หากใครเคยลองจัดพื้นที่ Co-working space แล้วรู้สึกว่า ภาพรวมของพื้นที่ยังดูรกและไม่เป็นระเบียบ คราวนี้ เราจะมาแชร์เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกชั้นวางของพลาสติกให้มีคุณภาพ เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูพร้อมกันได้เลย

• เลือกจากลักษณะการใช้งาน

สิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึง ก่อนเลือกซื้อชั้นวางของมาใช้งาน คือ วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ว่าจะนำมาใช้วางสิ่งของประเภทไหนบ้าง ซึ่งในปัจจุบัน ก็ได้มีชั้นใส่ของให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ 

เช่น หากต้องการวางอุปกรณ์สำนักงาน ควรเลือกชั้นวางที่มีจำนวน 2 - 3 ชั้น และเป็นชั้นวางที่มีดีไซน์แคบ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บของที่จำเป็น ได้อย่างพอดิบพอดี เป็นต้น

• เลือกจากสิ่งของที่จะนำมาวาง

ชั้นวางของที่ตอบโจทย์การใช้งานใน Co-working space ต้องทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี และตอบโจทย์การวางของหลากหลายรูปแบบ เช่น หากต้องการวางขนม และแคปซูลกาแฟ ควรเลือกชั้นวาง 3 - 4 ชั้น ซึ่งขนมที่คนส่วนใหญ่นิยมทาน ควรวางไว้ชั้นบนสุด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการหยิบใช้งาน เป็นต้น

• เลือกจากตำแหน่งการวาง

อีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้การเลือกชั้นวางของ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น คือ การเลือกตำแหน่งที่ต้องการวางชั้นใส่ของ โดยควรคำนึงว่า ต้องการให้ชั้นวางอยู่ส่วนไหนบ้าง และพื้นที่ต่าง ๆ มีขนาดเพียงพอกับชั้นวางหรือไม่ 

ยกตัวอย่างเช่น โซนรับประทานขนมที่มีพื้นที่จำกัด การใช้ชั้นวางของแบบเข้ามุม หรือมีล้อเลื่อน ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ และสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตลอดเวลา เหมาะกับ Co-working space ที่มีการรีโนเวตพื้นที่ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

• คำนึงถึงคุณภาพ

เพราะในปัจจุบันมีชั้นวางของให้เลือกมากมาย ทำให้หลายอาจเลือกชั้นวางที่มีดีไซน์สวยเป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชั้นเก็บของที่ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และโทนสีเข้ากับพื้นที่ Co-working space จะช่วยให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเงินทุน ไปกับการบำรุงรักษาพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://dkwthailand.com/