จีบหญิงภาค2(ภาคจบบริบูรณ์)
โชคดีที่หลังจากการจีบผู้หญิงครั้งแรกล้มเหลว ก็เป็นช่วง เวลาที่ทั้งเราและเพื่อนต้องโฟกัสกับการสอบเข้ามหา’ลัย เรื่อง ฟงเรื่องแฟนพักไว้ก่อน เอาเรื่องเรียนให้รอดไว้ก่อนเป็นยอดดี
จนสอบติดกลายเป็นเด็กมหา’ลัยเต็มตัว เราก็มีเพื่อนกลุ่ม ใหม่ มีสังคมใหม่ แล้วก็มี…ผู้หญิงน่ารักๆ มากกว่าสมัยมัธยม เสียอีก
ครั้งแรก อาจจะประสบการณ์น้อย (คือไม่มีเลยน่ะแหละ) ก็เลยคว้าน้ำเหลว แต่ตอนนี้มันก็ไม่แน่!
ยังมีความหวังว่าจะลองจีบผู้หญิงดูอีกสักครั้ง ถ้าส?ำเร็จก็ แปลว่ามันอาจจะเป็นทางของเราจริงๆ ก็ได้
ว่าแล้วก็ลองเอาเรื่องจีบผู้หญิงมาปรึกษาเพื่อนทอมที่สนิท ที่สุดในกลุ่มเพื่อนมหา’ลัย ในสายตาเรานางเป็นทอมที่เก่งและ สมาร์ตมาก (เอาจริงๆ แอบคิดว่ามันยังดูแมนกว่ากูอีก) ลึกๆ ก็คิดว่านางก็คงสงสั ยว่าคนอย่างเรานี่ เหรอวะจะมาชอบผู้หญิง เพราะนั่งเรียนด้วยกันทุกคลาส ไปไหนก็ไปกันตลอด ใช้ชีวิตตัว ติดกันยิ่งกว่าผัวเมีย แต่ก็ยังมีหน้าไปปรึกษานาง ว่าเรากำลัง จะจีบผู้หญิงคนหนึ่ง...
(มานึกถึงตอนนี้แล้วอายฉิบหาย…)
แต่เพื่อนทอมก็ไม่คัดค้าน ถ้ามึงชอบกูก็ไม่ต่อต้าน แถมยัง คอยสนับสนุน ช่วยจีบช่วยชงเรากับผู้หญิง (ผู้โชคร้าย) คนนั้น ให้เป็นระยะ
จนวันหนึ่งนางคงทนเก็บความคับข้องใจต่อไปไม่ไหว เลย หวังจะใช้จังหวะกรึ่มแอลกอฮอล์ ทำให้เราสารภาพความจริง
“กูถามหน่อย จริงๆ แล้วมึงชอบผู้ชายหรือเปล่าวะ”
“เปล่า กูชอบผู้หญิง...”
เป็นไงล่ะ ตอบเร็วมาก บอกเลยว่าใครที่คิดจะล้วงความลับ จากคนเมา ถ้ามันเป็นความลับที่ซึมลึกในระดับอินเนอร์แล้วละก็ อย่าหวังว่าจะได้คำตอบกลับไปง่ายๆ!
ความสัมพันธ์ของเรากับผู้หญิงคนนั้นก็ไปได้สวย เพราะ เราชอบคุย ส่วนเธอก็คุยสนุก เราสองคนจึงเข้ากันได้ดี ดีจนเรา ตัดสินใจว่า ถ้าจะลองพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ก็คงต้องเป็นกับเธอ คนนี้นี่แหละ
และถ้ามันเป็นไปได้ คนอื่นจะได้เลิกสงสัยในตัวเราสักที..
หลายคนคงคิดว่า เอ้า อีหมิง นี่มึงจีบผู้หญิงเพื่อให้คนอื่น มองว่ามึงเป็นผู้ชายแท้แค่นี้เหรอ...
ก็ต้องยอมรับว่า ตอนนั้นเราเองก็พยายามต่อต้านความ เป็นเกย์ของตัวเอง คือวัยรุ่นอะ มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มันไม่ แน่ใจ ไม่ได้อยู่ดีๆ ตื่นขึ้นมาแล้วบรรลุได้เองว่า เฮ้ย กูชอบผู้ชาย
คือมันก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองกันบ้าง เราก็พยายามหา เหตุผลว่าทำไมตัวเองถึงไม่อยากจีบผู้หญิงเหมือนเพื่อนคนอื่น อาจเป็นเพราะเราไม่กล้า หรือว่าเรากลัวหน้าแตก หรือเราอาจ เป็นแค่ผู้ชายหงิมๆ ที่ขาดความมั่นใจในการเข้าหาเพศตรงข้าม ก็ได้ มันมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราต้องการคำตอบ แล้วกูจะตอบ ได้ยังไง ถ้ากูไม่ได้ลองพยายามอะไรเลย
เราก็เลยต้องการโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
พอเรากับเธอคนนั้นสนิทกันมากขึ้น มากขนาดที่ถ้าเป็น ชายหญิงทั่วไปเขาคงตกลงเป็นแฟนกันไปแล้ว แต่สำหรับเรายิ่งรู้จักกันมากขึ้นมันกลับไม่ได้เพิ่มความรู้สึกวูบวาบหวั่นไหว ห่าอะไรให้เราเลย จากที่คิดว่าอยากจีบ อยากได้เป็นแฟนก็ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอยากเป็นเพื่อนสนิทด้วยมากกว่า
เราชอบเธอ เพราะรู้สึกว่าคุยอะไรแล้วมันก็คลิกกันไปหมด อยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ ทำอะไรก็มีแต่เสียงหัวเราะ แต่มันก็ไม่ใช่ ความรู้สึกวูบวาบแบบอยากได้มาเป็นแฟนอย่างที่อยากให้เป็น
บางทียังแอบคิดว่า ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เราอาจจะชอบเธอ มากกว่านี้
แต่ถามว่าเราล้มเลิกความตั้งใจไหม, ก็ไม่
และแทนที่มึงจะพยายามต่อไปเงียบๆ ก็ดันอยากโชว์แมน ด้วยการเอาเรื่องจีบผู้หญิงไปปรึกษาในกลุ่มเพื่อนผู้ชาย (เนี่ย ไม่เข็ด ครั้งที่แล้วมึงก็ขี้อวดแบบนี้)
แต่ครั้งนี้ปรากฏว่าเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มก็ชอบผู้หญิงคนนั้น อยู่เหมือนกัน ถ้าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนมันก็ควรจะมีคนหลีก ทางให้อีกคนใช่ไหม…
แต่ความซับซ้อนมันไม่ได้อยู่ตรงที่มีเพื่อนมาชอบผู้หญิง คนเดียวกับเรา แต่มันอยู่ตรงที่ไม่มีใครรู้ว่าเราก็แอบชอบเพื่อน คนนั้นเหมือนกัน และชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วด้วย เขาคือคนที่เรารู้สึกดีด้วยมากกว่าคนอื่น แม้จะไม่มั่นใจนักว่ามันคือ ความรัก แต่ก็คือมันนี่แหละ ที่ทำให้เราดั้นด้นตามมันมาเรียน หมอถึงนี่...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in