ณ จุดชมวิวบนภูเขา Radar Mountain ในจังหวัดหนึ่งที่ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยงามและสายลมเย็นสบาย“โรม” ชายหนุ่มวัย 24 ปี ยืนอยู่คนเดียว เขามาที่นี่บ่อยครั้งเพื่อพักใจหลังจากผิดหวังกับความรักช่วงเวลานี้เป็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีและแสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
โรมสูดลมหายใจลึกและถอนหายใจออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก"ไม่เหลือใครเลยเว้ย ถ้าผีมีจริงช่วยโผล่ออกมาคุยกันหน่อยสิ!!
“ฉิบหายแล้วกู” เขานึกในใจ
ด้วยนิสัยส่วนตัวของโรมที่เป็นคนกวนๆและไม่ค่อยกลัวผีอยู่แล้วและบวกกับงานอดิเรกในช่วงวัยรุ่นโรมจะชอบไปสถานที่น่ากลัวเพื่อพิสูจน์เรื่องลี้ลับกับเพื่อนแต่นี้เป็นครั้งแรกที่โรมสัมผัสได้ถึงสิ่งปริศนา ที่ชวนขนลุก
เสียงหัวเราะยังคงดังต่อไป โรมเริ่มมีเหงื่อออกและตะโกนขึ้น"อย่ามัวแต่หัวเราะ โผล่หน้าออกมาเลยนังผี!!"
ยิ่งโรมท้าทายเสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้นในป่ากึกก้องไปทั่วทิศลมที่แรงเสียสีดกับใบไม้ ทำให้โรมเริ่มใจคอไม่ดียิ่งขึ้น
ด้วยสัญชาติญาณความกลัว โรมจึงหลับตาท่องบทสวนมนต์ด้วยความกลัว
“ ฉิบหายแล้วลืมบทสวด เอาไงๆดีปากกูไม่ดีจริงๆ พ่อแก้วแม่แก้วลูกขอโทษครับบบ
ทุกอย่างกลับมาสงบอีกครั้ง บรรยากาศดูนิ่งเงียบโรมเริ่มลืมตาอย่างช้าๆ
แต่ทันใดนั้นสิ่งที่โรมเห็นทำให้โรมตกใจเป็นอย่างมาก
ซิกยิ้ม “แน่นอนสิ ฉันคือผีจริงๆ นายเรียกเรามาเองไม่ใช่หรือไง”
โรมยืนเงียบอยู่ชั่วขณะ พลางพยายามคิดหาคำตอบ“แล้ว...แล้วแกจะมาทำอะไรฉันนน?”
ซิกหัวเราะ “ฉันไม่ได้จะทำอะไรนาย ฉันแค่รู้สึกสนใจที่นายเรียกฉันมานะ นายดูเหงาๆ นะ”
“แต่ถึงยังไงฉันก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์หรอกฉันอยู่ที่นี่มานานมาก และไม่เคยมีใครเห็นฉันเลย นายคือคนแรก”
โรมเริ่มมีสติและเริ่มนั่งคุยกับผีผู้หญิงบนภูเขาท่ามกลางดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า"ฉันชื่อโรม แล้วเธอล่ะชื่ออะไร?"
ผีสาวยิ้มและตอบ "ฉันชื่อซิกเคยพลัดตกเขาที่นี่เลยยังไปเกิดไม่ได้เพราะยังไม่ถึงคราวตาย"
โรมไม่ได้รู้สึกกลัวซิกเลย เพราะเธอดูไม่น่ากลัว"แล้วเธอหิวไหม? ปกติกินอะไรล่ะ?"
ซิกหัวเราะเบาๆ "ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่บางทีก็มีคนแผ่ส่วนบุญมาให้ ก็เลยไม่ค่อยหิวหรือไม่บุญเราอาจจะมีเยอะอยู่แล้วเลยทำให้เราไม่ค่อยหิว"
โรมมองซิกด้วยความเห็นใจ "แล้วเธอทำอะไรที่นี่ล่ะ?"
ซิกหัวเราะเบาๆ "บางทีเราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้นะนายดูไม่กลัวฉันเลย"
โรมยิ้ม "ก็แปลกดีนะที่ได้คุยกับผีแต่เธอดูไม่ได้น่ากลัวเลย แต่อย่ามาแบบน่ากลัวนะขอร้องละ"
ซิกหัวเราะเสียงใส "ได้สิฉันก็ไม่คิดจะทำให้ากลัวหรอก"
ในขณะที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า โรมและซิกนั่งคุยกันต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าการพบกันในวันนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาทั้งสองไปตลอดกาล
โรมและซิกเริ่มต้นการสนทนาในยามค่ำคืนเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของโรมและการเป็นวิญญาณของซิกความรู้สึกอบอุ่นและเข้าใจที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองเริ่มก่อตัวเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น แม้ว่าพวกเขาจะมาจากโลกที่แตกต่างกันแต่ความเหงาและความต้องการมีเพื่อนทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างมนุษย์และวิญญาณซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่การค้นพบความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่และความรักที่ไร้ขีดจำกัด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in