หนึ่งในอุปสรรคที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญ คือ สภาพอากาศที่ร้อนจัด และแดดส่องตลอดเวลา ทำให้ต้องคอยมาเลือกแบบกันสาดหน้าต่าง มาติดตั้งตามบริเวณหน้าประตูบ้าน กลางบ้าน หรือบริเวณหลังบ้าน เพื่อให้สมาชิกในบ้านรู้สึกเย็นสบาย และไม่ร้อนอบอ้าว ขณะใช้ชีวิตในรั้วบ้าน

สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่า ควรเลือกแบบกันสาดหน้าต่างอย่างไร ให้ป้องกันแสงแดด รังสี UV และมลพิษต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ จะมาแชร์แนวทางการเลือกแบบกันสาดหน้าต่าง ให้เหมาะกับบ้านสมัยใหม่ไว้ให้แล้ว หากพร้อมแล้ว เราไปดูกันได้เลย

1. ประเภทของแผ่นหลังคา

การเลือกประเภทของหลังคาสำหรับกันสาด ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความต้องการและความเหมาะสมของพื้นที่ติดตั้ง โดยหนึ่งในวัสดุยอดนิยมที่นิยมนำมาใช้ คือ ไฟเบอร์กลาส เนื่องจาก มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และช่วยกรองแสงได้ดี จึงเหมาะกับการติดตั้งให้กับบ้านทุกสไตล์

โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ กันสาดลอนเรียบ ให้ความรู้สึกโมเดิร์น และเรียบหรู เหมาะสำหรับบ้านสไตล์มินิมอล หรือโมเดิร์น และกันสาดลอนคลื่น ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติในรูปแบบกันสาด สำหรับบ้านทั่วไป 

1. ปริมาณแสงส่องผ่าน

การเลือกปริมาณแสงที่ส่องผ่านแผ่นหลังคา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กันสาดทำงานเห็นผลได้ดีขึ้น เนื่องจาก ทิศทางของแสงแดดในแต่ละช่วงเวลานั้นแตกต่างกัน โดยสามารถเลือกรูปแบบหลังคา 2 รูปแบบ เช่น

• กันสาดโปร่งแสง: เหมาะกับบ้านที่มีร่มเงาจากพื้นที่ข้างเคียงเยอะ แต่ยังต้องรับแสงธรรมชาติให้สมดุล

• กันสาดทึบแสง: เหมาะสำหรับการป้องกันแสงกระทบหน้าต่างตลอดทั้งวัน ซึ่งการยื่นกันสาดยาวมาก การก่อสร้างอาจทำได้ยาก

1. รูปแบบโครงสร้าง

สุดท้ายคือ การเลือกโครงสร้างกันสาด ซึ่งควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับโครงสร้างของบ้าน และน้ำหนักของแผ่นกันสาด โดยกันสาดสำหรับหน้าต่างส่วนใหญ่มักเลือกใช้ใน 3 รูปแบบ ได้แก่

• กันสาดแบบไร้เสา: เป็นรูปแบบที่ติดตั้งโดยไม่ใช้เสาค้ำยัน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความโปร่งโล่ง และไม่ต้องการให้มีเสามาขวางทางเดิน

• กันสาดแบบแขนค้ำ: ใช้แขนเหล็กหรือวัสดุแข็งแรงช่วยพยุงโครงสร้าง เหมาะสำหรับกันสาดที่ยื่นออกไปจากตัวอาคารในระยะปานกลาง

• กันสาดแบบแขนรั้ง: เป็นรูปแบบเดียวกับรูปแบบแขนค้ำ แต่ใช้แขนยึดจากผนังด้านบนมาช่วยรับน้ำหนัก เหมาะสำหรับกันสาดที่ต้องการยื่นออกไปมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.d-lite.co.th/