" Everything happens for a reason. " คงจะเป็นอีกประโยคหนึ่งที่อธิบายทฤษฎีนี้ได้อย่างดีที่สุดเช่นกัน หากคุณลองมองย้อนกลับไปใน timeline ของความสัมพันธ์ของคุณ ไม่สำคัญว่ามันจะจบลงไปแล้วหรือเพิ่งเริ่มต้นขึ้น คุณจะรับรู้ได้ถึงทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีกที่แอบแฝงอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้น ในรูปแบบของบางการกระทำที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเพราะอะไร แต่ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยเพียงใด มันก็สำคัญ เพราะมันคือตัวการณ์ในการแปรเปลี่ยนของโชคชะตาของคุณและเขา

อีกแง่หนึ่งของทฤษฎีนี้คือการสอนให้มนุษย์ทุกคนคิดก่อนกระทำเสมอ คุณไม่มีวันรู้ว่าการสยายปีกของคุณเพียงเล็กน้อยจะส่งผลอะไรและต่อใครบ้าง คุณไม่มีวันรู้เลยว่าเมื่อไหร่จะเป็นครั้งสุดท้าย และ คุณไม่มีวันรู้เลยว่าเขา เขาต้องทนทุกข์เพียงใดกับพายุฝนที่คุณสร้างขึ้น คำบอกลามักไม่มีสัญญาณเตือนเสมอ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณจริงๆ

 หากคุณเจอผีเสื้อตัวนั้นแล้ว จงรักษาเขาไว้ให้ดีดี เพราะเขาคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของคุณ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ไม่ว่าการกระพือปีกของเขาจะสร้างพายุฝนหรือสายรุ้ง มีแต่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลง 




ถ้าวันนั้นไม่ทักไป เราจะได้คุยกันหรือเปล่านะ