เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Breathe In The Lightmomo2540
Chapter 5 | Waiting for a sign, as the tide grows
  • Breathe In The Light


    Chapter 5 | Waiting for a sign, as the tide grows

    เรล่ายกหนังสือมาเต็มวงแขนเดินผ่านหว่อง จนบรรณารักษ์อย่างเขาต้องอ้าปากค้างเพราะอีกคนขนไปเยอะมาก หญิงสาวผมน้ำตาลนั่งตรงข้ามกับอีกคนที่กำลังอ่านตำราอยู่เช่นกัน ร่างบางเปิดไล่หาก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเริ่มเปิดเล่มใหม่ เพราะโดยส่วนมากตำราที่นี่มักจะมีแต่เรื่องจุดกำเนิดของเวทย์มนต์  เวยท์มนต์ไลท์และดาร์ค คำสาป เวทย์มนต์ต้องห้าม การเรียกวิญญาณ แต่คำสาปเรล่านั้นมีแต่วิธีสาปแต่วิธีแก้นะหรอ หามาหลายชั่วโมงแล้วก็ไม่เจอเลยเสียด้วยซ้ำ ร่างบางวางหนังสือลงก่อนเดินไปหาเล่มอื่น

    ร่างบางกับร่างสูงของสเตรนจ์เบียดกันโดยไม่ได้ตั้งใจในช่องทางเดิน มือเรียวไปจับต้นแขนอีกคนโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าของชายหนุ่มก้มมองและขมวดคิ้ว สายตาเขามองมือเธอก่อนจะพูดขึ้น

    "เหลือกี่วันละเรล่า"

    "ถามเรื่องจำนวนวันไม่ได้ช่วยเราหามันเร็วขึ้นหรอกค่ะด็อกเตอร์" มือเรียวเอื้อมไปหยิบตำราที่อยู่เหนือหัวอีกคนแต่ติดที่ว่าเธอมีส่วนสูงมี่เตี้ยไป ก่อนจะมีมือหนาของคนบางคนหยิบให้

    "สิบสามวัน..." สเตรนจ์เอ่ย "เรามีเวลาสิบสามวันเองนะเรย์"

    เธอกลอกตาก่อนจะเริ่มเปิดอ่านและชะงักลง

    "ฉันเจอเรื่อง....ต้นกำเนิดที่ธรรมชาติเลือกสายให้ผู้หญิงได้ละ" มือเรียวชี้หน้าหนังสือ "ฉันควรสนใจมันไหมด็อกเตอร์"

    ชายหนุ่มพยักหน้า

    "โอเค....คือ ในสมัยก่อนประมาณสักร้อยปีมาแล้วมีแม่มด หรือแคสเตอร์สายไลท์คนหนึ่งแต่คุณจะเหมาหล่อนว่าเป็นจอมเวทย์หรือผู้ใช้เวทย์ก็ได้ตามความเข้าใจ เธอมีความรักกับชายหนุ่มที่เป็นมนุษย์ พวกเขาลักลอบมาพบกันทั้งที่สองฝ่ายมีครอบครัวอยู่แล้ว วันหนึ่งได้เกิดสงครามกลางเมือง...." เธอเว้นเสียงและเอ่ยขึ้นต่อ "คนรักหล่อนโดนยิงตาย"

    "ว่าต่อเลยเรล่า" ด็อกเตอร์สเตรนจ์เอ่ย

    "หล่อนใช้เวทย์มนต์ต้องห้าม.... มนต์ปลุกคนตาย" เธออ่านและมองหน้าอีกคน "ที่ว่ากันว่าคนที่ใช้สามารถกลายเป็นดาร์คและสูญเสียความเป็นตนเองได้เลย" สเตรนจ์พยักหน้า

    "เขาบอกอะไรเพิ่มเติมไหม"

    "....จะว่าไงดีละ? อ๋อ....เขาตายเพราะโดนบีบคอหลังจากหล่อนเป็นดาร์ค"

    เรล่ากับสเตรนจ์ตกอยู่ในความเงียบอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะพูดต่อ "คนที่ใช้มัน คือ ต้นตระกูลฉัน... ไม่จริงน่า!" มือเรียวป้องปากตนเองก่อนจะปิดหนังสือลง "มัน--มันยิ่งกว่าคำสาปแล้ว" เธอเอ่ยพลางกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้องสมุด โดยมีชายหนุ่มวิ่งออกตามอีกคน

    "เธอจะยอมแพ้? ยอมแพ้เพียงเพราะพ่อสาปเธอ ตระกูลเธอเป็นต้นเหตุให้ธรรมชาติเลือกสายให้ผู้หญิงแทนที่จะมีสิทธิ์เลือกเองหรอ?!" ด็อกเตอร์วิ่งจนทันและจับแขนอีกคน "เธอเพิ่งเริ่มเดินไปได้--"

    เรล่าจ้องอีกคนพร้อมกับสายฝนที่เริ่มตกลงมาใส่พวกเขา ไม่สิ....มันตกใส่แค่ตัวสเตรนจ์ ร่างบางของหญิงสาวเดินออกไปทางอื่นโดยที่ชายหนุ่มพูดไปและเดินตามอีกคน

    "คิดว่าเสกฝนตกใส่ผมมันจะให้ผมหยุดพูดได้หรือไง?" ชายหนุ่มเดินตามอีกคน โดยมีสายตาคนอื่น ๆ มองและสงสัยว่าทำไมจอมเวทย์อย่างด็อกเตอร์สเตรนจ์ถึงมีฝนตกใส่เขาคนเดียวกัน "อย่าลืมสิว่า--" เรล่ากรี๊ดออกมาราวกันคนสิ้นหวัง จนอีกคนต้องเงียบทันที

    "ให้ตายสิ....เชื่อฟังผมบ้างสิเรล่า" เขายกมือกุมขมับ

    "ทำไมฉันต้องเชื่อฟังคุณสเตรนจ์" เธอเอ่ยพลางกอดอก "คุณจะเข้าใจอะไรฉันกัน?" แหงละ...ด็อกเตอร์สเตรนจ์ คือ คนธรรมดาที่กลายมาเป็นจอมเวทย์ ส่วนเธอมาจากตระกูลที่มีเวทย์มนต์อยู่แล้ว แถมโดนสาปตั้แต่เกิดอีก หลังมือเรียวปาดน้ำตาตนเองจนตาแดง สเตรนจ์ถอนหายใจและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

    "ผมอยากให้คุณเชื่อใจตนเองตอนนี้ ไม่ต้องเชื่อใจผม หรืออย่างน้อยก็ฟังผมในฐานะอาจารย์ก็ได้" เรล่ามองอีกคนก่อนจะทำให้ฝนหยุดตกทันทีพร้อมกับทำเสื้อผ้าอีกคนแห้งราวกับว่าไม่เคยเปียกฝน

    "ที่ฉันยอมคุณเพราะ....ฉันควรเชื่อใจคุณ ณ เวลานี้หรอกนะ"

    เรล่าเอ่ยพลางเดินกลับห้องสมุดและสวนทางกับหว่องที่กำลังเดินมาหาด็อกเตอร"

    "ปกติคุณน่าจะหยุดฝนนั้นตั้งแต่ที่เธอเสกให้มันตกใส่คุณนะ" บรรณารักษ์ชาวจีนเอ่ย "แต่อย่างว่าบางอย่างก็ต้องยอมบ้าง เพราะอารมณ์สตรียากที่จะเดา"

    "ก็ยังดีที่เธอไม่เสกฟ้าผ่าแถมมาด้วย คุณหว่อง" เขาหันมาทางอีกคนและถาม "มีอะไรถึงได้มาหาผม?"

    "ผมว่าผมเจอตำราที่น่าจะช่วยพวกคุณได้นะสิ"

     

    หว่องแนะนำให้เรล่าและด็อกเตอร์สเตรนจ์เดินไปอาศรมที่ฮ่องกง ซึ่งทีน่า ผู้ดูแลอาศรมที่ฮ่องกงออกมาต้อนรับพวกเขา เพราะถ้าไม่ได้สเตรนจ์มาช่วยอาศรมที่นี้ไว้คงแย่ ปรมาจารย์สาวชาวจีนเดินนำพวกเขาลงไปห้องเก็บหนังสือใต้ดินก่อนจะหันมาทางทั้งสอง

    "ตอนที่เรล่ายังไม่เกิด แม่เธอเอาบางอย่างติดตัวและนำมาฝากให้ท่านอันเชี่ยนวัน ต่อมาท่านเอาของสิ่งนั้นมาฝากไว้ที่นี้" ทีน่าพูดพลางไขประตูห้อง "ตำราแห่งจันทราที่ว่ากันว่ารวบรวมด้วยเรื่องเวทย์มนต์ต่าง ๆ ที่หายาก มันอาจจะช่วยเธอได้" ด็อกเตอ์สเตรนจ์จ้องตำราตรงหน้างง ๆ ก่อนจะหันทางหญิงสาว เพราะเขาไม่เห็นอะไรเลย

    "มีแต่เผ่าพันธ์เธอที่อนุญาตให้เห็นตัวอักษรเธอได้คุณสเตรนจ์"

    ด็อกเตอร์พยักหน้าก่อนจะหันมาทางร่างบาง

    "เธอคงพึ่งตนเองแล้วละ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามผมได้นะ"

    ทีน่าเอ่ยขึ้น "...แต่ตอนนี้พวกคุณควรพักผ่อนเพราะมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยให้เรล่ามาอ่านต่อ ฉันจะเปิดห้องใต้ดินรอไว้" ทั้งสองพยักหน้าก่อนกลับนิวยอร์คด้วยประตูเวทย์

    เรล่าเดินขึ้นบันไดก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา "ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือฉัน คุณสเตรนจ์"

    "มันหน้าที่อาจารย์ที่ต้องช่วยศิษย์อยู่แล้ว" ร่างบางแสดงสีหน้าบางอย่างก่อนจะเป็นปกติ "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปพักผ่อนนะ"

    "ราตรีสวัสดิ์คุณสเตรนจ์"

    เรล่าเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดประตูและพิงหลังกับประตูห้อง หญิงสาวกอดเข่าพลางเอามือกุมหัวใจตนเองไว้จนแน่น เพราะรู้ดีว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

    เธอกำลังหลงรักด็อกเตอร์สเตรนจ์ อาจารย์ของเธอ

    แต่อีกคนรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันผิดจรรยาบรรณครูฝึกกับศิษย์ที่ว่าห้ามมีความสัมพันธ์ที่เกินเลย แค่คิดเธอก็รู้สึกผิดมากมายขึ้นมา ตลอดเวลาที่อยู่กับเขา เธอมักจะทำตัวต่อต้านบ้างแต่หลัง ๆ เริ่มฟังเขาบ้างละ หญิงสาวผมน้ำตาลตัดสินใจอาบน้ำนอนทัน เธอมองตัวเลขบนฝ่ามือที่เปลี่ยนไป

    12

     

     

    ด็อกเตอร์สเตรนจ์มองร่างของศิษย์ที่เพิ่งเดินเข้าไปห้องนอน ก่อนจะเดินกลับห้องตนเพื่อพักผ่อนบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเริ่มเตรียมตัวเข้านอนพลางนึกถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับเรล่า ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ เขาควรทำอย่างไรละ ร่างสูงโปร่งส่ายหน้ารัวก่อนจะล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะเข้าสู่ภวังค์หลับลึกและก็เริ่มฝันบางอย่าง

    ร่างของจอมเวทย์เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักของเมืองนิวยอร์ค บางตึกก็มีไฟไหม้  บริเวณโดยรอบมีคนตายเต็มไปหมดจนน่าตกใจ นัยน์ตาสีเทามองไปข้างหน้าก่อนจะเห็นหว่อง ทีน่า และผู้ใช้เวทย์บางคนสู้กันกับใครคน เขาหรือเธอสวมชุดจอมเวทย์สีดำและมีผ้าคลุมปกปิดใบหน้าจนเห็นแค่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล เพียงไม่กี่นาทีพวกที่สู้กับคนนั้นก็ล้มลงไป สเตรนจ์ก็ได้แต่ยืนอึ้งจนมีลมพัด เขาชะงักลงเมื่อเห็นฮู้ดอีกเปิดเพราะแรงลม

    เรล่า!!

    "ด็อกเตอร์สเตรนจ์ ในที่สุดก็มาทันตอนที่ฉันจะอัญเชิญท่านดอร์มามูมาที่โลก" เรล่าตรงหน้าไม่ใช่คนที่เข้ารู้จัก เธอมีผมสีดำเหมือนท้องฟ้ายามราตรี นัตน์สีฟ้าสดสวยแต่ขอบตากับน่ากลัวราวกับแม่มดดำ ในมือเรียวมีอาวุธที่เปื้อนเลือด "มาห้ามฉันสิสเตรนจ์"

    ทั้งสองเริ่มสู้กันทันที เสียงของดาบกระทบกันดังทั่วบริเวณซากตึก เขารู้สึกได้ว่าอีกคนแกร่งขึ้นมากกว่าตอนที่เขาฝึก วินาทีต่อมาไคซิเลียสโผล่มาและพูดขึ้น

    "ฉันบอกแกแล้วชะตาของเวอร์โรนิก้า คือ เป็นดาร์คและตอนนี้เธอกำลังช่วยฉันให้ดอร์มามูได้ครองโลก แกช่วยโลกแบบคราวที่แล้วไม่ได้ละหมอ" ชายคนนั้นเอ่ยพลางมองลูกสาวตนเอง "จัดการเขาซะเวอร์โรนิก้า"

    สเตรนจ์รู้ดีว่ามันแค่ฝันแต่ทำไมมันเหมือนจริงมากจนเขาเริ่มกลัว ร่างสูงกำดาบเวทย์ในมือจนแน่นพลางหาทางออกว่าจะจัดการกับคนตรงหน้าอย่างไรดี ร่างคนตรงหน้าเปลี่ยนไปเป็นคนแบบเดิมที่เขารู้จัก

    "สเตรนจ์ ช่วยฉันด้วย"

    วินาทีที่เขาชะงักก็โดนคนตรงหน้าแทงทะลุอก เลือดไหลซึมทะลุอาบเสื้อสีน้ำเงินเขา ใบหน้าคมมองเรล่าอย่างสับสนและไม่เข้าใจ ร่างระหงส์ก้มลงมากระซิบข้างหูเขา

    "ลาก่อนด็อกเตอร์สเตรนจ์"

    เขาสะดุ้งตื่นมาทันทีและหายใจอย่างเหนื่อย ๆ พลางคลำไปตามลำตัวก่อนจะหายใจอย่างโล่งอกแต่ก็หวั่น ๆ อยู่ จึงลุกมาและเดินไปห้องนอนอีกคนเพื่อไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับอีกคนหรือไม่ แต่ก็พบว่าเธออกไปจากห้องนานแล้วและมีโน้ตทิ้งไว้

    ไปอ่านตำราที่ฮ่องกง - เรล่า

    ด็อกเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินไปห้องอาหารเพื่อหาอะไรลงท้องก่อนจะเดินทางตามอีกคนไปที่อาศรมในฮ่องกงบ้าง ร่างสูงโปร่งพบว่าทีน่าเพิ่งเดินออกจากห้องที่เรล่ากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

    "ศิษย์คุณมุ่งมั่นมากเลย เธอทานมื้อเช้าเสร็จก่อนไปอ่านตำราต่อ" หล่อนเอ่ยเบา ๆ "คุณรู้ใช่ไหมว่ามีเวลาไม่กี่วันที่จะ---"

    "มีโอกาสน้อยดีว่าไม่มีโอกาสเลย" สเตรนจ์เอ่ย "เรายังมีความหวังว่าเรล่าจะไม่ตามรอยพ่อ ตราบใดที่เธอไม่ข้องเกี่ยวกับมนต์ดำ" สาวจีนตรงหน้ากอดอกมอง

    "ต่อให้เธอไม่ใช่มนต์ดำ ก็ต้องให้ธรรมชาติตัดสินอยู่ดีว่าเธอจะเป็นไลท์หรือดาร์ค"

    "แต่เผลอ ๆ เธอออาจะ" เขาเว้นเสียง "เลือกชะตาตนเองได้"

    นัยน์ตาสีเทาจับจ้งที่ร่างหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ เพื่ออ่านตำราก่อนจะหันมาคุยผู้ดูแลอาศรมที่นี้ต่อ "แต่ถ้าเธอเป็นดาร์ค ผมจะตัดสินชะตากรรมเธอเองโดยที่แม้เธอจะขอว่า---"

    "ถ้าเธอขอให้คุณฆ่าละ? จะทำมันไหม?"

    "ผมทำไม่ได้...."

     

     

     





    นักเขียนขอพูด

    เนื่องด้วยไรท์ได้แรงบันดาลใจภาพยนตร์เรื่อง Beautiful Creatures เลยใส่ฉากที่นางเอกเสกฝนใส่พระเอก จิ้มเพื่อดู (ส่วนตัวฮาฉากที่ลีน่าเสกฝนใส่อีธานมาก)


  • หว่องแนะนำให้เรล่าและด็อกเตอร์สเตรนจ์เดินไปอาศรมที่ฮ่องกง ซึ่งทีน่า ผู้ดูแลอาศรมที่ฮ่องกงออกมาต้อนรับพวกเขา เพราะถ้าไม่ได้สเตรนจ์มาช่วยอาศรมที่นี้ไว้คงแย่ ปรมาจารย์สาวชาวจีนเดินนำพวกเขาลงไปห้องเก็บหนังสือใต้ดินก่อนจะหันมาทางทั้งสอง

    "ตอนที่เรล่ายังไม่เกิด แม่เธอเอาบางอย่างติดตัวและนำมาฝากให้ท่านอันเชี่ยนวัน ต่อมาท่านเอาของสิ่งนั้นมาฝากไว้ที่นี้" ทีน่าพูดพลางไขประตูห้อง "ตำราแห่งจันทราที่ว่ากันว่ารวบรวมด้วยเรื่องเวทย์มนต์ต่าง ๆ ที่หายาก มันอาจจะช่วยเธอได้" ด็อกเตอ์สเตรนจ์จ้องตำราตรงหน้างง ๆ ก่อนจะหันทางหญิงสาว เพราะเขาไม่เห็นอะไรเลย

    "มีแต่เผ่าพันธ์เธอที่อนุญาตให้เห็นตัวอักษรเธอได้คุณสเตรนจ์"

    ด็อกเตอร์พยักหน้าก่อนจะหันมาทางร่างบาง

    "เธอคงพึ่งตนเองแล้วละ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามผมได้นะ"

    ทีน่าเอ่ยขึ้น "...แต่ตอนนี้พวกคุณควรพักผ่อนเพราะมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยให้เรล่ามาอ่านต่อ ฉันจะเปิดห้องใต้ดินรอไว้" ทั้งสองพยักหน้าก่อนกลับนิวยอร์คด้วยประตูเวทย์

    เรล่าเดินขึ้นบันไดก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา "ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือฉัน คุณสเตรนจ์"

    "มันหน้าที่อาจารย์ที่ต้องช่วยศิษย์อยู่แล้ว" ร่างบางแสดงสีหน้าบางอย่างก่อนจะเป็นปกติ "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปพักผ่อนนะ"

    "ราตรีสวัสดิ์คุณสเตรนจ์"

    เรล่าเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดประตูและพิงหลังกับประตูห้อง หญิงสาวกอดเข่าพลางเอามือกุมหัวใจตนเองไว้จนแน่น เพราะรู้ดีว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

    เธอกำลังหลงรักด็อกเตอร์สเตรนจ์ อาจารย์ของเธอ

    แต่อีกคนรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันผิดจรรยาบรรณครูฝึกกับศิษย์ที่ว่าห้ามมีความสัมพันธ์ที่เกินเลย แค่คิดเธอก็รู้สึกผิดมากมายขึ้นมา ตลอดเวลาที่อยู่กับเขา เธอมักจะทำตัวต่อต้านบ้างแต่หลัง ๆ เริ่มฟังเขาบ้างละ หญิงสาวผมน้ำตาลตัดสินใจอาบน้ำนอนทัน เธอมองตัวเลขบนฝ่ามือที่เปลี่ยนไป

    12

     

     


  • ด็อกเตอร์สเตรนจ์มองร่างของศิษย์ที่เพิ่งเดินเข้าไปห้องนอน ก่อนจะเดินกลับห้องตนเพื่อพักผ่อนบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเริ่มเตรียมตัวเข้านอนพลางนึกถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับเรล่า ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ เขาควรทำอย่างไรละ ร่างสูงโปร่งส่ายหน้ารัวก่อนจะล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะเข้าสู่ภวังค์หลับลึกและก็เริ่มฝันบางอย่าง

    ร่างของจอมเวทย์เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักของเมืองนิวยอร์ค บางตึกก็มีไฟไหม้  บริเวณโดยรอบมีคนตายเต็มไปหมดจนน่าตกใจ นัยน์ตาสีเทามองไปข้างหน้าก่อนจะเห็นหว่อง ทีน่า และผู้ใช้เวทย์บางคนสู้กันกับใครคน เขาหรือเธอสวมชุดจอมเวทย์สีดำและมีผ้าคลุมปกปิดใบหน้าจนเห็นแค่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล เพียงไม่กี่นาทีพวกที่สู้กับคนนั้นก็ล้มลงไป สเตรนจ์ก็ได้แต่ยืนอึ้งจนมีลมพัด เขาชะงักลงเมื่อเห็นฮู้ดอีกเปิดเพราะแรงลม

    เรล่า!!

    "ด็อกเตอร์สเตรนจ์ ในที่สุดก็มาทันตอนที่ฉันจะอัญเชิญท่านดอร์มามูมาที่โลก" เรล่าตรงหน้าไม่ใช่คนที่เข้ารู้จัก เธอมีผมสีดำเหมือนท้องฟ้ายามราตรี นัตน์สีฟ้าสดสวยแต่ขอบตากับน่ากลัวราวกับแม่มดดำ ในมือเรียวมีอาวุธที่เปื้อนเลือด "มาห้ามฉันสิสเตรนจ์"

    ทั้งสองเริ่มสู้กันทันที เสียงของดาบกระทบกันดังทั่วบริเวณซากตึก เขารู้สึกได้ว่าอีกคนแกร่งขึ้นมากกว่าตอนที่เขาฝึก วินาทีต่อมาไคซิเลียสโผล่มาและพูดขึ้น

    "ฉันบอกแกแล้วชะตาของเวอร์โรนิก้า คือ เป็นดาร์คและตอนนี้เธอกำลังช่วยฉันให้ดอร์มามูได้ครองโลก แกช่วยโลกแบบคราวที่แล้วไม่ได้ละหมอ" ชายคนนั้นเอ่ยพลางมองลูกสาวตนเอง "จัดการเขาซะเวอร์โรนิก้า"

    สเตรนจ์รู้ดีว่ามันแค่ฝันแต่ทำไมมันเหมือนจริงมากจนเขาเริ่มกลัว ร่างสูงกำดาบเวทย์ในมือจนแน่นพลางหาทางออกว่าจะจัดการกับคนตรงหน้าอย่างไรดี ร่างคนตรงหน้าเปลี่ยนไปเป็นคนแบบเดิมที่เขารู้จัก

    "สเตรนจ์ ช่วยฉันด้วย"

    วินาทีที่เขาชะงักก็โดนคนตรงหน้าแทงทะลุอก เลือดไหลซึมทะลุอาบเสื้อสีน้ำเงินเขา ใบหน้าคมมองเรล่าอย่างสับสนและไม่เข้าใจ ร่างระหงส์ก้มลงมากระซิบข้างหูเขา

    "ลาก่อนด็อกเตอร์สเตรนจ์"

    เขาสะดุ้งตื่นมาทันทีและหายใจอย่างเหนื่อย ๆ พลางคลำไปตามลำตัวก่อนจะหายใจอย่างโล่งอกแต่ก็หวั่น ๆ อยู่ จึงลุกมาและเดินไปห้องนอนอีกคนเพื่อไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับอีกคนหรือไม่ แต่ก็พบว่าเธออกไปจากห้องนานแล้วและมีโน้ตทิ้งไว้

    ไปอ่านตำราที่ฮ่องกง - เรล่า

    ด็อกเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินไปห้องอาหารเพื่อหาอะไรลงท้องก่อนจะเดินทางตามอีกคนไปที่อาศรมในฮ่องกงบ้าง ร่างสูงโปร่งพบว่าทีน่าเพิ่งเดินออกจากห้องที่เรล่ากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

    "ศิษย์คุณมุ่งมั่นมากเลย เธอทานมื้อเช้าเสร็จก่อนไปอ่านตำราต่อ" หล่อนเอ่ยเบา ๆ "คุณรู้ใช่ไหมว่ามีเวลาไม่กี่วันที่จะ---"

    "มีโอกาสน้อยดีว่าไม่มีโอกาสเลย" สเตรนจ์เอ่ย "เรายังมีความหวังว่าเรล่าจะไม่ตามรอยพ่อ ตราบใดที่เธอไม่ข้องเกี่ยวกับมนต์ดำ" สาวจีนตรงหน้ากอดอกมอง

    "ต่อให้เธอไม่ใช่มนต์ดำ ก็ต้องให้ธรรมชาติตัดสินอยู่ดีว่าเธอจะเป็นไลท์หรือดาร์ค"

    "แต่เผลอ ๆ เธอออาจะ" เขาเว้นเสียง "เลือกชะตาตนเองได้"

    นัยน์ตาสีเทาจับจ้งที่ร่างหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ เพื่ออ่านตำราก่อนจะหันมาคุยผู้ดูแลอาศรมที่นี้ต่อ "แต่ถ้าเธอเป็นดาร์ค ผมจะตัดสินชะตากรรมเธอเองโดยที่แม้เธอจะขอว่า---"

    "ถ้าเธอขอให้คุณฆ่าละ? จะทำมันไหม?"

    "ผมทำไม่ได้...."

     

     

     





    นักเขียนขอพูด

    เนื่องด้วยไรท์ได้แรงบันดาลใจภาพยนตร์เรื่อง Beautiful Creatures เลยใส่ฉากที่นางเอกเสกฝนใส่พระเอก จิ้มเพื่อดู (ส่วนตัวฮาฉากที่ลีน่าเสกฝนใส่อีธานมาก)


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in