หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉันนั่งนิ่งๆ อยู่ริมทะเลสาบอีกพักหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจหันหลังเดินกลับที่พัก สายตามองพื้นจมอยู่กับความคิดของตัวเอง จิตใจหม่นหมอง ความกลัว ความลังเลสงสัยมันช่างโหดร้าย ฉันใช้ถนนเส้นเดิมที่เดินมาเมื่อบ่าย ในขณะที่เดินไปก็เริ่มเห็นแสงไฟสีขาว สีทองจากถนนและร้านค้าส่องแสงให้ความสว่างกับเมืองนี้ ฉันจำไม่ได้ว่าเงยหน้าขึ้นมาตอนไหน แต่วินาทีนั้น ก็ได้เห็นภูเขาไฟบียาร์ริกาตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของเมือง ฟ้ายามพระอาทิตย์ตกกลายเป็นสีชมพูเข้มตัดกับสีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดเขา สีขาว สีฟ้า สีชมพู และสีทอง ทำให้หนึ่งในภูเขาไฟที่ทรงพลังที่สุดของประเทศชิลีดูอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก
เหตุผลที่ฉันชอบภูเขาไฟก็เพราะยามที่มันหลับใหลช่างดูสงบสวยงาม อ่อนโยน ส่วนในยามที่มันตื่นขึ้น ก็มีพลังทำลายล้างรุนแรงแต่สวยงามในขณะเดียวกัน
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นภูเขาไฟลูกนี้ตั้งแต่มาถึงเมืองปูกอน เพราะตลอดวันเมฆหนาสีขาวเข้ายึดพื้นที่ทั้งหมดจนมองไม่เห็นอะไร เมฆคงหายไปในช่วงเวลาที่ฉันนั่งอยู่ริมทะเลสาบหลายชั่วโมง
ถือซะว่านี่คงเป็นสัญญาณที่ดี วันพรุ่งนี้อากาศน่าจะดี วินาทีนี้คงต้องเอาความบ้าเข้าสู้
‘อย่าคิดเยอะ ทำซะ มาถึงที่นี่แล้วนะ ถ้ายอมแพ้คงต้องผิดหวังมาก แล้วก็จะไม่มีเรื่องไปเล่าให้แม่ฟังด้วย สู้ว้อยยย!’
เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันก็ยิ้มให้กับภูเขาไฟบียาร์ริกา
‘เจอกันพรุ่งนี้นะ’
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in