สิ่งแรกที่ทุกคนทำเมื่อถึงสถานีคือการพุ่งเข้าไปใน 7-11 เพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่ เรายังไม่มีอาหารตกถึงท้องกันเลย แต่ผมง่วงจนหายหิวแล้ว จึงไม่ได้เดินตามเข้าไป
ผมสะลึมสะลือหยิบกล้องในกระเป๋าออกมา เพื่อถ่ายภาพภายในอาคาร โดยหวังว่าจะเป็นการปลุกตัวเองให้ตื่นจากความง่วง แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยได้ผล
ตายังปรือ มือยังเปลี้ย แต่ก็ยังฝืนถ่ายต่อไป เพราะถ้าอยู่นิ่งเมื่อไหร่คงต้องยืนหลับแน่
ทิโวลี่คือสวนสนุกที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของโลก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 (ตรงกับช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ของไทย)
มันตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟเซ็นทรัลสเตชั่น เดินออกมาแค่แป๊บเดียว เราก็ประจันหน้ากับสวนสนุกคู่เมืองโคเปนเฮเกนแบบเต็มๆ มองจากภายนอก มันเป็นสวนสนุกที่หน้าตาเหมือนสวนสนุกทั่วไป ไม่ได้ดูคร่ำครึผุพังเหมือนที่คิดเอาไว้
ในขณะที่เรากำลังรอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง อยู่ๆ ภายในทิโวลี่มีการจุดดอกไม้ไฟแสงสีเสียงตระการตา ทุกคนฮือฮาตื่นเต้น ผมไม่รอช้ารีบคว้ากล้องและเตรียมกางขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูป
แต่เอ๊ะ! ทำไมรู้สึกโล่งๆ ผมจับที่ไหล่ขวาและไหล่ซ้ายของตัวเอง ขาตั้งกล้องหายไป พระเจ้า! นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เมื่อกี้มันยังพาดอยู่บนไหล่ของผมเลย ผมปลดสัมภาระทุกอย่างลงจากหลังทันทีเพื่อเช็กอีกรอบ แต่ก็ไม่มีขาตั้งกล้อง
ประสาทสัมผัสทั้งห้าของผมถูกปลุกให้ตื่นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตอนนี้ผมไม่ได้ยินเสียงพลุ หรือเสียงใดๆ รอบตัว นี่คือความตื่นเต้นสุดๆ ครั้งแรก นับตั้งแต่ผมก้าวเท้าออกจากประเทศไทย
ไม่ได้โอเวอร์ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน ข้ามเส้นลองจิจูด จนมาเหยียบโคเปนเฮเกน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระรัวถี่ถึงระดับ 150 ครั้งต่อนาที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in