ที่ชื่อว่า
"แชร์วิธีฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง - Fernary" ซึ่งเฟิร์นเปิดเล่มนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าเฟิร์นอยากจะแชร์ประสบการณ์ตรงของเฟิร์นเอง
เพราะเฟิร์นเป็นคนที่ฝึกภาษาอังกฤษเองล้วน ๆ ตั้งแต่เริ่มเลย
ไม่เคยไปเรียนพิเศษที่ไหน ไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่เคยได้ไปเรียนต่อ
ฝึกเอาเองที่บ้าน ที่หอ ที่ไหนก็ได้ 55
จำได้ว่าเริ่มฝึกช่วงอายุ 17 ปี แล้วไม่ได้ใช้ภาษาเลยนะ
เพราะไม่มีคนให้ใช้ด้วย
แต่ก็ฝึกมาตลอดจนอายุ 18 มาเจอกับแฟน + คนข้างบ้านที่เป็นครูสอนภาษา
เขาก็บอกว่าภาษาเราโอเคเลยนะเนี่ย สื่อสารได้โอเคเลย
เราลองให้เพื่อนสนิทใช้วิธีเดียวกับเราดู
เพื่อนท็อปฟอร์มกว่าเพราะเพื่อนใช้เวลา 3 เดือนแล้วพูดได้ลื่นเลยจ้า
งงมาก พื้นฐานก็ไม่มี ไม่มีคนให้ฝึกด้วยด้วยนะ
เอ้า เล่ามายาวแล้ว ไปดูกันเลยว่าต้องเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองยังไงให้ได้ผล!
ฟังเยอะ ๆ ดูเยอะ ๆ ให้หูมันชิน
คือปัญหาแรก ๆ ของคนที่เริ่มฝึกเลยคือ "ฟังไม่ออก"
เขาพูดอะไรอ่ะ ฟังไม่ทัน
พูดเร็วขนาดนั้นใครจะไปฟังทัน!
อ่ะ ปัญหานี้ต้องใช้ความอดทนนะคะทุกคน
เฟิร์นเริ่มจากการแบบหา Youtube ดู หาช่องที่เราชอบอ่ะ
ผู้ชายช่องไหนหล่อก็ไปจ้า ไปโลด 555
ดูทุกวันจริง ๆ นะ ดูทุกคลิปเลย คลิปเก่าคลิปใหม่ดูหมด!
จากที่ฟังแล้วงงมาก ฟังไม่ออกสักนิด
วันนึง... ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น!
ฉันฟังทันแล้วโหวยยยย!!!
แล้วพอเราเริ่มฟังทันอ่ะ เราก็จะเริ่มชินกับการออกเสียงคำต่าง ๆ
ทีนี้แหละ จะพูดรัวแค่ไหนฉันก็สู้!
แนะนำช่อง Youtube สำหรับฝึกฟังภาษาอังกฤษ
แนะนำหนังฝึกภาษาอังกฤษ
อ่านวันละนิด ได้ศัพท์เป็นล้าน!
รู้หรือไม่ว่า ถ้าเรารู้จักศัพท์ประมาณ 1,000 คำ จะทำให้เราเริ่มสื่อสารภาษานั้น ๆ ได้!
ถ้ายังไม่รู้ก็รู้ซะ เพราะมันคือความจริง
เอาตรง ๆ ถ้าเราฟังไปเรื่อย ๆ สักวันนึงมันจะมีโมเม้นต์แบบว่า
"อ๋อ!!! คำนี้มันแปลว่าแบบนี้นี่เอง"
โดยที่เราไม่ต้องเปิดหาความหมายของคำนั้นเลย
เราจะเข้าใจได้โดยบริบทของการใช้งาน
แต่ถ้าใครอยากเป็นเร็วเป็นไว เฟิร์นแนะนำว่าให้เรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มไปด้วย
ตอนนั้นเฟิร์นใช้วิธีอ่านพวก Quotes หรือคำคม แล้วก็ได้ศัพท์จากตรงนั้นมาเยอะมาก
แล้วมันจำฝังหัวเลยนะ เพราะมันเป็นคำคมแบบความรักงี้ อกหักงี้
โอ้ย คุณพระ ใครจะจำไม่ได้คะ? อิอิ
ตัวอย่างศัพท์ที่เฟิร์นเรียนรู้จาก Quotes โดยใช้เว็บ weheartit.com
จาก Quote นี้เฟิร์นก็ได้รู้จักคำว่า ruin ที่แปลว่า "ทำลาย"
พอเอามาแปลแล้วก็หมายความว่า "อย่าทำลายมันด้วยการพยายามจะควบคุมมัน"
ทีนี้เวลาเจอคำว่า Ruin ที่ไหนอีก เราก็จะเริ่มเข้าใจบริบทแล้วว่ามันควรถูกใช้อย่างไร
แปลเพลงสากล (ถ้าขี้เกียจแปลก็แค่ฟังให้มากขึ้น)
หลาย ๆ คนอ่ะ อยากเก่งอิ๊งมากเวอร์ แต่ไม่เอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางภาษาอังกฤษแล้วถามหน่อยว่ามันจะเก่งได้ยังไง?
หัวข้อนี้ไม่ได้จะบอกทุกคนว่าต้องเลิก! หยุด! ฟังเพลงไทย
แต่กำลังจะบอกว่าวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เราคุ้นชิน รู้ศัพท์ และรู้ภาษาพูดนั่นคือเพลงนี่แหละ
ดังนั้นใครที่ฟังเพลงสากลบ่อย ๆ อยู่แล้ว เราอยากให้เพิ่มการฟังแล้วเอาเนื้อมาแปล
มาดูความหมายว่าเห้ย มันมีความหมายมากกว่าที่มันแปลตรง ๆ ได้ไหมนะ
หรือแบบ ลองออกเสียงตามเลย จะได้ออกเสียงถูกต้องตามหลักจริง ๆ
ส่วนใครที่ชอบฟังเพลงไทย เพลงเกาหลี เพลงประเทศอื่น ๆ ยืนหนึ่งมาเลยงี้
เราไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าอยากเก่งอิ๊ง ต้องฟังเพลงอิ๊งเพิ่มอีกนิด
ลองดู มันง่าย มันโดนใจ และมันช่วยได้จริง ๆ
วิธีเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง
หาเพื่อนคุยด้วยแบบมีสติ
เออเนี่ย คนเรา อยู่ไทยอ่ะ บ้านอยู่ลาดกระบัง จะไปหาคนต่างชาติที่ไหนมาคุยด้วย ถูกป้ะ?
นี่คือถามตัวเอง ณ ตอนที่เริ่มฝึกใหม่ ๆ นะ 555
แต่สิ่งที่ฉันทำได้เมื่อหลายปีก่อนคือเข้าเว็บแชท (สมัยนั้นยังไม่รู้จักแอปเลยค่ะคุณพี่ โลวเทคมาก)
เข้าไปล้ะก็แบบไปหาคนที่อายุวัยเดียว ๆ กัน แลกสไกป์คุยกันไรงี้
คือไม่ต้องไปถึงขั้นแบบวิดิโอคอลกันหรอกนะ
แค่มี ๆ ไว้ถามไถ่กันบ้างเป็นบ้างเวลาก็พอ
เหมือนแค่พอให้เราได้ใช้สมองฝึกคิดคำและประโยคเป็นภาษาอังกฤษอ่ะ
มันช่วยได้ แล้ววันนึงเราจะพูดภาษาอังกฤษคล่องมากแบบไม่ต้องคิดเลย
แต่คุยต้องมีสตินะจ๊ะ เอาวิดิโอนี้ไปดูเพื่อป้องกันตัวเองเด้อ
เอาเป็นว่าถ้าแค่เริ่มต้น เอาเท่านี้ไปทำให้ได้ก่อน
ใครอยากจะเริ่มจากหาเพื่อนคุยก็ย่อมได้นะ
ถ้าเจอคนดี ๆ เขาก็จะช่วยสอนเราเลยแหละ ว่าอันนี้ต้องพูดยังไง
ใครสะดวกเก็บศํพท์ก่อนก็แนะนำเลยจ้า ง่ายสุดคือไปหาแคปชั่นอิ๊งมาตั้ง
หามาแล้วแปลด้วยนะ ทำความเข้าใจด้วย แล้วเราจะรู้ศัพท์เยอะขึ้นมาก ๆ
วันนี้หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากบทความของเฟิร์นไปบ้างแหละเน้อ
ไม่รู้เขียนรู้เรื่องไหม 5555
ใครชอบก็อย่าลืมกดติดตามกันไว้นะคะ
จะได้อัปเดทวิธีฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองไปด้วยกันค่ะ!
วิทีที่อ่านเอาก็เหมือนกันได้คำศัพท์เยอะมากตอนแรกจะมีคำไม่รู้เต็มไปหมดแต่พอนานๆไปจะลดลงเอง
ส่วนการแปลเราเลือกมาจากการอ่านมังงะ นิยาย มังฮวา แล้วแปลเป็นวลีเหมือนได้ฝึกคิดไปอีกแบบ
ส่วนการพูดเราใช้วิธีการฝึกแบบอัดวิดีโอดูพัฒนาของตัวเองค่ะตอนแรกจะเขิลมากเพราะพูดคนเดียวแถมอยู่หน้ากล้องอีกแต่พอผ่านไปเป็นเดือนจะชินไปเอง
แนะนำให้ตั้งเป้าหมายเป็นเดือนเลยแล้วมาดูพัฒนาการของตัวเองจะได้ไม่ท้อไปก่อนแล้วค่อยขยายไปทีหลัง