ประเภท : ภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก
ฟรีเเลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอฟังๆดูเเล้วก็ดูจะเป็นหนังที่ธรรมด๊าธรรมดา เเต่เดี๋ยวก่อนครับถ้าคิดแบบนั้นขอให้คิดใหม่ก่อน จากที่หลายๆคนคงดู teaser ไปเเล้วหลายๆคนคงคิดในใจว่ามันเป็นหนังรักซึ่งทาง ผกก เต๋อ นวพล ก็ทำสำเร็จในการที่ให้คนดูคิดอย่างนั้นว่ามันเป็นหนังในเเบบฉบับที่ GTH เคยเป็นหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ ฟรีเเลนซ์ คนนึงที่บ้างานเเบบสุดๆ นวพลเล่าออกมาในอีกมุมมองนึง ของคนบ้างาน ซึ่งตัวเค้าเองก็เป็น เอาล่ะเกริ่นมาซะยาว ไปฟังเรื่องย่อเลยดีกว่า
เรื่องย่อ : ยุ่น ชายวัย 30 คือฟรีแลนซ์มือรีทัชรูปที่งานยุ่งที่สุดในประเทศไทย ความสุขของฟรีแลนซ์อย่างยุ่น นอกจากการได้เห็นงานเต็มปฏิทิน ไม่เว้นวัน เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการแล้ว ก็คืองานเร่งงานด่วน งานที่ลูกค้าแก้ไม่รู้จบ มันเป็นความท้าทายที่นักรบมืออาชีพแบบเขาต้องทำให้ได้โดยไม่มัวไปเสียเวลาด่าลูกค้า จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
เจ๋ โปรดิวเซอร์รุ่นน้องจากเอเจนซี่โฆษณาถึงจ่ายงานให้เขาทำอย่างสม่ำเสมอ จนเต็มปฏิทินล่วงหน้าไปหลายเดือน ทุกครั้งที่เจ๋โทร.มา ยุ่นจะรู้ว่า ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหรือไม่ แต่มีลูกค้าอยู่รายหนึ่งที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ นั่นคือ ร่างกายของเขาเอง หลังจากผ่านการอดนอน 5 คืนติดเพื่อทำงานชิ้นหนึ่ง ยุ่นเริ่มมีผื่นแดงๆขึ้นตามตัว ร่างกายบังคับให้เขาไปโรงพยาบาลเขาไม่อยากไปเลยเพราะเสียเวลาทำงาน ร่างกายเลยแจกผื่นให้ลามใส่ตัวเขามากขึ้นแม-ร่งเลย เขาจึงต้องเดินทางไปโรงพยาบาลรัฐ(ด้วยความงก ก็ฟรีแลนซ์ต้องรู้จักเซฟเงินเพื่ออนาคตที่ไม่มั่นคง) ที่นั่นเขาได้เจอกับลูกค้าอีกคน คือ
หมออิม หมออิมก็เหมือนหมอโรงพยาบาลรัฐทั่วไปที่ยุ่งจนหัวฟู แต่ที่ไม่เหมือนหมอคนอื่นๆคือ เธออายุพอๆกับยุ่นและยุ่นรู้สึกดีกับเธอจนถึงขั้นเขิน การพบกันในแต่ละเดือนของยุ่นและหมออิม เปรียบเสมือนการออกเดทที่ทั้งคู่มีเวลาพบกันเพียงแค่ 15 นาทีตามเวลาตรวจ (เนื่องจากโรงพยาบาลรัฐ คนไข้เยอะ) ยุ่นต้องรออีก 30 วัน กว่าที่จะได้เจอหมอครั้งต่อไปและวันนัดก็ต้องรอคิวหน้าห้องตรวจอีก 3 ชั่วโมง (เนื่องจากคนไข้เยอะอีกเช่นกัน) .. ตั้งแต่ไปหาหมออิม ยุ่นก็รู้สึกว่าตัวเองทำงานช้าลงอย่างไม่มีเหตุผล เจ๋ต้องตามมากระชากงานจากเขาบ่อยขึ้นยุ่นไม่รู้เป็นเพราะอะไร การทำงานช้าลงนี่เป็นอาการข้างเคียงของอะไรหรือเปล่า..และการคิดถึงใครสักคนระหว่างทำงานนี่เป็นโรคที่รักษาให้หายได้หรือไม่
การวิเคราะห์วิจารณ์
เต๋อ เล่ามุมมองของอาชีพ อาชีพนึงออกมาในมุมมองที่ไม่เหมือนคนทั่วไปมองเเละยังมีมุมกล้องเฉพาะตัวที่ เต๋อ เป็นคนกำกับเองอีกด้วย ในความรู้สึกของคนทั่วไปอาจจะดูเบื่อๆไปซะหน่อยกับการเล่าเรื่องที่ไปเรื่อยๆตามมสไตล์ เพราะว่าคนดูอาจจะคาดหวังกับ teaser ที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามันจะต้องเป็นหนังตามสไตล์หนัง GTH Feel Good เเต่ผิดคาดเลยที่หนังออกมาในโทนที่มันข้อนข้างจะดูเป็น Real life
มุมกล้อง
ข้อนข้างจะมี Long Take ตลอดทั้งเรื่องเนื่องด้วยทาง เต๋อ เองอยากจะให้มันออกมาดู Real ที่สุด หรืออีกหนึ่งกระเเสคือช่วงนั้น ภาพยนตร์เรื่อง Bird Man ที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายทำที่ใช้เทคนิค Long Take ตลอดทั้งเรื่อง(ย้ำ) เป็นอีกเเรงบรรดาลใจที่ เต๋อ จะหยิบเทคนิคนั้นมาใช้กับหนังตัวเองบ้าง เเต่ในคนที่เสพเอาสนุก เอาบันเทิง นั้นข้อนข้างจะน่าเบื่อในบางจังหวะที่หนังกำลังเล่า
ตัวละคร :
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ รับบท ยุ่น (อัศนัย ศรีศิริ) : ซันนี่เป็นนักแสดงที่รับบทอะไรก็สามารถเข้าถึงบทนั้นได้ดีมีความเป็นมืออาชีพสูง การแสดงของเขาทำให้ทุกคนอินและเข้าถึงตัวละคร มีการแสดงที่เป็นธรรมชาติ
ดาวิกา โฮร์เน่ รับบท อิม (แพทย์หญิงชนนิกานต์ กระจ่างศรัณย์) : ใหม่เป็นนักแสดงซึ่งพึ่งเคยเห็นมารับบทบาทเป็นหมออย่างในเรื่อง ซึ่งบทพูดก็น้อยมากแต่มีการแสดงที่ดีเชื่อว่าเป็นหมอจริงๆ
วิโอเลต วอเทียร์ รับบท เจ๋ : วีเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง มีการเล่นในสไตล์ของเขาเอง ธรรมชาติ คำพูดตรงๆทื่อๆ
เรื่องนี้ให้คะแนน 8.5/10
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in