เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รวมเรื่องเครียดๆNutCha_LoveGothic
ซึ้งใจ หรือเพราะไร้คุณภาพชีวิต?
  • ❌❌❌----- Warning -----❌❌❌
    ??? มีเนื้อหาไม่เหมาะสมกับบุคคล ที่มีถิ่นอาศัยในทุ่งดอกไม้ ???
    *** เนื้อเรื่องที่กำลังกล่าวถึง มีการพาดพิง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง ***

    ------------------------------------------

                  Advertising ของ CP ตัวนี้ออกมาพักนึง แล้วแหละ แต่ว่าคนดูเยอะไง แล้วดูจากพาดหัวแล้ว มันต้องมาทรงประกันชีวิตเลยไม่ดู ทิ้งไว้ก่อน 555

                  เออ ไอ้ที่เดาไว้ก็ไม่ผิดเท่าไหร่ รวมถึงเรื่องราวที่เล่าในโฆษณาตัวนี้ด้วย ก็ตามพาดหัว Main Idea ของ Concept ที่จะขาย ก็คือ........


    "กตัญญู ให้น้ำตาร่วง"


    ใครยังไม่เคยดู แล้วอยากดูก่อน ไปดูกันได้เลยที่นี่ค่ะ

    ส่วนใครที่ดูแล้ว หรือต้องการทราบเรื่องย่อ
    เราก็สรุปคร่าว ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ตามนี้ค่ะ
    .
    .
    .
    .

                  เล่าถึงเรื่องของสองคนพ่อลูก พ่อป่วยติดเตียง ขาน่าจะไม่มีแรงหรืออะไรสักอย่าง ลูกพิการขาลีบข้างนึง ที่พยายามไปทำงานหาเงินข้างนอก เพื่อมาเลี้ยงดูพ่อ ทั้งค่ากินอยู่และค่าพยาบาลแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธจากหลาย ๆ ที่ เนื่องจากความพิการ จนเห็นการแข่งขันมาราธอน มีเงินรางวัล ที่ 1 จำนวน 3,000 บาท เลยตัดสินใจที่จะลงแข่ง

                  ในวันแข่ง ด้วยความแตกต่างที่มี ยังไงก็ไม่สามารถตามคนอื่นได้ทัน ทำให้เป็นคนวิ่งอยู่ลำดับสุดท้าย ทุกคนวิ่งผ่านเธอไป มีจังหวะที่ล้มลงไป ได้กำลังจากพ่อที่เคยเขียนไว้ว่า "ถ้าพ่อเป็นแทนได้ ก็อยากเป็นแทน" ทำให้ลุกขึ้นมาใหม่ แล้วผู้คนระหว่างทางที่พบเห็น ก็ร่วมให้กำลังใจ (ตัดภาพสลับกับพ่อที่นอนร้องไห้ น่าจะเพราะแบบทำอะไรไม่ได้)

                  ณ เส้นชัย มีคนจำนวนมาก ทั้งคนแข่งขัน และผู้ชม รอให้เธอ ได้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เพื่อให้ได้รางวัลชนะเลิศ พอวิ่งถึง ก็ล้มลงไปนอน ตัดภาพไปที่มีคนช่วยส่งต่อเรื่องราวนี้ลงไปในไลน์ ถามหาบัญชี เพื่อช่วยบริจาค และเล่าว่า มีหมอที่มาร่วมวิ่ง จะช่วยรักษาพ่อ คนในงานก็ร่วมบริจาคเงินเพิ่มให้ด้วย ก็ตัดจบที่ว่า
    นี่คือ "รางวัลตอบแทนของคนที่กตัญญู"

    ------------------------------------------

                  ใครที่รู้สึกอิ่มเอิบใจ (ใช้คำโบราณไปป่าววะ 55) ซาบซึ้งอ่ะ อบอุ่น จิร้องไห้ ก็ขอให้จบตรงนี้แล้วไปทำอย่างอื่นค่ะ

                  ใช่ค่ะ สังคมควรมีแต่คนดี ๆ คนที่ให้โอกาสคนดี ๆ ไม่ท้อแท้ที่จะเป็นคนดี แม้สังคมจะโหดร้ายกับเราแค่ไหนก็ตาม 

                  (นี่...เป็นไง คำเท่ๆ อย่างนี้ใครก็คิดได้)  จบตรงนี้ค่ะ...สวัสดี!!

    ????????????


    ------------------------------------------

    ส่วนไอ้พวกคนเฬว คนจิตใจแย่ๆ ตามข้าพเจ้ามา 555!!!!!

    คงไม่ต้องบอกกันว่า โฆษณาแนวนี้
    มันสร้างภาพแบบ Romanticized แค่ไหน 

                  ทั้งๆที่มันกำลังสะท้อนภาพความย่ำแย่ในสังคม แถมยังอาจมองได้ว่า มีการใส่บุคลิก ตัวร้ายให้กับตัวละครบางตัวด้วยซ้ำ การกระทำของตัวละครหลัก มันถูกผูกปมปัญหา เริ่มต้นมาตั้งแต่ฐานรากในชีวิตเลย มันไม่ใช่แค่การที่พ่อป่วย เงินไม่พอกิน หรือ
    แค่การต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัวไปวัน ๆ

    ------------------------------------------

                  ถ้าเรามองให้ละเอียดลงไปกว่านั้น ลูกน่าจะอายุราว ๆ 15-16 ปี สมมติว่าเราย้อนไปช่วงราว ๆ นั้น 16-17 ปีที่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้??

                  >>> ตอนนั้นยังต้องมีแม่ (ไม่งั้นคงไม่มีลูกสิ!!) เออ ทีนี้ การที่แม่ตั้งท้องลูกคนนี้ ลูกคนนี้อยู่ในการวางแผนมีบุตรของครอบครัวไหม หรือครอบครัวอยู่ในสภาวะที่พร้อมมีบุตรไหม?

                  >>> ขณะที่ท้องนั้น ด้มีการตรวจไหมว่า เด็กมีสภาวะที่ไม่ปกติ มีความพิการทางร่างกาย? หรือหมอได้เสนอทางเลือกอื่นในการให้ครอบครัวตัดสินใจ หรือไม่? เช่น การยุติการตั้งครรภ์ หรือมีการเสนอให้ แต่ครอบครัว เลือกที่จะไม่ทำ หรืออาจจะไม่มีการตรวจครรภ์เกิดขึ้นเลย (เราเดาว่า น่าจะพิการแต่กำเนิดนะ)

    (ส่วนที่โฆษณาไม่ขยาย ก็จะข้าม ๆ ไปพยายามไม่เอามาคิดละกันนะ เช่น พ่อนับเป็นผู้สูงอายุหรือยัง, แม่ตาย หรือแค่หายไป, มีญาติคนอื่นไหม, ลูกได้เบี้ยคนพิการไหม, พ่อป่วยเป็นอะไร นานแค่ไหนแล้ว, ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่, เงินเก็บมีไหม หรือหมดไปตอนรักษาพ่อ ทำไมไม่มีประกัน ทำไมไม่ใช้ไทยประกันชีวิต เอออ เนี้ยย งานประกันต้องเข้าแล้วว 555 )

    ------------------------------------------

                  ทีนี้กลับมาที่ปัจจุบัน ถ้าเทียบกับสวัสดิการในการดูแลของประเทศอื่น เด็กและครอบครัว จำเป็นต้องมีหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เข้ามาดูแล เพราะครอบครัวอยู่ในสภาวะที่มีปัญหาในการดำรงชีพ และการเลี้ยงดูลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

                  นอกจากนี้ ลูกสมควรจะอยู่ในช่วงวัยเรียน ควรได้รับการศึกษาเป็นเรื่องหลักมากกว่าการทำงาน หรือได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงาน หรือโรงเรียน ในการช่วยหางานให้ทำนอกเวลา เพื่อให้เด็กได้แบ่งเวลาได้ ซึ่งในเรื่องเหมือนไม่ได้เรียนมากกว่า เพราะมีฉากที่ขาดเรียน และยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย

                  ช่วงของเรื่องที่เล่าว่าเด็กไปสมัครงานร้านต่าง ๆ แล้วร้านไม่รับ เราว่า มีความแอบยัดให้ร้านดูเป็นตัวร้ายเบา ๆ เราอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ แต่เราว่างานบางอย่าง มันก็ต้องการใช้ทักษะ ที่เด็กก็อาจจะไม่พร้อม หรือต้องใช้ความคล่องตัว ดังนั้นเงื่อนไขด้านร่างกาย ก็ถือว่าเป็นข้อจำกัดนะ

                  ถ้ามีงานอื่น ๆ ที่เปิดสมัคร แล้วเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเดิน ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะมาก แล้วไม่รับน้องเข้าทำงาน เราว่าอันนั้นอ่ะ น่าจะตรงกับพ้อยท์ที่ว่า กีดกันคนพิการมากกว่า (อันนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าเค้าจะสื่ออันไหนกันแน่)

                  ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีหลายที่นะ ที่รับบางตำแหน่งสำหรับคนพิการเท่านั้น แต่บ้านเราอาจจะไม่ได้เปิดกว้างตรงนี้เท่าในต่างประเทศไง ทั้งนี้อาจจะเพราะด้วยปัจจัยด้านกฎหมายด้วย

    ------------------------------------------

                  การเลือกตัดสินใจไปแข่งมาราธอน สำหรับเรา มันแปลก ๆ ถึงเรื่องจริง ๆ เหมือนน้องจะทำแบบนั้นก็เถอะ (เห็นพ่อเค้ามาเม้นท์ในโพสของเพจทางการของ CP ด้วย) เพราะดูอันนี้มันเกินข้อจำกัดของร่างกาย มากกว่าตอนสมัครหางานอีก

                  ไหนจะสภาพร่างกาย คู่แข่งจำนวนมาก นักกีฬา ระยะทาง โดยเฉพาะเรื่องของสภาพร่างกาย ไม่มีอะไรสู้ได้เลย ต่อให้เงินรางวัลมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่ามันจะส่งผลต่อการตัดสินใจยังไง ในเมื่อโอกาสชนะน้อยมาก (ซึ่งรวมถึงการที่ไม่มีทางรู้ว่า อนาคตทุกคนจะใจอ่อนยอมให้ชนะ ถูกต้องไหม?)

                  ปกติร่างกายคนทั่ว ๆ ไป ถ้าไม่ได้เทรนนิ่งมาเพื่อไปวิ่งมาราธอน นี่เหนื่อยมากเลยนะ ก็ถ้าไปถึงจริง ๆ ก็เก่งแหละ (เป็นเราน่าจะตายก่อน 55) มีจังหวะที่น้องล้มลงไป ที่เราแบบ อันนี้ก็เฟคไป๊ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทุกรายการ การจัดการแข่งขันแบบนี้ มันมีรถปิดหลังคอยขับตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน ไหนจะรถพยาบาลอีก เยอะเป็นขบวนแห่ มันไม่มีทางที่น้องจะล้ม นอนนาบไปกับพื้น อย่างโดดเดี่ยว เหว่ว้าขนาดนั้นอ่ะ แต่เดี๋ยวมันไม่ดราม่าไง เป็นเรื่องจริงโดนหามขึ้นรถ รมยา จับน้องมาเขย่า ๆๆ แล้ว

                  แล้วตอนที่วิ่งผ่านชาวบ้าน ชี้ชวนกันดูน้องวิ่งก่อนเข้าเส้นชัยมันประหลาดหน่อย ๆ ดูอยู่ ๆ ทุกคนก็รู้จักน้องขึ้นมา แต่ไม่ได้เชียร์อัพ แบบส่งเสียงอะ มีแค่การมองเฉย ๆ หรือกลัวไม่ดราม่า? หรือชี้ชวนดูว่าแปลกดี ฟิลลิ่งตอนนี้ มันงงหน่อย ๆว่าสื่ออะไร เราว่าตัดทิ้งก็ได้อะ ค่อนข้างทำให้เนื้อหาสับสน

                  แล้วก็ตอนสุดท้ายที่คนมาแข่งยืนรอให้น้องเข้าเส้นชัย คือออออ....ถ้าจะมารอกันขนาดนี้อะ แกรร...ก็วิ่งรอประคองน้องมันกันหน่อยดิวะ ไม่ใช่วิ่งกันลิ่วเลย แล้วทิ้งให้มันวิ่งคนเดียว มีหมาตัวนึงงี้ อ่อ ๆๆ โอเค เดี๋ยวไม่ดราม่า (พอน้องเข้าที่ 1 แล้วทีนี้ที่ 2 กะ 3 แย่งกันยังไงวะ? คนยืนกันเป็นกองง 55) แล้วอีแชทไลน์มีความรู้ว่า เอาเงินไปรักษาพ่อด้วยนะ (ไปสืบจากไหนมา 555)

    ------------------------------------------

                  พอขอบัญชีบริจาค นึกถึงน้องสอบติดแพทย์ขึ้นมาเลย เออ มันก็ไทยแลนด์สไตล์อะ พร้อมบริจาคเลย สงสารแล้ว ต้องทำบุญแล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้ว่ะ มันเหมือนแค่ คุณแค่พร้อมที่จะแสดงความน่าสงสารออกมาให้คนทั้งประเทศเห็น คุณก็จะได้เงินบริจาค

                  เราก็ไม่ได้อยากคิดในมุมแย่ๆแบบนี้ไง แต่ด้วยสถานการณ์มันกำลังสอนให้เรามองไปในทิศทางแบบนี้ แล้วพอบริจาคไป มีกี่ครั้งที่แบบ อ้าว ทำไมทำงี้อ่ะ บางคนได้เงินไปก็เหลิงก็มี เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่ายก็มี ใช้ในทางไม่เหมาะสมก็มี จนไม่จริงก็มี

                  ม่ได้บอกว่า เออ เลิกเป็นคนดี เหอะว่ะ เลิกบริจาคเถอะ แต่แค่อยากบอกว่า ทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้ อย่าลืมคิดว่า ต้นเหตุปัญหาของอะไรแบบนี้มันมาจากไหน จริง ๆ แล้วเราควรจะได้รับการดูแลแบบไหน ในฐานะประชาชนคนนึง ไม่ต้องอด ไม่ต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตไปวันๆ ควรได้มีชีวิตของตัวเอง ทำสิ่งอื่นๆให้ประเทศ ให้มันไปข้างหน้า

    " เราควรจะได้รับการดูแลแบบไหน
    ในฐานะประชาชนคนนึง ? "


                  ถ้าทุกวันนี้เราได้เพียงเศษเงิน เศษอาหาร กับการทวงบุญคุณ เรามันก็แค่สัตว์เลี้ยง มันไม่ใช่การใช้ชีวิต แต่เรากำลังถูกใช้ชีวิตโดยคนอื่น ดังนั้นการที่เราตายไป เขาก็แค่หาตัวใหม่มาเล่น คุณค่าของเรา ๆ แทนกันได้ง่าย ๆ แค่นั้นเอง

                  เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงวะ ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจนะ บางคนยิ่งกว่าหาเช้ากินค่ำอีก ยิ่งตอนโควิดนี่ หา 2 วันกินได้สักมื้อนึง ทำไมเค้าถึงยังเชื่อว่า นี่คือชีวิตที่ดีแล้ว ได้รับการดูแลที่มากแล้ว ที่นี่เป็นประเทศที่น่าอยู่แล้ว บางอย่างประเทศเราต้องซื้อด้วยราคาแพง ๆ แต่ตปท.เค้าให้กันฟรี ๆ เพียงเพราะเขาอยากสร้างประชากรในประเทศให้มีคุณภาพ แต่ประเทศนี้กำลังสร้างประชากรแบบไหนกัน??

                  ยุคแห่งความอดทนอดกลั้น มันควรจบลงได้แล้วค่ะ อะไรไม่ดี ก็ลากมันออกมา ทวงสิ่งที่เราควรได้ สิทธิ์ที่เราควรมี เลิกเชื่อลัทธิเริ่มต้นที่ตัวเอง แบบที่มันสอนเรา แต่ลุกขึ้น แล้วบอกมันไปค่ะ ว่ามันเองต่างหาก ที่ควรไปเริ่มต้นด้วยตัวเองได้แล้ว เลิกเอาของคนอื่นไปกินเล่น ผลาญเล่นได้แล้ว...ทำตัวให้ดี ๆ หน่อย

    ------------------------------------------

    ปล. มาเปลี่ยนการรอเวรกรรมให้ตามทัน มาเป็นเวรเป็นกรรม
    คอยติดตามการทำงานของพวกมันกันดีกว่าค่ะ ทำงานให้สมกับที่เราเสียภาษีให้มันมาดูแลเราค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in