What kind of passion do you have?
เวลาที่เราเลือกทำงานก็มักจะอยากทำงานที่เรารักงานที่ทำให้มีความสุขหรือบางคนที่กำลังเบื่องานที่ทำและอยากออกไปทำตามความฝันได้ทำสิ่งที่ใช่งานที่ตัวเองรักเรามักจะมองคนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและอยากจะได้ทำสิ่งที่อยากทำแบบนั้นบ้าง
สิ่งเหล่านี้เรียกว่า Passion Mindset คือเป็นวิธีการมองและคิดว่า“งานที่เราทำ เราชอบหรือเปล่า? งานนี้ทำให้ฉันมีความสุขมั้ย?”ถ้าไม่ใช่ก็พร้อมจะเปลี่ยนงานใหม่ Followmy passion เพื่อให้ตรงกับทัศนคติและวิถีที่ใช่แนวทางที่ชอบแต่การที่มี Passion Mindset ในการทำงานมากๆเข้าอาจจะส่งผลเสียได้ว่าเราต้องเปลี่ยนงานบ่อยเพราะไม่อาจทนต่อสิ่งที่เราไม่ชอบได้ทำให้การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆขาดหายไป
การทำงานยังมีรูปแบบวิธีคิดอีกอย่างคือ Craftman Mindset ซึ่งเป็นวิธีคิดในการทำงานว่า“เราจะทำงานนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไรเราจะสร้างคุณค่าอะไรกับงานนี้ได้บ้างถ้าฉันเชี่ยวชาญเรื่องนี้มากขึ้นฉันจะทำสิ่งนี้เสร็จเร็วกว่านี้อีก” Cal Newport ผู้ทำวิจัยเรื่องแนวคิดในการทำงานได้อธิบายในหนังสือ “SoGood They Can’t Ignore You” ไว้ว่าคนที่มีแนวคิดแบบนี้แม้เขาไม่ได้ชอบงานที่ทำตั้งแต่แรกแต่เขาจะพัฒนาตัวเองให้มีคุณค่ากับงานอยู่เสมอจนในที่สุดกลายเป็นคนที่มีทักษะในด้านนั้นและทำได้ดีจนทำให้เขามีความสุขกับสิ่งที่ทำในที่สุด
จากที่เขียนไม่ได้จะบอกว่าให้เลิกตามฝันเลิกมี PassionMindset นะคะแต่ในบางครั้งเราอาจจะต้องไม่ปล่อยให้ความไม่ชอบมาทำร้ายศักยภาพในการเรียนรู้หรือพัฒนาทักษะใหม่ๆของเราได้เคยได้ยินผู้ใหญ่หลายท่านบอกว่าแม้ได้ทำงานที่เราชอบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราชอบทุกอยากของการทำงานฉะนั้นการที่เราได้เริ่มต้นการทำงานด้วย PassionMindset เราก็สามารถสร้าง Craftman Mindset มาพัฒนาทักษะในส่วนที่เรายังทำไม่ได้ดีหรือไม่ชอบให้ดีขึ้นได้ค่ะหรือหากตอนนี้งานที่ทำอยู่ยังไม่ใช่งานที่ใช้เราก็ถือโอกาสนี้พัฒนาทักษะเพิ่มเติมตามCraftmanMindset เพื่อวันหนึ่งข้างหน้าจะออกไป Follow my passion ได้ด้วยศักยภาพที่มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ทีนี้มาพูดถึงคำศัพท์กันบ้าง
คำว่าPassion(แพชชั่น) มีรากศัพท์มากจากภาษาละตินว่า Pati ซึ่งหมายถึงTo suffer, pain ความเจ็บปวดความทุกข์
บางบริบทก็มีการใช้คำนี้ก็ใช้ในทางแนวที่ว่าความเจ็บปวดความทุกข์ทำให้เกิดแรงผลักดันให้เราทำบางอย่างหรือต้องการบางอย่าง(ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหรเลยแหะๆ)หรือในบริบทที่ทันสมัยขึ้นเรามักใช้คำนี้ในการสื่อถึงความหลงใหลคลั่งไคล้หรือสิ่งที่ชอบที่จะทำมากๆเราใช้คำนี้กับสิ่งที่เราชอบหรือแม้กระทั่งใช้บ่งบอกความรู้สึกคลั่งไคล้เสน่หาต่อคนที่เรารักได้เช่นกันค่ะ เช่น
"Her strong passion for Classic music began with the love of her father’s music"
"ความหลงใหลในดนตรีคลาสติกของเธอเริ่มต้นมาจากความรักในดนตรีของพ่อของเธอ"
"There was no more passion between them"
"ไม่มีความรักใคร่หลงไหล่ในตัวพวกเขาแล้ว"
อีกคำที่มีPassionอยุ่ในศัพท์แต่ไม่มีความหมายเกี่ยวข้องกอะไรกับที่เล่าข้างต้นเลยคือ PassionFruit หรือ เสาวรส ผลไม้หน้าร้อนของโปรดของหลายๆคนค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in