็นนักเขียนคอนเทนด์ด้านแฟชั่นของ โว้ก ไทยแลนด์ ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะรับพิจารณาโอกาสเหล่านั้น ในความเป็นจริงฉันรู้ตัวตั้งแต่ดูเนื้อหางานว่ามันอาจจะไม่ใช่งานในสายที่ฉันถนัด ฉันชอบแฟชั่น ฉันติดตามข่าวสารมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะสามารถเขียนมันออกมาเป็นงานได้ ซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้ฉันกลัวนัก ด้วยนิสัยที่มักจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือและจะลองทำให้หมดทุกอย่างเท่าที่มีโอกาส ฉันจึงกลับไปดูงานเขียนตัวเองแต่กลับพบว่ามีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่มีเนื้อหาตรงกับเนื้องานที่ได้รับการเสนอมา คำถามของรุ่นพี่คนนึงที่ทำงานที่นั่น “พอจะมีผลงานด้านนี้บ้างไหม” ย้อนกลับเข้ามาในหัวฉันและเริ่มทำให้ฉันลังเล 


    บทความเรื่อง ความปวดร้าวของผู้หญิงภายใต้ผ้าผืนบางและโครงเหล็ก สำหรับฉันค่อนข้างน่าพึงพอใจและเคยคิดว่าจะใช้มันเป็นผลงานที่อยากให้ถูกพิจารณา แต่ความคิดนั้นได้หยุดลงเมื่อฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเพียงพอที่จะใช้ตัดสินอะไรได้และทำให้ฉันเกิดไม่มั่นใจในงานเขียนของตัวเองขึ้นมาด้วย ช่วงเวลาของการกลับมาคุ้ยเขี่ยไฟล์ในโน้ตบุ๊คกลับมาอีกครั้ง อันที่จริงฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้เขียนบทความมาก่อนมันจึงมีแต่พล็อตนิยาย เรื่องสั้นหรือบทกวี มันยังไม่มีหัวข้อไหนที่ฉันสนใจโดยตรง ฉันใช้เวลากับความคิดเหล่านั้นอยู่ประมาณสองวัน จู่ ๆ ฉันก็คิดว่าจะนำไอเดียที่ฉันเคยสนใจจากการมีบทสนทนากับคนรอบข้าง หรือเป็นเรื่องที่ผ่านเข้ามาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยมาลองเขียนเป็นบทความโดยไม่ต้องคำนึงถึงเนื้องานดู และแน่นอนว่าไม่กดดันตัวเองด้วยการพร่ำบอกว่างานเขียนพวกนี้อาจกลายเป็นบทความที่ต้องส่งรับพิจารณาทั้งหมด ความแข็งแรงของกระแสแฟชั่นในยุค c19 , ความทรงจำและอนาคต , การตัดสินใจด้วยความกลัว หรือแม้แต่ โดนัทบาร์ ที่เกิดขึ้นเพราะความรักโดนัทของฉันและจินตนาการว่าถ้ามีบาร์สีสันสดใสน่ารัก ๆ ที่เต็มไปด้วยโดนัทหลากสีและหลากรสมันจะดีแค่ไหน (หรืออาจแอบเพิ่มเรื่องบาร์ขนมหวานและเรื่องห้องจิบชาไปด้วยก็ได้) เรื่องพวกนี้อาจจะไปอยู่ในแฟ้มสะสมผลงานของฉันในอนาคต 


    ฉันเริ่มหาแรงบันดาลใจ เขียนไอเดียออกมา แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะฉันรู้สึกว่ามันว่างเปล่าและค่อนข้างทรมาณ มีคนบอกฉันว่ามันไม่แปลกหรอกที่เธอจะเครียดเพราะเธอไม่เคยคุ้นชินงานสายแฟชั่นหรืองานเขียนบทความลงนิตยสารซึ่งฉันก็ยอมรับว่ามันคือเรื่องจริงแต่ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำออกมาให้ได้ถ้าฉันอยากรับโอกาสนั้นไว้และก้าวหน้าในสายงานนี้มากขึ้นในอนาคต


    เวลาผ่านมาสองวันที่ฉันใช้เวลาเขียนบทความใหม่ซึ่งคิดว่ามันออกจะนานเกินไปนิดหน่อยสำหรับงานเขียนที่พอจะมีไอเดียบ้างแล้วแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงทำออกมาให้ดีไม่ได้ ความคิดมันอยู่ในหัวจนรู้สึกอึดอัดและอยากหาทางออกให้ตัวเองได้ตัดสินใจสักที ฉันเริ่มคิดว่าทำไมฉันถึงไม่เอาเวลาไปเขียนนิยายของฉันนะ ทุกคนต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าฉันหยุดเขียนนิยายมานานแค่ไหนแล้วเพราะความเจ็บปวดในมหาลัยและในคณะที่ไม่ชอบพร้อมทั้งคำพูดจากอาจารย์แสนเพอร์เฟคที่บอกว่าการเขียนของฉันมันแย่ ฉันเลือกลงโทด้านวรรณกรรมซึ่งฉันมีความสุขกับมันและเขียนงานออกมาได้ดีกว่ามากแต่นั่นยังไม่พอให้ฉันมีความสุขกับการได้เขียนงานที่เป็นตัวของตัวเอง ฉันหยุดเขียนนิยายไปเกือบปีและหมดแรงกับการเขียนเรื่องราวบทแผ่นกระดาษอันคุ้นเคย โอกาสครั้งใหม่ที่เข้ามาทำให้ฉันได้เปิดหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยหยดหมึกเก่า ๆ อีกครั้งและได้เห็นว่าหมึกเหล่านั้น มันก็ยังไม่ได้ระเหยไปไหน


              ความคาดหวังรุนแรงกว่าเก่าเมื่อมีพลังเป็นเดิมพัน ฉันไม่รู้ว่าพลังเหล่านี้จะสูญหายไปอีกเมื่อไหร่ถ้าฉันไม่ลุกขึ้นมาเขียนอะไรสักอย่างให้มันสำเร็จ การได้เขียนบทความซึ่งนับว่าใหม่มาก ๆ กลายเป็นลูกเหล็กที่หนักซึ่งไม่รู้ว่าจะแบกไหวไหม แต่ฉันได้ข้อสรุปนึงให้ตัวเองคือ 


    "อย่าพยายามเขียนในสิ่งที่ต้องทำให้คุณบังคับตัวเองให้เขียน"


              แฟชั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถนำเสนอออกมาได้ดีที่สุด แฟชั่นไม่ได้ดึงตัวตนของฉันออกมาและไม่มีเสียงของตัวเองดังออกมาเช่นกัน ความเสียดายโอกาสเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็มีข้อดีให้เช่นกัน ทำให้ฉันได้ลองเขียนบทความนิตยสาร ทำให้ฉันได้ศึกษางานแบบใหม่ ๆ และได้เรียนรู้หลายอย่างจากการพยายามหาแรงบันดาลใจ ช่วงเวลาที่ได้ค้นคว้าข้อมูลเหล่านั้นให้สิ่งที่ฉันไม่เคยลองทำมาก่อน มันได้มอบประสบการณ์เช่นกัน ทำให้ฉันได้นึกย้อนไปถึงตอนแรกที่ตื่นเต้นกับงานนี้ ฉันรู้ตัวว่าไม่เคยเขียนงานประเภทนี้และมันไม่เคยอยู่ในสายตา ความอยากลองเป็นสิ่งผลักดันให้ฉันได้ลอง ฉันรู้ว่าในท้ายที่สุดสิ่งที่ได้จากการลองครั้งนี้คือฉันจะได้เขียนลงในลิสต์สิ่งที่เคยเขียนว่า บทความนิตยสาร ในตอนนี้ฉันยังกลัวและกังวลอยู่เพราะฉันอยากให้พลังเหล่านี้อยู่กับฉันก่อน ฉันทรมาณพอสมควรเมื่อสามสี่วันก่อนซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันอยากให้พวกคุณคิดว่ามันจะคุ้มกับตัวคุณหรือเปล่า คุ้มไหมที่จะเอาตัวคุณมาเสี่ยงพราะบางทีการไม่เลือกรับโอกาสบางอย่างก็อาจเป็นความคิดที่ดีก็ได้


    สำหรับฉันในตอนนี้ โอกาสนั้นน่ากลัวเล็กน้อย มันทั้งน่ากลัวและหอมหวาน คุณต้องนำมาคิดและตัดสินใจให้ดี สิ่งที่ดีที่สุดคือตอบตัวเองให้ได้ว่าเราจะทำเพื่ออะไร เราต้องการอะไร เพราะการลองเสี่ยงโดยไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรหรือเรียนรู้อะไรจากมันคงเหนื่อยมากกว่านี้แน่ ๆ แต่ในกรณีของฉัน ฉันได้เรียนรู้ว่าฉันไม่ชอบงานแบบไหนบ้าง อะไรที่ฉันควรตัดทิ้ง อะไรที่ควรรับไว้และอะไรที่ควรสานต่อ คงคุ้มที่ได้ลองเสี่ยง คงจะเท่านั้นเพราะฉันยังอยากใช้เวลาอีกสักพักเพื่อวางแผนและตัดสินใจ ที่แน่ ๆ แม้ตอนนี้ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนแต่มันทำให้ฉันมีพลังอีกครั้ง สิ่งที่เคยห่างหายไปนานมันกำลังกลับมา หากมองผ่านเรื่องเนื้อหางานที่ไม่ค่อยถนัดออกไปฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่าฉันสามารถเขียนบทความได้ ได้เจอประเภทงานอีกอย่างที่ทำได้และถ้าหากได้เขียนเรื่องที่สนใจหรือหาแนวทางของตัวเองเจออาจจะทำได้ดีและพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น


    หากคุณกำลังเกิดคำถามอยู่ว่าอะไรที่ทำให้ฉันกล้าพูดอย่างนั้น อะไรที่ทำให้ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันสามารถเขียนบทความนิตยสารได้ก็คงเป็นเพราะรู้ตัวอีกที่ฉันก็กำลังเขียนบทความนี้อยู่และนำพามันมาถึงตอนจบเสียด้วย

     

     


     

     

     



     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in