Chapter 8 | I will sacrifice my life for you
"นี่คุณจะบอกว่ามีสิ่งน่ากลัวกว่าอัลตรอนซีโม่อีกหรอ?" โทนี สตาร์คเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากสเตรนจ์ "จอมมารมืด? ลูกสมุนที่สาปลูกสาวตนเอง? และพรุ่งนี้แม่สาวน้อยนั้นจะ....โดนเลือก?"
"จะว่ายังงั้นก็ได้"ด็อกเตอร์เอ่ย "ผมมีแผนรับมือแต่....ถ้ามันเกินกำลังผมพวกคุณต้องหาทางหยุดไคซิเลียส"
สตีฟโรเจอร์เอ่ยท่ามกลางความตึงเครียด "....และทำไมคุณบอกแผนกับเราไม่ได้"
ด็อกเตอร์หนุ่มถอนหายใจ
"เพราะ....ถ้าผมบอกไปพวกคุณต้องหาว่าผมบ้าแน่"
ด็อกเตอร์สเตรนจ์กำดาบเวทย์ในมือก่อนจะจ้องกับไคซิเลียสที่ปล่อยแขนลูกสาวตนเองก่อนจะร่ายเวทย์มิติกระจกเรล่าโดนกันจากมิติกระจกจึงทำให้มีแค่ชายหนุ่มทั้งสองอยู่ในนั้นตอนนี้พวกอเวนเจอร์ หว่อง และทีน่า ได้เฝ้ามองสถานการณ์จากภายนอก
ทั้งสองคนยืนประจัญหน้ากันพร้อมอาวุธในมือชายหนุ่มผมสีนกกาแซมขาวจ้องอีกคนพร้อมจับดาบในมือแน่นไคซิเลียสมองอีกคนก่อนจะส่ายหน้าในความบ้าของศัตรูเก่าที่กล้ามาสู้ตัวต่อตัวโดยไม่มีดวงตาแห่งอากาโมโต้
"คิดว่ารักแท้จะเอาชนะความมืดได้หรอมิสเตอร์ด็อกเตอร์?"เขาถามพลางหัวเราะในลำคอและชี้ไปข้างนอกมิติกระจก "ถ้าพระจันทร์ขึ้นเหนือหัวเราเมื่อไรพลังที่แท้จริงลูกสาวฉันได้สำแดงแน่ว่าใครกันแน่ที่จะคุกเข่า"
"ข้ามศพผมไปก่อนเถอะไคซิเลียส"
ทั้งคู่พุ่งเข้าสู้กันเรล่าพยายามมองการต่อสู้แต่....มิติกระจกมีแค่คนข้างในที่เห็นข้างนอกได้คนข้างนอกอย่าหวัง เธอได้แต่ภาวนาว่าสเตรนจ์จะปลอดภัยทันช่วงเวลาธรรมชาติจะเลือกเธอเพราะตอนนี้พระจันทร์กำลังจะเต็มดวงและขึ้นเหนือหัวแล้วแต่สถานการณ์ข้างในยังคงสู้กัน เสียงดาบเวทย์กระทบกันจนเงี่ยหูฟังเสียงเท่านั้นซึ่งเธอมีเซ้นส์แบบนี้อยู่แล้วเลยพยายามเพ่งจิตคุยกับอีกคนเพื่อตรวจสอบว่ายังอยู่ดีหรือไม่?
"สเตรนจ์คุณโอเคไหม...." เธอถามในใจพลางหลับตาลงและภาวนาแต่อีกฝ่ายเงียบร่างบางเริ่มใจคอไม่ดีเลยเพ่งจิตถาม "ได้โปรดตอบฉันมาสิด็อกเตอร์..."
"....." อีกฝ่ายเงียบลงจนเรล่าภาวนาว่ามันไม่จริง
มิติกระจกแตกพร้อมกับไคซิเลียสที่ยิ้มร้ายพลางมองร่างของสเตรนจ์ที่โดนดาบแทงเข้าที่ท้องเลือดไหลอาบร่างกายและเสื้อผ้า เรล่ากรี๊ดออกมาและร้องไห้อย่างไม่สนใจคนรอบข้าง
"สเตรนจ์!!"เธอวิ่งมาดูอีกคนพลางเอาหัวชายหนุ่มวางบนตัก "....อย่าตายนะ...."
ไคซิเลียสมองลูกสาวตนเองที่กำลังร้องไห้ให้กับชายหนุ่มที่ตนเองเพิ่งลงดาบไปก่อนจะเอ่ยนิ่ง
"ลูกรักเขาใช่ไหม?"เขาถามพลางกระซิบอย่างเยือกเย็น"ใช้คาถานั้นเลยสาวน้อย....ถ้าอยากช่วยเขา"
ตอนแรกหญิงสาวในชุดกระโปรงดำลังเลแต่....เวลานี้เธอยอมใช้มันแล้วมือเรียวทั้งสองข้างชูขึ้นและเริ่มร่ายคาถาฟ้าเริ่มผ่าอย่างบ้าคลั่งพร้อมลมที่ก่อตัวขึ้นเป็นพายุทอร์นาโด
"ร่างกายแห่งร่างกายข้า จิตใจจากจิตวิญญาณของข้าเพื่อ--"มือหนาของคนที่นอนกุมทท้องจับมืออีกคนแน่นก่อนจะเอ่ย
"อย่า....ผมรู้ว่าคำสาปคุณมันจะไถ่ถอนยังไง" ด็อกเตอร์เอ่ยเสียงสั่น "ผมยอมเสียสละชีวิตผมเพื่อคุณถอนคำสาปให้คุณ...." ชายหนุ่มเริ่มหมดแรงและกำลังรู้สึกว่ากำลังจะตาย
"ทำไมสตีเฟ่น....?"เรล่าถามพลางประคองอีกคนอย่างนุ่มนวล"ทำไมคุณต้องทำแบบนี้"
"....เพราะผมรักคุณไงมิเรล่า....."มือหนารวบรวมแรงประคองหน้าเรียวและปัดน้ำตาก่อนจะหล่นไปข้างตัวหญิงสาวกรีดร้องออกมาก่อนจะมองท้องฟ้าที่มีพระจันทร์ขึ้นเหนือหัว เธอไม่สนใจแล้วตนเองจะเป็นอะไรมือเธอชูขึ้นนราวกับจะจับพระจันทร์ขึ้นและหุบลงก่อนจะมองมือตนเองอย่างไม่เข้าใจสีหน้าที่กำลังเศร้าเปลี่ยนไปเป็นสีหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะหัวเราะ
"เป็นไปไม่ได้!!"ไคซิเลียสเอ่ย "ลูกทำได้ไง?!"
"โอ้...ลูกทำพ่อผิดหวังหรอคะ?" เรล่ามองอีกคนและลุกขึ้น "ลูกไม่ใช่ดาร์คแบบที่พ่อหวังไว้หรอ?"
"ลูกเหมือนแม่มากกว่าพ่อรู้ไหม"
มือหนาเอื้อมจะไปจับหน้าลูกแต่เธอผละออกพลางจ้องหน้าชายผู้เป็นพ่ออย่างเฉยชา ตอนแรกไคซิเลียสหวังที่ว่าเรล่าจะพลังปลุกด็อกเตอร์สเตรนจ์ ซึ่งถ้าใช้มนต์บทนั้นคนใช้จะเป็นคาร์คแคสเตอร์ทันทีแต่....แผนกลับผิดพลาด เขาจ้องลูกสาวตนนิ่ง ๆ
"ไม่มีใครสมบูรณ์แบบร้อยเปอเซนต์"เรล่าจ้อง "ลูกก็เหมือนกันพ่อ..."
ไคซิเลียสกับเรล่าจ้องหน้าราวกับจะเอาเรื่องกันสตีฟทำท่าจะไปช่วยแต่หว่องห้าม
"นี่เป็นศึกเธอกับพ่อ...."
พวกเขาเลยได้แต่มองสถานการณ์ห่างๆ ว่าเรล่าจะจัดการกับอีกคนยังไง หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำเข้มหันทางอีกคนและถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ "พ่อรักลูกไหม?" เธอถามไคซิเลียสส่ายหน้าและเอ่ย
"ความรักทำคนอ่อนแอว่าไหมลูกสาว" เขาเอ่ย "ชะตาลูกถูกกำหนดมาเพื่อมีอำนาจมากกว่าผู้ใช้เวทย์คนอื่น ๆ แต่กลับทิ้งอำนาจเพื่อผู้ชายคนเดียวอย่างด็อกเตอร์สเตรนจ์...." ร่างสูงมองร่างคนที่นอนจมเลือด
"นั้นทำให้ลูกต่างจากพ่อไง..." เรล่าชูมือขึ้น
ร่างของไคซิเลียสทรุดลงกับพื้นสายตาจับจ้องที่คนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เขารู้สึกเหมือนโดนปิดกั้นประสาทการรับรู้ทั้งหมดและร่างกำลังจางหายไปเหมือนเมื่อตอนที่สเตรนจ์เคยทำแบบนั้นกับเขา
"ลูกจะทำอะไร?!"
"ลูกแค่จะส่งไปที่ที่ไม่มีแสงสว่างไม่มีความมืด ที่ที่คนไม่รู้จักชื่อ หรือตัวตนพ่อ" เธอเอ่ยนิ่ง ๆ"ลูกไม่ฆ่าพ่อก็ดีแค่ไหนแล้วค่ะ"
"พ่อรักลูกนะเรล่า!!"
เรล่ามองอีกเหยียดๆ "งั้น...ก็อย่าสาปลูกตนเองสิ"
ไคซิเลียสร้องโหยหวนพร้อมกับร่างที่สลายไปในอากาศต่อหน้าทุกคน ไม่มีใครรู้ว่าเรล่าส่งพ่อตนเองที่ไหนรู้แค่ว่าตอนนี้ท้องฟ้ากลับมาสดใสเหมือนเดิมแสงอาทิตย์ส่องลงมายังพื้นที่โดยรอบ หญิงสาวหันมาทางด็อกเตอร์และวิ่งมานั่งข้าง ๆร่างก่อนจะซ้อนร่างที่ซุ่มไปด้วยเลือด เธอเอียงหน้าลงกับแผ่นอก ชีพรอีกคนยังเต้นอยู่แต่แผ่วเบาลงไปมาก มือเรียวส่องแสงสีฟ้าและทาบลงกับแผลที่ท้อง
เรล่ากำลังรักษาบาดแผลสเตรนจ์ถึงจะไม่ช่วยแผลหายเร็วแต่เธอลดอาการบาดเจ็บให้น้อยลง หญิงสาวชักมือออกพลางลูบหน้าชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาเเธอก้มลงจูบเขาอย่างนุ่มนวลก่อนจะพึมพัม
"ลาก่อนสตีเฟ่น...."
เรล่าหันมาทางคนอื่นๆ "ฝากดูแลเขาด้วยหว่อง...."
"นี่เธอคงไม่ได้..."ทีน่าเอ่ยเสียงสั่น "ลบความทรงจำเขาเรื่องเธอใช่ไหม"
หญิงสาวในชุดกระโปรงพยักหน้าเศร้าๆ
"ฉันคิดว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะพบเขาหรือ....ในอนาคตเขาอาจจะเจ็บตัวเพราะฉันอีกรอบไม่ได้" ร่างบางหันไปและเปิดประตูเวทย์หายไปต่อหน้าคนอื่น ๆ
หว่องเห็นว่าอีกคนเริ่มสติมาบ้างจึงรีบนำตัวกลับไปรักษาที่คามา-ทาจ ทันทีที่สเตรนจ์ตื่นขึ้นก็ได้แต่สงสัยว่ากิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเขาจัดการกับไคซิเลียสได้ไง แต่ไม่มีใครให้คำตอบเขาเลย.....
ตอนนี้ที่นิวยอร์คเต็มไปด้วยบรรยากาศสีขาวโผลนเพราะหิมะที่กำลังโปรยปราย เรล่าได้กลับมาทำงานชีลด์เหมือนเดิมทุกคนต่างดีใจที่มือหนึ่งของภาคสนามของชีลด์ได้กลับผงาดอีกครั้งแล้ว แม้ว่าตอนนี้คดีที่เธอในชีลด์จะแปลกไปบ้าง สำหรับเธอก็เฉย ๆเพราะเรื่องที่ผ่านมาถือว่าแปลกกว่าเยอะเลยมือเรียวกำลังขยุกขยิกกับรายงานในภารกิจล่าสุดตนเอง
เมย์เดินมาเคาะประตูอีกคนก่อนจะเข้ามาพร้อมแฟ้มบางอย่างในมือ หญิงชาวจีนมานั่งตรงข้ามพลางยื่นแฟ้ม "พวกอเวนเจอร์ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างเธอไปช่วยเรล่า"เธอเอ่ยพลางเท้าคางมอง
"กัปตันอเมริการะบุมาโดยตรงเลย"
หญิงสาวผมน้ำตาลเข้มส่ายหน้าพลางดูแฟ้มและชะงักเมื่อเห็นรูปบางคนเมย์เหลือบมองก่อนจะอธิบายต่อ
"นั้นสมาชิกใหม่ของหน่วยอเวนเจอร์ด็อกเตอร์สเตรนจ์ จอมเวทย์สูงสุด"
"อืม....พวกเขาจะเริ่มประชุมเมื่อไรละ"
"ไปตอนนี้ก็ดีเลยนะเรย์"
เรล่ามาถึงตึกอเวนเจอร์ก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์ไปที่ตึกก่อนจะเดินตรงไปยังห้องประชุมหน่วย คนบางส่วนเริ่มมาบ้างแล้วรวมถึงทีชาล่า หรือแบล็คแพนเตอร์และชายคนที่เธอไม่ได้เห็นหน้ามานาน
สตีเฟ่น สเตรนจ์
"เรล่าคุณมาแล้ว" สตีฟเอ่ยจนสเตรนจ์หันมาทางเธอ แหงละ...เขาจำเธอไม่ได้ "เรล่า....นี่คือ..."
"ด็อกเตอร์สตีเฟ่นวินเซนด์ สเตรนจ์" เธอยื่นมือ "ฉันอ่านแฟ้มคุณมาละ ยินดีด้วยที่ได้มาร่วมทีมอเวนเจอร์นะคะ"
เขาจับมือตอบตามมารยาท
"ยินดีที่ได้พบกับคุณเช่นกันครับมิสซาร์คา" สเตรนจ์ดึงมืออีกคนมาจูบก่อนจะลดมือลงและเดินไปนั่งที่ตนเองโทนี่ก็เริ่มพูดเรื่องต่าง ๆ ที่เคยระบุในแฟ้ม
เรล่ากับสเตรนจ์มักจะพูดมากสุดในที่ประชุมเนื่องด้วยทั้งคู่เชี่ยวชาญเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้เมื่อการประชุมจบลงก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ตนเอง สเตรนจ์เดินมาหาเรล่า
"คุณพูดได้ดีนะในที่ประชุมนะ"ด็อกเตอร์ชื่นชมพลางส่งอีกคนถึงลิฟต์
เรล่าส่งยิ้มบางๆ ให้อีกคนก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง หญิงสาวหลับตาลงและลืมตาขึ้นตาขวาเธอเป็นสีทอง ตาซ้ายเธอเป็นสีฟ้าน้ำเงิน
สเตรนจ์กุมหัวตนเองทันทีก่อนจะเห็นภาพบางอย่างร่างสูงโปรงในชุดจอมเวทย์สีดำแดงหันไปมองรอบ ๆ และเอ่ยชื่อคนคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่ดัง
"มิเรล่า!!" ชายหนุ่มรีบเปิดประตูและตามอีกคนไปทันที
มือของเรล่าไม่ทันจับประตูรถก่อนโดนชายหนุ่มคว้าไปจูบ แขนของเขาโอบเอวอีกคนและข้างที่ว่างก็ประคองหัวเธอไว้พวกเขาจูบกันเหมือนภาพถ่ายเดอะ คิสซิ่ง เซลเลอร์ เขาผละออกก่อนจะพิงหน้าผากลง
"ผมรักคุณมิเรล่า"
"ฉันรู้"
"นั้นประโยคสตาร์วอร์สใช่ไหม"เรล่าทุบบ่าอีกคนก่อนจะโอบคออีกคนแน่น
"หุบปากไปสตีเฟ่น"
นักเขียนขอพูด
คาดว่าอีกกหนึ่งถึงสองตอนคงจะจบแล้ว ส่วนท่าทางที่จูบกันก็ประมาณนี้ จิ้ม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in