ฉันเป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 ซึ่งว่ากันว่าเป็นปีที่เรียนหนักที่สุด ภาระงานเยอะที่สุด เครียดที่สุด และทรมาณที่สุด ก็เป็นเรื่องไม่เกินจริงสักเท่าไหร่กับสิ่งที่เผชิญระหว่างกำลังศึกษา สัมผัสได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาหนักอึ้ง เหมือนมีหินอะไรสักอย่างทับเอาไว้ ทำให้ปวดไปทั้งกายและปวดไปทั้งใจ
วันหนึ่ง ก่อนจะเริ่มนำเสนอความคืบหน้าของงาน คุณครูได้แจ้งว่านิสิตทั้งหลายควรจะเริ่มหาที่ฝึกงานได้แล้ว ในห้องเรียนขณะนั้น มีบางคนรู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ บ้างก็เริ่มโอดครวญในใจ เสียงกระซิบกระซาบบ่นถึงความหนักหนาที่ต้องเผชิญก็มีแว่ว ๆ ยิ่งในสถานการณ์ของโรคระบาด ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าการเข้าไปเรียนรู้งานในองค์กรสักแห่งนั้นจะมีความเป็นไปได้ขนาดไหน
หลังจากนั้นไม่กี่วันฉันจึงได้ทักไปหารุ่นพี่ที่เคยฝึกงานในร้านหนังสือที่เราสนใจ และเริ่มต้นส่งข้อความไปหาคุณเจ้าของร้าน เพื่อติดต่อขออนุญาตฝึกงาน
คุณเจ้าของร้านขอให้เราส่งประวัติและผลงานเพื่อพิจารณา ด้วยความที่ฉันไม่มีประสบการณ์ ขาดความรู้ และยังต้องแบกก้อนหินหนักนั้นไว้ ทำให้ฉันรู้สึกกังวลอย่างมาก ทว่าทางร้านหนังสือก็ได้ตอบรับการฝึกงานของฉันและเพื่อนสนิทด้วยความเร็วไว
หลังจากนั้นสักพักใหญ่ การฝึกงานระยะหนึ่งจึงเริ่มต้นขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in