เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryJohn Machete
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน ศึกตะวันแดง Ep.2
  • พอรุ่งเช้า ผมกับฟลุ๊คสะดุ้งตื่นมาอีกทีทั้งสัมภาระและอาวุธปืนหายหมด หายไปพร้อมกับสองสาวเมย์กับติ้งด้วยพอฟลุ๊ครู้เข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เราสองคนต้องพกอาวุธติดมือไปอย่างมีดกับขวานแทน

    ฟลุ๊ค : ถ้ากูได้เจอแม่สองสาวนั่นกูจะฆ่าแม่งให้หมดเลย กูจะเชือดให้เหมือนไก่ถูกเชือดเลย ฮือ กูจะฆ่ามัน !

    ผมต้องทนฟังไอ้ฟลุ๊คมันบ่นตลอดทางจนกระทั่งไปเห็นหญิงชรามานั่งกลางถนนตะโกนขอความช่วยเหลือ ดูเหมือนเธอบาดเจ็บอยู่ผมเลยไม่รอช้า

    ยาย : ช่วยด้วย...ย...ย

    ตี๋ : ยาย เป็นอะไรมั้ย เจ็บขาเหรอ

    ยาย : ยายเจ็บขา เดินสะดุดเศษก้อนคอนกรีตเจ็บเหลือเกิน

    ฟลุ๊ค : ไอ้ตี๋ มึงระวังนะ ท่าทางไม่ดีเลย

    ยาย : เจ็บขามากเลยไอ้ลูกชาย โอ๊ย......

    ตี๋ : ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ยายแกนอนโอดครวญอยู่ตรงนี้ทั้งคน


    สักพักก็มีชายฉกรรจ์ 5 คนพร้อมมีดมาเชเต้คนละเล่ม เดินปรี่มาปล้นอาวุธปืน

    " กูเชื่อว่ามึงมีปืน แต่ไม่ทันเอาออกมาใช้ตอนนี้กูขอดีๆละกัน อย่าให้มีเรื่องเลย "

    ฟลุ๊ค : กูบอกมึงดีๆเหมือนกัน มึงเห็นมั้ยกูเดินตัวเปล่า ไม่มีสัมภาระ รอบเอวกูก็ไม่มีปืนเหน็บ กูตัวเปล่ามีเพียงแค่ขวานกับมีดทำครัว มึงจะเอาอะไรนักวะ

    "กูไม่เชื่อ มึงกล้าตุกติกกูเหรอ มึงเห็นกูโง่นักรึไง"

    ฟลุ๊ค : ตุกติกพ่อมึงสิ ถึงขนาดนี้แล้วโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่คนดีๆกลับต้องมาฆ่ากันเอง

    ตี๋ : ฟลุ๊ค มึงจะเอายังไง ?

    ฟลุ๊ค : ถามทำไม ? กลัวเหรอ?

    ตี๋ : ก็...เปล่า แค่ถามดู

     

    เมื่อพวกมันเริ่มเหวี่ยงใบมีดฟลุ๊คก็เอี้ยวตัวหลบพร้อมสวนด้วยหมัดชกเข้าไปเต็มแรงจนมันล้มตัวสลบปล่อยมีดลงพื้น ฟลุ๊คใช้เท้าเขี่ยมีดลอยขึ้นฟ้าแล้วคว้าด้วยมือ ยกมีดคอยปัดป้องต่อสู้กับอันธพาลที่เหลือ 

    ส่วนตี๋คอยวิ่งไปพลางเขวี้ยงของหนักไปพลาง ตี๋สู้ไม่เป็นกลัวจะเสียท่าเอาง่ายๆ สุดท้ายอะดรีนาลีนของตี๋ก็ไม่เพียงพอในการพาหนีพ้นจากพวกมัน มันตามมาทัน ตี๋ต้องคว้าไม้หน้าสามแสนสกปรกออกมาต่อกรกับพวกมัน เมื่อสู้ไปได้สักพักก็เข้าไปหลบซ่อนตัวในโกดังมืด พวกมันยังไม่ลดละความพยายามยังคงวิ่งตามต่อไป

    ฟลุ๊คสามารถจัดการกับพวกอันธพาลได้หมด พวกมันตายเกลี้ยงเหลือยายเพียงคนเดียว

    ยาย : อย่า ! อย่าฆ่ายายเลย ยายแก่แล้วนะเมตตาด้วย

    ฟลุ๊ค : ไอ้บ้า หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้มึงยังหลอกกูได้ มึงเล่นเอาถึงตายเลยนะสัส ดูสิเพื่อนใหม่กูถูกฆ่าตายไปแล้วมั้ง บักห่ามึงเอ๊ย

    ยาย : อย่าทำยายเลยนะ อย่าทำยาย ยายมีของดีๆนะ ของที่หามาได้ยายจะยกให้เอ็งหมดเลยนะ ขอแค่ปล่อยยายไปเถอะ ฮือ..อ

    ฟลุ๊ค : ของดีที่ว่าคือ ?

    ยาย : อาหาร ของใช้ ผู้หญิงอีก 2 คน

    ฟลุ๊ค : อะไรนะ ยายมีเก็บเหยื่อเอาไว้ด้วย

    ยาย : เอ็งจะปู้ยี้ปู้ยำมันยังไงก็ได้แต่ปล่อยยายไปเถอะนะ.... นะ นะ นะ

     

    ฟลุ๊คชกหน้ายายสลบนิ่งไปด้วยหมัดเดียวแล้วจับผูกร่างยายห้อยระโยงระยางไว้เป็นเหยื่อซอมบี้

     

    ฟลุ๊ค :ซอมบี้มันกินเท่าไหร่มันก็ยักไม่เคยอิ่ม เหมือนยายกับผมเลย เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ

     

    เมื่อฟลุ๊คเข้าไปในแหล่งเก็บทรัพย์ของยายก็มีอาหารเสบียงหลายอย่างหนึ่งในนั้นที่เขาต้องตกใจ 

    ผู้หญิงสองคนนั่นคือเมย์กับติ้งนั่นเอง

    ฟลุ๊ครีบไปปลดพันธนาการและซักถามเรื่องที่เกิดขึ้นทันที

    ฟลุ๊ค : กรรมตามสนองล่ะสิแล้วนี่ถูกมันจับมาได้ยังไง

    เมย์ : ก็ทีแรกเห็นยายทำท่าจะเป็นจะตาย พอเราไปช่วยเลยกลายเป็นแบบนี้เลย

    ติ้ง : ดีนะ เราสองคนยังไม่ถูกข่มขื่น ถ้าฟลุ๊คสนใจเค้า เค้ายังซิงอยู่นะ

    ฟลุ๊ค : จะรู้ได้ไงว่าซิง เห็นอ่อยใครต่อใครไปทั่ว เอาเถอะ เรารีบหนีกันก่อน

    เมย์ : แล้วตี๋ล่ะ ?

    ฟลุ๊ค : โดนคนดีๆพวกนั้นกระทืบตายไปแล้วมั้งเห็นวิ่งหนีหางจุกตูดอยู่นู่นแน่ะ

    ติ้ง : ว้า จริงอ่า เสียดายจังหน้าตี๋ๆแบบนั้นหายากเสียด้วย

    เมย์ : เป็นความจริงเหรอ เห็นศพเค้ามั้ย ?

    ฟลุ๊ค : ไม่ เราวิ่งกันไปคนละทาง ความผิดของมันเองนะ มันแม่งวิ่งเข้าช่วยยายก่อนเลย มันยังอ่อนต่อโลกก็แบบนี้แหละ

    ติ้ง : เมย์ชอบตี๋อะดิ เค้าฟังดูก็รู้

    เมย์ : บ้าเหรอ เปล่าซะหน่อย

     

    " วิ่ง วิ่ง วิ่ง "เสียงตะโกนเรียกดังมาแต่ไกล

    เมย์ : นั่นตี๋นี่

    ตี๋ : วิ่ง ! พวกมึงวิ่งหนีสิโว้ย !

    ฟลุ๊ค : ชิบหายแล้ว ซอมบี้ !

    ทุกคนรีบวิ่งหนีในขณะที่ฝูงซอมบี้วิ่งไล่จี้ตามมาติดๆเป็นความระทึกชนิดที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้วพวกเราทั้งหมดไม่มีทางหนีเลยตัดสินใจกระโดดลงคลองเพื่อปีนขึ้นเรือ ยกเว้นผม

    เมย์ : ตี๋ โดดเร็ว

    ตี๋ : เค้าว่ายน้ำไม่เป็นน่ะ

    ฟลุ๊ค : ไม่ยาก

    ฟลุ๊คถีบผมตกลงคลอง ผมว่ายตะกุยตะกาย พาร่างตัวเองลอยขึ้นเหนือน้ำด้วยความตื่นกลัว ทั้งกลัวจมน้ำตาย และกลัวถูกซอมบี้กัดกลายเป็นเหมือนพวกมัน 

    พวกเราสี่คนขึ้นเรือได้สำเร็จ พ้นจากพวกซอมบี้เราทุกคนล่องเรือพเนจรท่ามกลางน่านน้ำไร้จุดหมาย

    ฟลุ๊ค : บักห่าเอ๊ย เกือบตายไปแล้วนะมึงน่ะ

    ตี๋ : ผมไม่ได้ขอให้คุณมาช่วย

    ฟลุ๊ค : ที่จริงมึงควรจะตายไปแล้วที่อยู่รอดมาจนถึงวันนี้ได้เพราะโชคทั้งนั้น

    ตี๋ : ช่างมันสิ ผมดูแลตัวเองได้

    ฟลุ๊ค : ให้มันจริงอย่างที่ปากพูดเถอะ อย่างมึงคงไม่ได้ไปหาเพื่อนอย่างที่หวังไว้หรอก เผลอๆมึงอาจตายตามเพื่อนมึงไปจริงๆแล้วก็ได้

    ติ้ง : โอย ทะเลาะกันอีกแล้วสองคนนี้เป็นผัวเมียกันรึไง น่ารำคาญ

     

    พอฟลุ๊คได้ยินเข้าก็ยิ่งฉุนหนักเข้าไปอีกจึงเดินอยู่เพียงลำพังที่หน้าเรือ ส่วนผมเก็บตัวเงียบให้หายอายอยู่ห้องใต้เรือ

    เมย์ : มาทำอะไรเงียบๆอยู่คนเดียวละเนี่ย

    ตี๋ : มาทำอะไรเนี่ยเมย์ ข้างล่างนี่มืดจะตาย

    เมย์ : ก็เพราะอย่างนั้นไงเค้าถึงตามมาดู..เป็นอะไร เพราะทะเลาะกับฟลุ๊คมาน่ะเหรอ

    ตี๋ : เปล่า

    เมย์ : ข้างบนเจอศพลอยเต็มท้องน้ำเหม็นแย่เลยมาเปลี่ยนบรรยากาศมาตรงนี้แทนน่ะ

    ตี๋ : เมย์กับเพื่อนแกตั้งใจจะไปไหนละเนี่ย

    เมย์ : ทีแรกก็ไม่ได้คิดจะไปไหนหรอก แค่แอบอยู่ห้องใต้ดินไปวันๆพอพวกแกมาเลยอยู่ไม่ได้ พวกซอมบี้มันได้กลิ่นเรานะ ถ้ามีคนนอกเข้ามาก็คือจบ

    ตี๋ : นั่นคือข้ออ้างที่แอบขโมยปืนจากเราไปรึเปล่า ?

    เมย์ : หึหึ ก็ไม่เชิงนะ โดยหลักการแล้วเราก็ต้องคอยเปลี่ยนที่ซ่อนไปเรื่อยๆนั่นแหละ ได้ข่าวว่าแกกำลังตามหาเพื่อนอยู่

    ตี๋ : ใช่

    เมย์ :เค้ามั่นใจว่าเพื่อนคนนั้นต้องสำคัญกับแกมากๆเลย

    ตี๋ : เรื่องมันนานมากแล้วเค้าอาจจะลืมผมไปแล้วก็ได้

    เมย์ : คนเคยเป็นอะไรกันไม่มีทางลืมได้ลงหรอก

    ตี๋ : เดี๋ยวๆผมกับเพื่อนยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย จริงๆแล้วผมรู้จักกับเขาแบบห่างๆน่ะ ผมก็แค่อยากรู้ความเป็นไปของเค้าในเวลานี้ต่างคนต่างเป็นผีดิบกันเกือบหมด ขอแค่ได้เจอคนเป็นๆ แค่นั้นก็ยังดี

    เมย์ : อ้าว .....อย่างนั้นหรอกเหรอ ? แล้วถ้าหากนิเป็นซอมบี้ขึ้นมาล่ะ

    ตี๋ : ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็ถือว่าพยายามออกตามหาแล้ว

    เมย์ : มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าจะไปตามทางของเราเองทางที่เราอยากจะไปจริงๆน่ะ

    จู่ๆเสียงติ้งตะโกนเรียกมาแต่ไกลๆจนตี๋กับเมย์ต้องขึ้นดาดฟ้าเรือออกมาดู

    เมย์ : มีเรื่องอะไรกัน ?

    ติ้ง : ก็ไอ้ฟลุ๊คน่ะสิ เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้มันบอกจะเข้าไปในโรงพยาบาลให้ได้

    ตี๋ : ทำไม ?

    ฟลุ๊ค : ในนั้นมันมียาแก้เว้ย เกิดมึงโดนซอมบี้กัดขึ้นมาจะเอายาแก้มาจากไหนเราต้องลองเสี่ยงดู ถึงในโรงพยาบาลมันจะมีซอมบี้ชุกอยู่ก็ตาม ถ้ากลัวกันนักเราแยกทางกันตรงนี้เลยก็ได้

    เมย์ : ยาที่แก้จากอาการซอมบี้ให้กลับมาเป็นคนน่ะเหรอ มันยังทดลองไม่สำเร็จเลยนี่

    ติ้ง : ช่างเถอะ มันอยากจะไปก็ให้มันไป เราก็แค่เสียคนเป็นเพิ่มไปอีกหนึ่งคนเท่านั้นเอง

    ตี๋ : ผมก็อยากลองลุ้นนะว่าจะเจอยาที่ว่ารึเปล่า

    เมย์ : ตี๋ อย่าไปเลย มันอันตราย

     

    ยิ่งห้าม มันก็เหมือนถูกมองว่าผมเป็นคนด้อยความสามารถเลยต้องยิ่งพิสูจน์ฝีมือผมเลยตอบเมย์กลับไปว่า

    ตี๋ : อย่าห่วงเลยเมย์ ผมดูแลตัวเองได้

    ติ้ง : ไอ้บ้าเอ๊ย ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าเมย์แอบชอบมึงอยู่น่ะ ซื่อบื้อจริงๆเลย

    เมย์ : ไอ้ติ้ง พูดแบบนั้นได้ยังไง ?

    ติ้ง : อะไรกัน สวยๆแบบแกผู้ชายชอบเยอะแยะจะตายไป มีมันนั่นแหละที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงเขาแอบชอบอยู่ ยังจะกลัวอกหักอะไรอีก ไอ้ตี๋รีบกลับขึ้นเรือเร็ว

    ตี๋ : ลาก่อน

    ฟลุ๊ค : .........................

     

    ฟลุ๊คกับตี๋กระโดดออกจากตัวเรือขึ้นฝั่งย่านวังหลังทิ้งให้ติ้งกับเมย์ออกเรือแยกทางกัน

    ฟลุ๊ค : มึงไม่ได้ต้องการยาแก้ซอมบี้หรอกบอกกูมา มึงต้องการอะไร

    ตี๋ : ตามหาแฟนนิ เขาเป็นหมอทำงานอยู่ที่นี่ กูมาสืบร่องรอยของเขา และถ้าได้ยามาด้วยก็จะดีมาก

    ฟลุ๊ค : ไอ้เช็ดเข้ นิมีแฟนแล้วด้วยแต่มึงเสือกตัดใจจากเขาไม่ได้ ไอ้ฉิบหาย ถ้าเขายังไม่ถูกซอมบี้กัดก็นอนกกอยู่กับผัวแล้ว มึงจะตามหาเขาไปทำไมกันวะ ?

    ตี๋ : เออ ความสุขกู

    ฟลุ๊ค : แย่งแฟนคนอื่นน่ะ มันไม่ใช่ความสุขของใครหรอก

    ตี๋ : แล้วทำไมมึงถึงอยากตามหายาแก้ที่ว่านั่นเหลือเกิน

    ฟลุ๊ค : แฟนกูถูกกัดเชื้อผีดิบเข้าสู่กระแสเลือด แฟนกูกลายเป็นซอมบี้ในเวลาไม่นาน กูฆ่าซอมบี้ทุกตัวที่บุกเข้าบ้านกูในวันนั้นยกเว้นแฟนกูเอง กูจับเธอขังไว้ในห้องน้ำเก่า ก็เกือบถูกกัดแล้วเหมือนกัน   เธอทรมานมากร้องหิวโหยอยู่ตลอดวันตลอดคืน คิดอยู่ในใจว่าต้องไม่ให้เธอหลุดออกมาได้ จนกว่ากูจะเอายาแก้ไปรักษาได้ทัน นับแต่นั้นมากูก็เกลียดซอมบี้หมดทุกตัว

    ตี๋ : หืม

    ฟลุ๊ค : ชีวิตนี้มันสั้นเมย์แอบชอบมึงอยู่จริงๆนะ เขาก็สวยจริงๆนั่นแหละแต่มึงคงไม่ชอบเขา เพราะเขาดูกระแดะไปหน่อย แต่สำหรับนิคงมีความหมายกับมึงมากกว่า  กูคงพูดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว  เอาเถอะมึงเป็นคนเลือก และมึงก็เลือกแล้ว

     

    เราสองคนเข้าไปในโรงพยาบาลได้สำเร็จยังไม่วี่แววของซอมบี้แต่อย่างใด

    สิ่งที่ผมได้พบเจอในวันนั้นคือรูปแฟนของนิตั้งอยู่บนโต๊ะตรวจคนไข้ สันนิษฐานได้เลยว่านั่นเป็นโต๊ะทำงานของเขาเอง เป็นภาพถ่ายคู่กับนิ นิยิ้มแย้มอย่างปีติสุข เห็นแล้วผมก็อดยิ้มตามไม่ได้ แต่ลึกๆในใจก็เศร้าที่ผมไม่ได้เธอมาอยู่ในอ้อมแขนเสียเอง ผมแกะกรอบออก เก็บไว้แค่รูปเพียงอย่างเดียว

    ส่วนไอ้ฟลุ๊คก็กวาดสายตามองหายาที่ว่า อาคารภายในยังสะอาดดีแต่ก็ยังวางใจไม่ได้ แต่งานนี้ดูเหมือนฟลุ๊คจะคิดถูก ผมสังหรณ์ใจอย่างนั้น ยาตัวนี้ปรากฎอยู่ในแผนกวัคซีน มันเป็นยาฉีด และมันมีจำนวนจำกัด

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in