เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Radar mountain nightKaweesiri Tarabphet
Radar Mountain
  • ตอนที่ 1: การพบกันที่ไม่คาดฝัน

    ณ จุดชมวิวบนภูเขา Radar Mountain ในจังหวัดหนึ่งที่ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยงามและสายลมเย็นสบาย“โรม” ชายหนุ่มวัย 24 ปี ยืนอยู่คนเดียว เขามาที่นี่บ่อยครั้งเพื่อพักใจหลังจากผิดหวังกับความรักช่วงเวลานี้เป็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีและแสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

    โรมสูดลมหายใจลึกและถอนหายใจออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก"ไม่เหลือใครเลยเว้ย ถ้าผีมีจริงช่วยโผล่ออกมาคุยกันหน่อยสิ!!" เขาพูดออกมาด้วยความเศร้าและประชดชีวิต
    ทันใดนั้น เสียงหัวเราะหวานๆ ที่เหมือนกับเสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นสายลมพัดแรงขึ้น โรมตกใจและรู้สึกเสียวสันหลัง 
    “ฉิบหายแล้วกู” เขานึกในใจ
    ด้วยนิสัยส่วนตัวของโรมที่เป็นคนกวนๆและไม่ค่อยกลัวผีอยู่แล้วและบวกกับงานอดิเรกในช่วงวัยรุ่นโรมจะชอบไปสถานที่น่ากลัวเพื่อพิสูจน์เรื่องลี้ลับกับเพื่อนแต่นี้เป็นครั้งแรกที่โรมสัมผัสได้ถึงสิ่งปริศนา ที่ชวนขนลุก
    เสียงหัวเราะยังคงดังต่อไป โรมเริ่มมีเหงื่อออกและตะโกนขึ้น"อย่ามัวแต่หัวเราะ โผล่หน้าออกมาเลยนังผี!!"
    ยิ่งโรมท้าทายเสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้นในป่ากึกก้องไปทั่วทิศลมที่แรงเสียสีดกับใบไม้ ทำให้โรมเริ่มใจคอไม่ดียิ่งขึ้น
    ด้วยสัญชาติญาณความกลัว โรมจึงหลับตาท่องบทสวนมนต์ด้วยความกลัว
    ฉิบหายแล้วลืมบทสวด เอาไงๆดีปากกูไม่ดีจริงๆ พ่อแก้วแม่แก้วลูกขอโทษครับบบ ไม่ทำแล้วครับบบบบ
    ทุกอย่างกลับมาสงบอีกครั้ง บรรยากาศดูนิ่งเงียบโรมเริ่มลืมตาอย่างช้าๆ
    แต่ทันใดนั้นสิ่งที่โรมเห็นทำให้โรมตกใจเป็นอย่างมาก

  • วิญญาณผีผู้หญิงที่มีอายุประมาณ 20 กว่าๆเธอไม่ใช่ผีที่น่ากลัว แต่กลับดูสวยงามในชุดขาว ผมยาวสีดำมีผมหน้าม้าโรมตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก ตกใจช็อค อึ้งทุกอย่างสับสนไปหมด

    ผีสาวเอ่ยทัก "เรียกข้าไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลัวล่ะ ข้าสมเพชเจ้าจริงๆน่าสงสารไม่มีใครคบถึงต้องอยากให้มีผีเป็นเพื่อนเลยเหรอ"

    โรมผู้ขาดสติหรือไม่ก็อาจจะบ้าไปแล้ว ตอบกลับไปว่า"แล้วจะเป็นเพื่อนไหมล่ะ"
    ในระหว่างพูดโรมได้แต่คิด ไหนๆชีวิตมันก็บัดซบแล้วช่างแม่งงคุยกับผีสักหน่อยไม่เสียหาย เผื่อขอหวยได้จะได้ไปเริ่มชีวิตใหม่

    โรมขยับตัวอย่างระวัง “ผะ...ผีจริงๆ หรือนี่?”

    ซิกยิ้ม “แน่นอนสิ ฉันคือผีจริงๆ นายเรียกเรามาเองไม่ใช่หรือไง”

    โรมยืนเงียบอยู่ชั่วขณะ พลางพยายามคิดหาคำตอบ“แล้ว...แล้วแกจะมาทำอะไรฉันนน?”

    ซิกหัวเราะ “ฉันไม่ได้จะทำอะไรนาย ฉันแค่รู้สึกสนใจที่นายเรียกฉันมานะ นายดูเหงาๆ นะ”

    โรมเริ่มคลายความกลัวและรู้สึกสงสัย “ผี...ผีเหงาได้ด้วยหรือ?”
    ซืกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันเหงาแต่ฉันหมายถึงนายอะดูเหงาๆ

    แต่ถึงยังไงฉันก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์หรอกฉันอยู่ที่นี่มานานมาก และไม่เคยมีใครเห็นฉันเลย นายคือคนแรก”

    โรมเริ่มมีสติและเริ่มนั่งคุยกับผีผู้หญิงบนภูเขาท่ามกลางดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า"ฉันชื่อโรม แล้วเธอล่ะชื่ออะไร?"

    ผีสาวยิ้มและตอบ "ฉันชื่อซิกเคยพลัดตกเขาที่นี่เลยยังไปเกิดไม่ได้เพราะยังไม่ถึงคราวตาย"

    โรมไม่ได้รู้สึกกลัวซิกเลย เพราะเธอดูไม่น่ากลัว"แล้วเธอหิวไหม? ปกติกินอะไรล่ะ?"

    ซิกหัวเราะเบาๆ "ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่บางทีก็มีคนแผ่ส่วนบุญมาให้ ก็เลยไม่ค่อยหิวหรือไม่บุญเราอาจจะมีเยอะอยู่แล้วเลยทำให้เราไม่ค่อยหิว"

    โรมมองซิกด้วยความเห็นใจ "แล้วเธอทำอะไรที่นี่ล่ะ?"

    ซิกตอบเรียบๆ "ก็แค่เฝ้าดูมนุษย์ผ่านไปมาบางทีก็ฟังพวกเขาคุยกัน แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกับใคร นาย!!เป็นคนแรกที่ฉันสามารถคุยได้ด้วย"
    โรมรู้สึกแปลกใจที่ซิกเปิดเผยเช่นนั้น "แล้วทำไมถึงป็นฉันล่ะ?"
    ซิกยิ้ม "อาจคงเป็นเพราะนายดูเหมือนคนที่ต้องการใครสักคนและฉันก็แค่ต้องการทำให้นายไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและฉันคิดว่าส่วนนี้คงทำให้เราติดต่อกันได้"

    โรมพยักหน้า "ฉันก็รู้สึกเหมือนกันฉันมาที่นี่เพื่อหนีความเหงาและความเศร้านะ"

    ซิกหัวเราะเบาๆ "บางทีเราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้นะนายดูไม่กลัวฉันเลย"

    โรมยิ้ม "ก็แปลกดีนะที่ได้คุยกับผีแต่เธอดูไม่ได้น่ากลัวเลย แต่อย่ามาแบบน่ากลัวนะขอร้องละ"

    ซิกหัวเราะเสียงใส "ได้สิฉันก็ไม่คิดจะทำให้ากลัวหรอก"

    ในขณะที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า โรมและซิกนั่งคุยกันต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าการพบกันในวันนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาทั้งสองไปตลอดกาล

    โรมและซิกเริ่มต้นการสนทนาในยามค่ำคืนเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของโรมและการเป็นวิญญาณของซิกความรู้สึกอบอุ่นและเข้าใจที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองเริ่มก่อตัวเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น แม้ว่าพวกเขาจะมาจากโลกที่แตกต่างกันแต่ความเหงาและความต้องการมีเพื่อนทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น

    และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างมนุษย์และวิญญาณซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่การค้นพบความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่และความรักที่ไร้ขีดจำกัด

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in