คำเตือน: มีอคติและการเปรียบเทียบ
สวัสดีผู้อ่านทุกคนนะคะ จขรว. (ย่อมาจาก เจ้าของรีวิว) เชื่อว่าในช่วงวันหยุดยาวนี้ หลายคนคงมีแผนไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ จขรว.ก็เช่นกันค่ะ
แผนของจขรว.คือการไปเที่ยวโพธาราม อำเภอเงียบ ๆ ในจังหวัดราชบุรี โดยรถไฟฟรีค่ะ
(สำหรับการไปโพธาราม น่าจะอยู่ในรีวิวถัด ๆ ไป)
การเดินทางโดยรถไฟฟรีเนี่ย ค่อนข้างจะมีรอบน้อยกว่ารอบปกติพอสมควร อย่างวันนี้ที่จขรว.จะเดินทาง รอบรถไฟฟรีก็มีอยู่แค่ 2 รอบ คือรอบ 9.40 กับรอบอะไรสักอย่างตอนช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ
ด้วยความที่รถไฟฟรีมีรอบน้อย ถ้าพลาดก็คือพลาดไปเลย เพื่อนของจขรว.เลยนัดก่อนเวลาเพื่อกันเลท เวลานัดของเราจึงถูกตกลงกันที่ 9 โมงตรง ที่สถานีรถไฟบางซื่อ เพราะใกล้บ้านมากกว่าหัวลำโพง
ความบ้านใกล้และต้องการประหยัดเวลาในการเดินทาง ทำให้จขรว.ตัดสินใจเลือกใช้ UberMOTO เพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกว่าการนั่งวินมอไซต์ไปต่อรถเมล์ และไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกที ตอนนั้นคิดแค่ว่า ยอมจ่ายแพงขึ้นนิดหน่อย แลัวไม่ต้องต่อรถเยอะ แถมประหยัดเวลาน่าจะดีกว่า แค่นั้นจริง ๆ
ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจใช้อูเบอร์ เพราะก่อนหน้านี้จขรว.เคยนั่ง grabbike มาก่อน แล้วค่อนข้างประทับใจ พออูเบอร์ปล่อยตัวมอเตอร์ไซต์ออกมาบ้าง เลยอดที่จะลองไม่ได้
ความต่างอย่างแรกที่จขรว.พบ คือการคิดค่าโดยสารสำหรับแกร็บ ค่าโดยสารจะขึ้นให้เรารู้ตั้งแต่เริ่มเรียก และคิดราคานั้นเลย ในขณะที่อูเบอร์ จะคิดตามระยะทางแทน
ทันทีที่มอไซต์มารับ จขรว.ก็ออกปากถามเขาไปก่อนเลยว่า รู้ทางไปใช่ไหม? คนขับชี้ไปที่โทรศัพท์ที่ติดไว้หน้ารถ พร้อมบอกว่า มีจีพีเอสครับ
ไม่รู้ว่าจขรว.และคนขับ (ที่จริง ๆ คงไม่รู้ทางแน่นอน) เชื่อใจจีพีเอสมากไปไหม เพราะจุดพีคมันมาอยู่ตรงที่ จีพีเอสจะพาเราขึ้นทางด่วน แต่เราเป็นมอเตอร์ไซต์ เราขึ้นทางด่วนไม่ได้ (เล่าถึงตรงนี้แล้วอดนึกถึงมุกจากไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ไม่ได้/ "ฉันขี่มอไซต์ ฉันจะไปที่ไหนก็ได้" "แต่แกขึ้นทางด่วนไม่ได้!")
พอขึ้นทางด่วนไม่ได้ ความชิบหายก็บังเกิด
จขรว.เพิ่งรู้ในตอนนั้นว่า ไม่ใช่คนขับไม่รู้ทางธรรมดา แต่คนขับไม่รู้ดัวยซ้ำว่า สถานีรถไฟบางซื่อมันอยู่ที่ไหน ชิบหายของจริงล่ะที่นี้
ประสบการณ์ความพังของการนั่ง UberMOTO ครั้งแรกของจขรว.ยังไม่สิ้นสุดแค่นั้น เพราะยังมีอีก 2 เหตุการณ์ทีี่ทำให้จขรว.ทนไม่ไหวจนต้องเขียนรีวิวนี้ขึ้น เหตุการณ์แรกคือ 'การฝ่าที่กั้นทางรถไฟ'
หลายคนคงทราบกันดีว่า ตามทางรถไฟที่ตัดผ่านถนนปกติจะมีไม้กั้นเพื่อกั้นไม่ให้อะไรก็ตามผ่านทางรถไฟในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนตัวมา
แต่คนขับของจขรว.คงไม่ใช่หนึ่งในหลายคนนั้น เพราะสิ่งที่เขาทำขณะไม้กั้นถูกยกลง คือการวิ่งผ่านทางรถไฟแบบเฉียดตาย
โอเค อาจจะฟังดูเกินจริง เพราะจังหวะนั้นจขรว.เองก็ไม่เห็นรถไฟมาเหมือนกัน แต่วินาทีที่มอเตอร์ไซต์ขับผ่านทางรถไฟ จขรว.บอกได้จากใจจริงเลยว่า เป็นวินาทีที่รู้สึกเฉียดตายจริง ๆ
หลังจากวินาทีนั้น ความหงุดหงิดของจขรว.ก็พุ่งขึ้นสูงตามความเร็วของมอเตอร์ไซต์ที่วิ่งไปบนถนน
เหมือนคนขับอยากใช้เวลากับจขรว.ให้นานที่สุด เพราะสิ่งที่เขาทำในลำดับต่อมาคือการขับอ้อมโลกแบบที่จขรว.ไม่เคยเจอมาก่อน
และนี่คือภาพเส้นทางการเดินทางของจขรว.
เป็นเส้นสีฟ้าที่สวยงามจริง ๆ
(ประชด)
ก่อนจะบ่นจนเต็มไปด้วยอคติไปมากกว่านี้ จขรว.ขอพูดถึงข้อดีของการเดินทางครั้งนี้หน่อยแล้วกัน
ข้อดีของการนั่ง UberMOTO มีดังนี้
1. เขามีหมวกกันน็อคให้ใส่ ถึงจะดูเปราะบางไปหน่อย แต่คงช่วยอะไรได้บ้างถ้าเกิดอุบัติเหตุ
2. คนขับค่อนข้างมีมารยาท ในส่วนของการขอโทษ ขอบคุณที่พี่ดูไม่ได้ตั้งใจพาอ้อมเพื่อเอาเงินหนู ไม่งั้นคงเหวี่ยงใส่พี่แบบแรง ๆ แน่ ๆ
3. คนขับมีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าพอสมควร อย่างน้อยพี่ก็ยังถามทางจากคนอื่น ถึงจะเป็นตอนที่เราอ้อมเมืองกันมาได้สักพักแล้วก็ตาม
4. คนขับดูมีความพยายามในเรื่องของการทำเวลาในการเดินทาง เห็นได้จากการมองหาช่องทางที่เร็วกว่าเมื่อติดไฟแดง (ซึ่งสุดท้ายก็ได้แค่มองซ้ายขวา โชคดีที่พี่ไม่ฝ่าไฟแดง) และการวิ่งฝ่าที่กั้นทางรถไฟ (ถึงจะไม่ใช่ข้อดีที่ต้องการให้ออกมาในรูปแบบนี้เท่าไหร่ แต่นับว่าเป็นข้อดีหน่อยแล้วกัน)
และ 5. จขรว.เดินทางถึงสถานีรถไฟบางซื่อโดยสวัสดิภาพ ภายในเวลา 38.43 นาที ด้วยเงิน 110 บาทถ้วน รวดเร็วทันใจมากจริง ๆ (ประชดอีกแล้ว)
ป.ล. เป็นรีวิวที่ค่อนข้างระบายอารมณ์พอสมควร จริง ๆ จขรว.ได้ส่งคำติชมไปทาง Uber แล้ว แต่คิดว่าการเขียนรีวิวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง อย่างน้อยก็คงช่วยให้มีแนวโน้มที่จะปรับปรุงเพิ่มขึ้นบ้างแหละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in