* แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
รอบตัวมีเพียงกลิ่นเขม่าควันปืน เสียงกระสุน และเลือดแดงฉาน
อีริคกวาดตามอง…มหานครที่เคยโอ่อ่ายิ่งใหญ่ตอนนี้มีเพียงความวุ่นวายและซากศพ เหล่าคนที่ยังเหลือรอดก็ฟาดฟันกันด้วยอาวุธที่จะพึงมี เสียงกัมปนาทดังอื้ออึง…แทรกด้วยเสียงกรีดร้องของวินาทีสุดท้าย
กระสุนมากมายเหมือนสายฝน แต่เขาไม่สนใจด้วยรู้ดีว่ามันไม่มีทางจะทำร้ายตนได้ เหยียดยิ้มกับภาพรอบตัว…นึกไปถึงใครคนหนึ่งที่คงอยู่ในสนามรบนี้เช่นเดียวกัน รอยยิ้มเหยียดหยันแปรเปลี่ยน…รสชาติขมขื่นซ่านในใจ
ฉันบอกนายแล้ว…ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะอยู่กันได้โดยสันติ
สงครามนี้ควรมีแค่สองฝ่าย…กองทัพของเขาที่มุ่งทำลายและทหารมนุษย์ที่ป้องกันตัวเอง แต่ชาร์ลส์กลับเข้ามาร่วม…การกระทำที่ไม่น่าประหลาดใจ มิวแทนต์วัยรุ่นที่ช่วยต้านกองทัพของเขาเพื่อปกป้องมนุษย์…ทั้งๆ ที่มนุษย์พวกนี้ก็ทำร้ายมิวแทนต์อย่างไม่เลือกหน้าว่าใครเป็นฝ่ายไหน
ทั้งๆ ที่เป็นอย่างนั้น…นายก็ยังไม่คิดจะเลือกฉัน
อีริคกำมือแน่นจนรู้สึกเจ็บ…แต่ยังเทียบกับความเจ็บปวดในใจไม่ได้ เขายังคงเดินต่อไป…ตามหาคนคนเดียวที่ตนไม่ต้องการให้อยู่ในสนามรบนี้ที่สุด
สายตามองไป…ไม่ได้เห็นใบหน้าเพราะร่างนั้นหันหลังให้ แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางผิด…ร่างสมส่วนที่อยู่บนรถเข็น
เขาขยับจะก้าวเข้าไป ชะงักแล้วพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดกันฝนกระสุนที่ถูกเล็งใส่จากทุกทิศ…แค่เพียงดีดนิ้ว มันก็ร่วงกราวลงบนพื้น นิ่งสนิทไร้พิษสง
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงที่ที่เขามองอยู่เมื่อวินาทีที่แล้ว
กระสุนลั่นดังกึกก้อง…ทำให้หัวใจอีริคแทบหยุดนิ่งเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ล้มลง
เขาพยายามใช้พลังเพื่อหยุดมัน…แต่ช้าเกินไป กระสุนพุ่งตรงใส่คนคนเดียวที่เขาต้องการจะปกป้องและล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
และในครั้งนี้…เขาก็ยังล้มเหลวเช่นเดิม
เหมือนเหตุการณ์ที่ชายหาดในวันนั้นเล่นซ้ำ…กระสุนที่เขาไม่สามารถหยุดไว้ได้พุ่งตรงใส่ชาร์ลส์ ในวันนั้นมีเพียงเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด หากคราวนี้…เลือดสีแดงกระเซ็นซ่านจากปากแผล
ร่างสมส่วนกระตุก…ไร้เรี่ยวแรงจะหยัดตัว ชาร์ลส์หายใจรัวเร็ว…ความตื่นตระหนกถ่าโถมจนไม่รู้สึกอะไร แต่แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นที่ร่างกายฝืนหลอกตัวเองได้
ไม่ได้ตัดขั้วหัวใจ…กระสุนทิ้งแผลที่เหลือเวลาให้ชาร์ลส์ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของมัน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นวินาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของอีริค เขารับรู้ทุกอย่างชัดเจน…เลือดแดงฉาน สีหน้าของชาร์ลส์ เสียงกรีดร้องที่เจ้าตัวไม่มีแม้แต่แรงจะเปล่ง
สงครามกำลังดำเนิน…สงครามระหว่างมิวแทนต์กับมนุษย์…สงครามที่ชาร์ลส์เกลียดชังแต่อีริคต้องการ เขาต้องการมันมาตลอด หากตอนนี้…กระสุนนัดเดียวกลับทำให้เขานึกอยากย้อนเวลา
ย้อนเวลากลับไป…กลับไปในวันนั้น…หยุดกระสุนนัดนั้นเสีย…แล้วก็จะไม่มีกระสุนนัดนี้…และชาร์ลส์ที่กำลังจะจากไป
ร่างสูงพุ่งเข้าไปรับร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของคนที่ตนรักที่สุดเอาไว้ นัยน์ตาสีน้ำเงินนั้นดูตระหนกจนพูดไม่ออกเพราะเลือดแดงฉานและการปรากฏตัวของเขา…ชายหนุ่มนอนนิ่งในอ้อมแขนเหมือนตุ๊กตาที่สายป่านขาด
“อีริค…” มือสั่นระริกแตะลงบนปากแผล…ลมหายใจขาดห้วง เสียงนุ่มกระซิบระโหย…พูดออกเพียงสิ่งเดียวเพราะความตระหนกที่กัดกิน “เลือด…เลือดเต็มไปหมด…”
“ไม่…นายจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้นชาร์ลส์…” อีริคปราม ฝืนพูดแม้ว่าตอนนี้เสียงของเขาจะสั่นระริก ดึงมือของอีกฝ่ายให้พ้นจากแผลแล้วกุมไว้ กัดริมฝีปากแน่นเพราะคำโกหกนั้นเชือดเฉือนใจตัวเอง
ความจริงชัดเจนอยู่ตรงหน้า…ชาร์ลส์กำลังจะตาย
เลือดไหลริน ลมหายใจหนักหน่วง หากชาร์ลส์ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง แม้ว่าแววตาจะตระหนกด้วยความจริงที่รู้ดี…เวลาเหลือไม่มากแล้ว
และเขาต้องการใช้ทุกวินาทีที่ยังเหลือในการจดจำ
ชายหนุ่มกุมมือคนที่โอบตนไว้…แน่นหนาราวกับเด็กน้อยหลงทาง เสียงนุ่มพูดแผ่ว ระโหยเว้าวอน “พูดกับฉันอีริค…อะไรก็ได้ทั้งนั้น…ฉันอยากฟังเสียงของนาย…จนกว่า…จนกว่า…”
“ไม่…ชาร์ลส์…ไม่…” อีริคหยุดคำขอร้องนั้น…ความจริงที่ไม่อยากรับรู้ ลูบแก้มขาวที่ตอนนี้เปื้อนเลือดด้วยมือสั่นระริก “นายจะไม่เป็นอะไร…เพราะงั้น…อย่าขอร้องแบบนี้”
“ไม่…อีริค…” ชาร์ลส์พยายามส่ายศีรษะ…ดื้อดึงเพราะไม่ต้องการจะหลอกตัวเอง น้ำตาที่ไหลรินทำให้ทุกอย่างพร่ามัว “ฉันรู้ดี นายเองก็รู้…มันไม่มีหวังแล้ว…เพราะงั้น…”
เสียงหอบหายใจกลืนกินคำพูดจนเป็นเหมือนแค่ถ้อยกระซิบแหบโหย
“ขอร้อง…พูดกับฉัน…”
อีริคต่อสู้กับความเจ็บปวดที่กดทับจิตใจ…หยุดการปฏิเสธความจริงทั้งหมด ปาดนิ้วแผ่วเบาเพื่อไล่หยดน้ำตาบนแก้มชาร์ลส์…โอบร่างนั้นให้เจ้าตัวพิงศีรษะบนแขนตน เริ่มต้นเล่า…ภาพที่สวยงามที่สุด
“ตอนนี้…กำลังเป็นช่วงใบไม้ผลิที่เวสต์เชสเตอร์ นายจำได้ใช่ไหม?”
ชาร์ลส์เอ่ยรับ…แต่เสียงหายไปในลำคอ เขาไม่มีแรงแล้ว
“ที่คฤหาสน์ของนาย…แดดจะส่องผ่านหน้าต่าง แล้วหญ้าก็จะเป็นสีเขียว…” อีริคพยายามเล่า แต่ทุกคำทำให้เจ็บปวดเสียจนแทบขาดใจ ปัดเส้นผมที่ระวงหน้าในอ้อมแขนออก…ถามซ้ำๆ เพราะไม่อยากเห็นดวงตานั้นปิดลง “…นายจำได้ไหม?”
“ฉันจำได้…อีริค…ฉันจำได้…”
ชาร์ลส์พูดเบาๆ…เลือดสีแดงซึมจากมุมปาก ความเจ็บปวดกรีดลึกตามทุกคำที่เขาเปล่งเสียง แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ
“ฉันจำได้…สวนจะสวยมาก…ฉันจำ…ภาพมันได้…”
เสียงนุ่มนวลเบาหวิวและขาดห้วง…อีริคหลับตาลงกับประโยคหลัง
“ฉันจำ…พวกเรา…ได้…”
วันที่แดดสดใส…โต๊ะสีขาวในสวนสวย…เสียงหัวเราะของคนสองคน…และสัมผัสของจูบอ่อนหวาน…
ทุกอย่างชัดเจนในความทรงจำ…ทำร้ายใจพอๆ กับความเจ็บปวดที่กรีดเฉือน อีริคทำได้เพียงโอบร่างของชาร์ลส์ไว้ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ลดลงไปเรื่อยๆ…พูดตอบ ระโหยแทบขาดใจ “ฉันก็จำได้…ชาร์ลส์”
“ฉันคิดถึง…ตอนนั้น…ที่มีพวกเรา…” ร่างในอ้อมแขนดูจะไม่เหลือสติแล้ว วงหน้าขาวซีดไร้สีเลือด นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นแสง…ประกายแสงเดียวที่เหลือคือหยดน้ำตา
ถ้อยคำง่ายดายนั้นฉีกกระชากทุกเศษเสี้ยวที่ยังเหลืออยู่ของหัวใจที่แตกสลาย
“ฉันอยากกลับไป…อีริค…ตอนที่ฉันยังมีนาย…” มือขาวที่สั่นระริกนั้นค่อยๆ รั้งมือของเขาที่เกี่ยวกุมอยู่เข้าไปหา…ประทับจูบเย็นชืด “ฉันอยากกลับไป…จะแลกด้วยอะไรก็ได้…อะไรก็ได้ทั้งนั้น”
อีริคหลับตาลง…ความจริงบดขยี้จนหายใจไม่ออก
สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือปล่อยมือเสีย
ชายหนุ่มมองลึกลงไปในดวงตาของอีกฝ่าย ชาร์ลส์เองก็จ้องเขานิ่งแม้ว่าประกายในสีน้ำเงินนั้นจะหายไปหมดแล้ว…ต้องการจะจดจำแม้ว่าภาพที่เห็นจะหม่นมัวเพียงใดก็ตาม
แต่ถึงเวลาที่จะต้องลืมเลือนแล้ว
อีริคพยายามบังคับให้ตัวเองพูดตอบไป…เสียงแผ่วเบาระโหยแทบขาดใจ น้ำหนักของคำพูดกดทับให้หัวใจร้าวสลาย
“หลับเถอะชาร์ลส์…หลับเสีย…” ถ้อยคำนุ่มนวลอ่อนโยน…ราวกับกล่อมให้เด็กน้อยหลับฝันดี นิ้วไล้แก้มและเปลือกตาของอีกฝ่ายเบาๆ “…แล้วทุกอย่างจะเป็นอย่างที่นายต้องการตอนนายตื่น”
“งั้น…เหรอ…?” เสียงของชาร์ลส์เบาหวิว…ดวงตาที่อีริคเรียกร้องให้มันฝืนเปิดลืมอยู่ค่อยๆ หรี่ลง ลมหายใจหนักหน่วง…เชื่องช้าลงเรื่อยๆ
“ใช่…ทุกอย่างเลย” อีริคพูดอย่างยากเย็น…น้ำตาเอ่อในดวงตา “ทุกอย่างที่นายต้องการจะเป็นจริง…เพราะงั้น…หลับเสียเถอะชาร์ลส์”
เจ้าของชื่อซุกหน้าเข้าหาสัมผัสของเขา กระซิบพึมพำ “ตอนที่ฉันตื่น…ฉันอยากเจอนาย…”
“แน่นอนชาร์ลส์…แน่นอน…”
อีริคพูดตอบ น้ำตาไหลรินบนผิวแก้ม รู้ดีว่าคำสัญญานี้จะตามหลอกหลอนเขาไปชั่วชีวิต…ก้มลงจุมพิตหน้าผากของคนในอ้อมแขนเบาๆ
“ฉันจะรอนาย…ตลอดไป”
แม้จะไม่มีสติแล้ว…แต่รอยยิ้มบางเบาก็ระบายบนเรียวปากของคนฟัง ก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำเงินจะปิดลง…ทิ้งถ้อยกระซิบสุดท้าย
“ฉันก็จะรอนาย…อีริค”
อีริคส่งเสียงตอบรับ กัดริมฝีปากแน่นจนได้รสเลือด…ลูบแก้มสีขาวซีดนั้นอีกครั้ง สัมผัสความเย็นชืด…หวังให้มันบาดลึกลงไปในการรับรู้ของตน ความจริงที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
…ไม่มีชาร์ลส์ เซเวียร์บนโลกใบนี้อีกแล้ว
Fin.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in