เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Life as a Fangirlfray_04
Geeks Night Out with Callan McAuliffe!
  • เรา ได้ ไป เจอ Callan McAuliffe มา!!!!!!! 

    โอเค กลับมาตั้งสติกันก่อน 
    คนอาจจะสงสัย อิตาCallan McAuliffe นี่ใครฟะ ไม่เห็นรู้จัก แล้วจะตื่นเต้นด้วยดีมั้ย ฮ่าๆ

    ทะด๊า!! เขาคือพระเอก Bryce Loski จากเรื่อง Flipped (2010) นั้นเอง

    ถ้ายังจำไม่ได้อีก เรามีมาอีก 
    เขารับบทเป็นเพื่อนพระเอกชื่อ Sam ในเรื่อง I Am Number Four (2011) 
    ยังยากไปอีกหรอ ? งั้นเรื่องนี้ล่ะ 
    คัลเลนเล่นเป็น Jay Gatsby ตอนหนุ่ม ในเรื่อง The Great Gatsby (2013)

    โอเค พอ!! ถ้ายังไม่รู้จักก็จะได้รู้จักกันตอนนี้แหละ! 

            Callan McAuliffe เป็นนักแสดงชาวออสเตรเลีย (แต่ตอนนี้อยู่ที่ฮอลลีวู้ด) วัย 21 ปี ที่เราว่าสุดแสนจะอินดี้ ปีนึงเล่นหนังเฉลี่ยก็แค่1-2 เรื่องเองมั้ง ฮ่าๆ เขาดูหนักไปทางทำงานการกุศล รณรงค์ซะเยอะนะ ทั้งที่เจ้าตัวโปรโมทเยอะอย่าง Wolf Connection ทั้งทำงานให้ UNICEF ก็มี แถมเจ้าตัวยังได้ชื่อว่าเป็นคนที่ห่วงและ(หวง)ความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งเลยล่ะ 

    อะ ถ้าเขาหวงความเป็นส่วนตัวขนาดนั้น แล้วเอ็งไปเจอเขาได้ยังไงฟะ!

    ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเริ่มต้นจากทวีตนี้!!!


    แอร้ยยยย ที่รักมาหาถึงที่ไทย (ตื่นๆได้ละแก ดึกแล้วเพ้อเจ้อ) พอเราตั้งสติได้ปุ๊ป เราก็ทวีตถามไถ่ข้อมูลจากคัลเลนว่ามาที่ไหน ถ้าใกล้ๆจะได้ไปหา สรุปคือเป็นเทศกาลหนัง Thailand Destination Film Festival ค่ะ จัดที่พารากอน (งานโปรโมทกากมาก เม้าท์หน่อยเถอะ ถ้าไม่ได้รู้จากคัลเลน เราก็ยังไม่รู้ว่ามีเทศกาลนี้ เห็นว่าเป็นเทศกาลที่ตอนแรกจะฉายเรื่อง "สิ้นแสงฉาน" ด้วยนะ แต่ถอดออกด้วยเหตุผลแบบ เห้อม) 
    เราก็โอเค ในระหว่างที่กำลังค้นหารายละเอียดเทศกาลและวิธีหาตั๋วดูหนังอยู่นั้น ก็เกิดสิ่งนี้ 
     

    ตายสิค่ะคุณ คิดว่าเราจะยังมีสติเหลือหรอออ วิญญาณออกร่างไปนานแล้ว ฟฟฟฟฟฟ
    แล้วฮีก็อัดคอมโบ้มาด้วยการ DM มาบอกว่าขอชื่อหน่อย เดี๋ยวเอาใส่Guests List ให้

    นี่ก็ให้ไปแล้วก็กรี๊ดไปอยู่คนเดียวในห้อง ผีบ้ามากๆ 5555 (ขออภัยข้างห้องมา ณ ที่นี้)

    เปิดวาร์ปข้ามมาวันงานเลยค่ะคุณ

             เราลากน้องมาด้วย พร้อมในมือมีถุงใส่กางเกงช้างที่กะเอามาให้เป็นของขวัญต้อนรับนาง           (ติ่งสายเปย์ก็งี้555) ก่อนถึงเวลางาน ซึ่งจะเปิดให้มารับตั๋วประมาณตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เรากับน้องก็นั่งคุยกัน ภาวนาว่าอย่าให้คนเยอะนะ เพราะเราสองคนไม่ชอบคนเยอะๆค่ะ เพราะการที่มีฝูงชนเยอะๆ ยอมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีชะนีพันธุ์กรี๊ดแตก ที่จะกรี๊ดทุกสรรพสิ่งและไม่มีสติมากๆ ซึ่งน่ากลัวมากค่ะ เราไม่สู้ ฮ่าๆ 

          ก็สักหกโมง เราก็ไปเอาตั๋วที่เค้าท์เตอร์จัดงาน เหตุการณ์นี้ทำเรารู้สึก "เส้นใหญ่โคตร" ฮ่าาา
    คือเดินอาดๆ ไปที่โต๊ะรับบัตร แล้วบอกว่ามาดูเรื่อง Hacker ค่ะ พี่เขาก็ถามว่า "จองไว้มั้ยคะ" 
    นี่ก็แบบ "จองแล้วค่ะ ติดต่อกับนักแสดงนำไว้" (แหนะ 555) เขาก็แบบ หื้มม แล้วพลิกหาชื่อในบัตร ก่อนจะตอบว่า "ไม่มีนะคะ" เอ๋า ฉิบหายแล้ว 555555 สติแตกไปวืดนึงก่อนจะสื่อสารใหม่ ก่อนพี่เขาจะบอก อ๋อ ติดต่อกับคัลเลนไว้หรอคะ ก่อนจะโบ้ยไปหาพี่อีกคน ที่พี่เขาเปิดกระเป๋าควักกระดาษออกมาแผ่นนึง 

    ผ่างงงงงง เขียนหัวไว้ว่า Callan's Guests list แหม่ 5555555555 เขินจัง
        กวาดสายตาดู มีแค่5-6 คนเองค่ะ มีคนมารับบัตรไปแล้วด้วย นี่ก็ตื่นเต้น รีบรับบัตรมาแล้วก็ทวีตหา     คัลเลนทันทีว่าได้ตั๋วแล้วนะ เขาก็บอก เออ กำลังไป 

    นี่ก็นั่งเรื่อยเปื่อยอยู่ จนเขาDM มาบอกว่า อยู่หน้าโรงเจ็ดแล้วนะ ซึ่งคือโรงที่เราจะดูหนังเรื่อง Hacker (2015) ที่ว่ากันนี้แหละค่ะ 

    หน้าตาของบัตร ที่สั่นมากๆด้วยความสติแตกของเรา 5555

    ไปค่ะ ผู้ชายรออยู่หน้าโรงหนังแล้ว เราต้องไม่ปล่อยให้ผู้ชายรอนาน (โอ้ย น่าหมั่นไส้จังเว้ย 5555)
     พอไปถึง เห็นบรรยากาศเงียบเหงาก็ทั้งใจชื้นและเสียใจแทนนะ ที่งานมันเงียบเหงาขนาดนี้ แล้วก็เดินไปโรงเจ็ด เจอด่านคือพี่พนง. ตรวจตั๋ว ไอ่เราก็เห็นคัลเลนนั่งอยู่ในเล้าจ์ละ กำลังทักทายสาวๆสองคน (ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเป็น guest ของคัลเลนแบบเราๆนี้แหละ) 
    จะได้เจอล่ะ รอพี่แกตรวจบัตร สักพัก พี่บอก "รอสักครู่นะครับ ยังไม่ฉาย เข้าไม่ได้ครับ" 
    เรากับน้องแบบ ดาฟัคคค ตุเห็นอยู่นั้น ตุจะเข้าไปหาผู้ชาย นัดกันแล้วด้วยนะพี่ยยยยยย์
     

    สักพักเราก็ไม่ยอมแหละเพราะคิดว่าถ้ารอเจอหลังหนังจบคนคงวุ่นวายมาก เผลอๆไม่ได้เจอ แฮ่ นี่ก็แบบทำตัวเส้นใหญ่(อีกแล้ว) บอกหนูนัดกับคัลเลนไว้แล้วนะพี่ พี่ก็แบบ ห้ะ อะไรนะครับแล้วก็เบลอตุไปเลย หว้อยยยยยย จนมีีพี่ทีมงานคนนึงเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึั้นเราก็แจงไปอย่างที่บอกพี่ พนง. เขาก็แบบ "อ๋อ นัดกับคัลเลนไว้หรอครับเชิญเลยๆ ขออภัยด้วยนะครับ " แอร้ย รู้สึก

    สวย มงลงมากๆ 55555 

     

    ก็เข้าไปยืนเด๋อค่ะยืนเด๋อรอเขาทักทายคนที่มาก่อนหน้าเรา คือไม่กล้าแทรกอะ ยอมรับว่าป๊อด 

    จนเขาคุยๆกันเสร็จเราโบกหน้าตอนที่เขาเงยหน้ามาพอดี พอเห็นเราปุ๊ปพุ่งมาประหนึ่งเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน!! แล้วแบบอ้าแขนรับเรา แล้วก็

     

    กอดหมับ!

    (แอร้ยยย)

    แทบจะเป็นลมตายอยู่ตรงนั้นวิญญาณออกร่างไปแล่ววววว แล้วเขาก็ทักทายแล้วก็ขอบคุณที่มานะแล้วคือเขาเรียกเรากับน้องว่า sir ตลอดเลยจนเราหยอกว่าไม่ต้องทางการขนาดนั้นก็ได้นะยูววว เขาก็แบบ ไม่ได้นะพวกยูอุตส่าห์มาหา เราก็บอก เราสิต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ นายมาตั้งไกลแล้วยังเป็นธุระหาตั๋วให้อีกเขาก็พูดขำๆว่า โอ้ย ขอบคุณอะไรกัน นี่ได้ตั๋วฟรีกับพักโรงแรมห้าดาวอีกนี่มันวันหยุดดีๆนี้เอง 55555 โอเคค่ะ 

    ก็ยืนคุยกันทักทายพี่สองคนที่่มาก่อนหน้าเรา ถามไถ่ได้ความว่าชื่อพี่ทรายกับพี่ปุ้ย(พวกพี่น่ารักมากๆ) แล้วก็คุยๆเล่นกัน เราก็เอาของขวัญให้ซึ่งคัลเลนก็แบบดีใจออกนอกหน้ามากๆ 5555 หยิบกางเกงออกมาแล้วบอกน่ารักมากกกก แล้วก็บอกทุกคนว่า "She brought me a gift, everybody go home" แงร้ย 555555 แล้วก็คุยหยอกกันไปเรื่อย เขาบอกว่าชอบมากเลยนะ เดี๋ยวจะใส่ไปทุกที่เลย เดี๋ยวใส่ตอนอยู่บนเครื่องบินด้วย ฮือ ได้ค่ะ ยังไงก็ได้ YvY/ 

    เราเลยขอถ่ายรูปกับคัลเลนค่ะ แฮ่ แต่รู้สึกเหมือนคัลเลนนี่จะตัวดูดแสงนะคะ ถ่ายกันกี่ทีๆ รูปก็มืดซะเหลือเกิน 555555

    ขอพรางตัวเป็นฮิโรคาเงะแล้วกันนะคะ 5555 (นี่ปรับแสงให้ฮีแล้วด้วยนะ) 

     มีชูกางเกงช้างด้วย  (มืดอย่างที่เราว่าไว้มั้ยละ 5555)

    เสร็จแล้วก็มีการถามไถ่ เชิญชวนว่าว่างมั้ยหลังหนังจบ จะมี after party ต่อ นี่ก็แบบระริกระรี้มาก แงร้ย ตอบไปทันที ฮ่าา แล้วก็โดนเบรกด้วยการถามว่าอายุเท่าไหร่ ก็ปล่อยฮีทายไปเรื่อยเปื่อย กว่าจะทายถูก


    ------------------เปิดวาร์ปเข้าไปดูหนังกันค่ะ-------------------

    รีวิวหนังซักนิด (พื้นที่โฆษณา) 

           เรื่อง Hacker คัลเลนเล่นเป็นตัวเอกที่เป็นเด็กมัธยมที่ผันตัวมาเป็นแฮคเกอร์เพราะอยากได้เงินไปเรียนมหาลัย แล้วก็เอาตัวไปพัวพันกับองค์กรณ์แฮคเกอร์ระดับใหญ่เบิ้ม ชื่อ "Darkweb" หนังเรื่องนี้สร้างอิงมาจากเรื่องจริงของแฮคเกอร์คาซัคสถานคนนึงด้วยนะคะ

    สนุกดีค่ะ อารมณ์เดียวกับซีรี่ส์เรื่อง Mr.Robot (เจ้าตัวบอกมีแต่คนมาพูดงี้ ตัวเขาเองยังไม่เคยดู Mr.Robotจ้า) 

    หนังเข้าไทยประมาณเดือนกันยายน ใครสนใจ ไปดูกันได้น้า 


    -------------------------------------------------------------------------------

                      พอหนังจบก็มีช่วง Q&A ต่อ คัลเลนก็ตอบคำถามน่ารักดี ตรงไปตรงมา บอกว่าชอบอาหารไทยมากๆแล้วก็ชอบคนไทยด้วย เพราะคนไทยเป็นคนทำอาหาไทยให้ทาน 55555 แล้วก็พูดว่าที่เข้าวงการมาเนี่ย จริงๆอยากได้ตังซื้อน้องหมามาเลี้ยง เลยรับแสดงเรื่อง Flipped แล้วพอได้ตังมา เริ่มทำงานสายนี้ ต้องย้ายไปฮอลลีวู้ด ดันต้องแยกกับน้องหมาซะงั้น คัลเลนบอกเป็นวงจรอุบาทว์นะ ขำดีนะว่ามั้ย ฮ่าๆ 

                                  คัลเลนบอกว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง เขามีความอยากเป็นนัก Astrophysicist หรือนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ คือชอบเกี่ยวกับดวงดาวมากๆ แล้วก็บอกว่าตอนเด็กๆ อยากเรียนพวกสายวิทย์สุขภาพนะ แล้วก็มารู้ตอนโตขึ้นมาแล้วว่า "I'm not smart enough for that" 555 แงร้ย 

       ดูหนังเสร็จแล้วก็ออกจากโรงกันมาค่ะ นางก็มาออกมาถ่ายรูปกับแฟนคลับทั้งหลายแหล่ พวกเราก็ยืนรอเก้ๆกังๆว่าจะเอายังไงต่อดี นางเห็นพวกเรายืนรอก็บอกว่า ไปนั่งรอก็ได้นะ ขอโทษด้วย พวกเราก็แบบไม่เป็นไรนะ 555 คือคัลเลนเทคแคร์ดีมากๆ เกรงใจเขาเลยให้ตายสิ สักพักเราเข้าไปกวนเขาด้วยประโยคจากในหนังสักหน่อย แล้วพอเสร็จ เราหันมากัน ก็เห็นคนอื่นๆยืนถือกล้องรอเหมือนจะถ่ายรูปด้วย คัลเลนก็แบบ "Are we taking a photo or what?" เราก็แบบ ไม่รู้อะ มากวนเฉยๆ เราก็เลยว่า "To not make this awkward, I'll just give you a hug" แล้วก็กอดหมับเข้าให้ แล้วก็ขำกันจ้า 5555 แล้วก็ถอยออกมารอ จนฝูงชนสลายไป เราก็มาคุยเล่นกัน รอรถตู้ของคัลเลนมารับไป After Party ที่          The Friese greene club แถวสุขุมวิท 

    ระหว่างนั้นเราก็ขอนางให้เซ็นต์หลังตั๋วหนังให้ แซวว่าจะเอาไปขายในอีเบย์ นางก็แบบ "it wouldnt worth much but sure5555 " แล้วก็เซ็นต์ให้แบบงงๆ แล้วก็ขอเซลฟี่ ซึ่งก็ตามเดิมอะ มืดแบบเดิม กล้องเราก็กาก เราบอกนางด้วยว่ายูถือนะ นางบอก โอเค แล้วกล้องเราก็ค้างๆงงๆ แบบ ไม่ไหวแล้ว 55555 นางก็บอกว่าโอเคมั้ยอะ ถ่ายใหม่มั้ย เราก็แบบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปปรับแสงเอาก็ได้ เขาก็ยังบอกว่าเช็คดูก่อนๆ แล้วเราก็เลยจะเปิดดู แต่ค้างอยู่หน้า Lockscreen ซึ่งเป็นรูปนี้ 

    คัลเลนเห็นก็อ่านว่า "Don't Panic" เราก็บอกว่า "I'm panicking right now" เขาก็บอก "You've the right to be 55555" หมั่นไส้ สักพักคัลเลนก็พูดขึ้นว่า "Is that a reference to 'The Hitchhiker's guide to the galaxy'"? เราแบบเห้ยยยยย มีคนรู้จักด้วย เราก็บอกใช่ๆ เขาบอก "Awesome! Great one" แล้วก็ตบหลังกันแปะๆ แล้วก็คุยเรื่องหนังกับหนังสือกันอีกนิดหน่อย แล้วก็ลาไปขึ้นรถตู้ บอกยังไงก็เจอกันนะ แต่ถ้าไม่ได้ไปปาร์ตี้ต่อกัน ก็ขอบคุณมากๆที่มา ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเราไป ฮ่า เราติดรถพี่ๆเขาไป

    ระหว่างทางก็รถติดมหาศาล ทำcarpool karaoke กันไป พอมาถึงที (ซึ่งลึกลับมาก เหมือนซอยบ้านคนมากกว่าจะมีคลับในนี้) พอมาถึงปั๊ป เข้าไป คัลเลนก็เข้ามาทักทายพวกเรา แต่ยังเดินมายังไม่ถึงกัน เราก็ถูกสิ่งนี้เรียกความสนใจไปซะก่อน  

    TARDIS นั้นเองงงงง 

    พอเราเห็นปั๊ป ก็ชี้ๆให้คนอื่นดู แล้วก็วิ่งมากรี๊ดๆ ลูบๆ ย้ายเป้าจากเดินไปหาคัลเลนเป็นมารุมเจ้าตู้นี้แทน 55555 คัลเลนคงแบบ วดฟ นังพวกนี้ 5555555555 

    หลังจากได้สติแล้วว่าควรพากันไปทักทายคนที่ชวนมาปาร์ตี้ ก็เข้าไปคุยกับคัลเลน ที่บอกขอบคุณพวกเรา(อีกแล้ว) ที่มา คือเจอกันวันนี้ เรานับที่คัลเลนพูดขอบคุณได้ทั้งหมดเกิน 20 ครั้งอะ พ่อคุณณณณณ 

    ก็ไม่มีไรมาก ตอนแรกทุกคนก็เกร็งๆ ยืนจิบเครื่องดื่มกันไป คัลเลนบอกตามสบายนะ มีไวน์ มีเบียร์ แล้วก็หันมาชี้หน้าเราบอกว่า "If you aren't allow to drink, we have orange juice." บรื้อ หมั่นไส้ที่จำได้ (พอลเจ้าของคลับบอกว่า ต้องอายุ 22 ค่ะถึงจะดื่มได้ เราเพิ่ง 21 แง แต่จริงๆเราก็ไม่ดื่มอยู่แล้ว -3-) ประทับใจที่เขาจำรายละเอียดได้ โหม้ย เขินนน ได้เครื่องดื่มแล้วก็มีตีวงคุยกันค่ะ ว่าชอบอะไรกันบ้าง คัลเลนก็ถามว่าปกติวันเสาร์ทำอะไรกัน เราก็บอกว่า นอน เขาก็บอก เหมือนกันเลย! แล้วก็ถามว่าดูหนัง,ซีรี่ส์อะไรมั้ย พอเรากำลังจะอ้าปากตอบ เขาก็บอก yeah i know apart from Doctor Who เราก็ขำ แล้วก็คุยกัน เราก็ถามกลับว่า เขาล่ะดูอะไรบ้าง นอกจาก Game of Thrones นะ 5555 เขาก็ว่าเราว่า you know me too much แซะมาแซะกลับ ไม่โกงค่ะ 

    เขาก็บอกว่าดีนะที่พวกเราชอบอะไรคล้ายๆกัน จะได้มีเรื่องคุยกันได้ เราเลยหยอดไปว่า "That's why we're here." เขาก็บอกว่า "Wise girl" เขินไปตามระเบียบ แงงง ก็คุยลากยาวไปเรื่องว่า มาไทย ควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร แล้วก็แบบว่าทำไมพูดถึงเมืองไทยแล้วฝรั่งชอบคิดถึงสาวประเภทสอง เขาบอกรอบที่แล้วมาทำงานที่ไทย มีฉากถ่ายที่ข้าวสาร เจอสาวสองเข้ามากุมหมับเข้าที่ไข่ เขาบอกตกใจมาก 'I take it as a compliment, but it hurts.' แล้วก็ทำท่าทั้งมือที่มาจับ แล้วก็ท่าบิดตัวงอตอนโดนกุม คือแบบ โอ้ยสงสาร 555555 เรียกเสียงฮาตลอด คือเราว่าคัลเลนเป็นคนที่เฟรนด์ลี่มากๆ เหมือนเกรงใจที่ว่าเชิญพวกเรามา เลยดูแลดีมากๆ 

    เขาพูดด้วยนะว่ามันประหลาดมากๆกับการชวนคนแปลกหน้าต่างแดนบนอินเตอร์เน็ตให้มาเจอกันเนี่ย แต่ก็ดีใจที่มานะ เอออ เราก็ขอบคุณกันไปอีกรอบนึง 

    สักพักคัลเลนบอกเออ นี่ขึ้นไปดูชั้นบนของคลับยัง (คือคลับนี้มีที่ฉายหนังด้วยค่ะ ชอบมากกก เป็นคลับที่พวกคนทำหนังชอบมาแฮงก์เอ้าท์กัน) ก็บอกยังๆ ก็เลยลากกันขึ้นไปงงๆ 

    แล้วก็ผ่างงง เจอกับจอโปรเจคเตอร์และเก้าอี้โรงหนังเก้าตัว แบบ อมกกก มีแบบนี้ที่บ้าน เราไม่ออกไปไหนแล้วค่ะ 

    ก็ยืนๆคุยกันแล้วก็ถามกันว่าแบบอยากดูอะไรกันมั้ย ก็โหวตว่า Game Of Thrones เพราะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในกลุ่มเราดูกัน ก็ลงเอยที่ GoT SS6 EP.10 Season Finale กันเลยทีเดียว 55555 

    ตอนนั่งดูชวนคุยกันไปเรื่อย แล้วก็คอมเม้นท์ตัวละครกันสนุกสนานมากๆ 

    ตัวเราเองก็หันไปบอกคัลเลนว่า "This is my kind of party." เขาบอก "Mine too.' แล้วก็ชนมือกัน Brofists สุดๆ 555 

    ดูไปนี่ก็มีพ่นทั้งคำว่า Burnnnn นั่นนี่นู่น มาเต็มมาก แล้วอยู่ดีๆ คัลเลนก็สะกิดถามว่า

    "พวกยูรู้จัก Reddit กะ 9Gag กันมั้ย" ก็ตอบไปว่ารู้จัก ทำไมหรอ เขาก็บอกว่า ภาษาอังกฤษพวกยูมันดีมากๆเลยนะ ยกนิ้วให้เลย แล้วก็มันดูอินเตอร์เน็ตมาก เลยสงสัย 55555 เราเลยแซวไปว่า "what's going on inside your head?" คือแบบมองจออยู่ แต่คำถามแรนด้อมมาก จะบ้าตาย แล้วก็เลยลากยาวมาว่าชอบอ่านหนังสืออะไรกันบ้าง เขาบอกชอบ LoTR มากๆ เราก็บอกว่าเราชอบ HP นะ โตมากับHP เขาก็บอกเออเหมือนกัน (แหงสิ แกอายุเท่าฉัน 555) ลากไปถึงความเซ็กซี่ของฟินนิค โอแดร์กับฉากกัดก้อนน้ำตาล คือคัลเลนบอก im straight but he's sexy as fuck lol แล้วก็ลามไปถึงเรื่องดนตรี ที่เขาบอกว่าชอบฟังพวกซาวด์แทร็คหนังกับเกม แล้วบอกว่าชอบ OST.Interstellar และเกม Halo 3 มาก (เราไปตามฟัง halo3มาแล้วค่ะ ชอบมากเลย ฮือ เปิดโลกกก UvU/ ) 

    ก็ดูจนจบกันแล้วก็ลงมาข้างล่าง ตอนนั้นก็ดึกมากล่ะ ก็จะลากันกลับ เขาก็บอกเดี๋ยวเดินไปส่งที่รถนะ 

    ก็ออกมากัน เราไม่สบาย เจ็บคอหน่อยๆเลยอมยาอมอันนี้ 

    เขาก็มาถามว่าอะไรอะ เราก็แบบ แบมือมาซิ เขาก็แบบ ไม่เออาาาาา drug รึเปล่า เราก็แบบ เอามาเหอะน่าาา จะอธิบายก็ไม่ถูกแล้วค่ะว่าคืออะไร ตีหนึ่งแล้ว ภาษาอังกฤษเริ่มกลับบ้านเก่า 5555 ก็แบบ ยาอมแก้เจ็บคออะ กินเหอะ ยังไม่ทันพูดจบดี ฮีก็เอาเข้าปากเรียบร้อยล่ะ นี่ก็แอบสงสัยว่าถ้าโดนเรามอมยาจริงก็คงไม่รอดอะ เขาก็บอกว่า เห้ยยย อร่อยดีอะ นี่ก็แบบเอาไปเลย ยกให้ นางก็แบบขอบคุณมากนะะะ

    ก็ก่อนแยกย้าย ขอถ่ายรูปหมู่กันหน่อย Fangirls v Fanboy 

    (สะสมแต้มบุญติ่งมาทั้งชีวิตก็เพื่อจะได้วางมือลงบนไหล่เขานี้แหละ อิ___อิ)

    ขอยืมตัวมาเป็นทูตท่องเที่ยวไทยหน่อยนะะะ 

    มีวิดมาทักทายแฟนชาวไทยด้วยนะ 


    หลังจากแยกย้ายกันไป พูดเลยว่าเราประทับใจคัลเลนขึ้นเยอะมากๆๆๆๆ สัญญาจะติดตามผลงานบ่อยๆ

    Callan McAuliffe เป็นผู้ชายที่เราเจอแล้วให้ความรู้สึกอยากเป็นเพื่อนเขามากกว่าเป็นแฟนคลับ เราชอบที่sense of humour เรากับเขาเข้ากันได้ดีมากๆ มากจนน่ากลัว 5555 เขาบอกว่าเราอะ "You spend too much time on the internet." แต่ก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ เราสองคนก็ don't have a life พอๆกันแหละ ไปพูดถึงให้ปวดหัวทำไมกัน  

    "I wanna be his friend, not his fan." 


    Thank you, Callan McAuliffe
    You made my day
    9.7.16





     



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in