Podcast ตอนนี้เล่าถึงเรื่องที่ย้อนกลับไปในช่วงปี 1944-1945 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เราคงเคยได้ยินเรื่องอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์และอื่นๆมาแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคน (รวมทั้งคนอเมริกันด้วย) ยังไม่รู้เรื่องนี้

นั่นคือเรื่องของบอลลูนมรณะ!

ในสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นใช้วิธีโจมตีอเมริกาหลายอย่างมาก รวมทั้งการปล่อยบอลลูนบรรทุกระเบิดด้วย เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อคนอเมริกันในหลายพื้นที่พบว่ามีระเบิดเกิดขึ้น (Podcast นี้เล่าเรื่องได้ดราม่าตื่นเต้นมากๆ) และมี 'ร่ม' (Parachute) หรือไม่ก็บอลลูนลอยหายไป ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร จนทางการสหรัฐฯ ต้องสืบค้นกันดูว่า บอลลูนบรรทุกระเบิดนี้มาจากไหน

เมื่อสืบร่องรอยต่างๆแล้ว ก็พบว่าเป็นบอลลูนที่มาจากญี่ปุ่น ดูจากกระแสลมแล้ว ต้องปล่อยออกมาจากชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะฮอนชูแน่ๆ วิธีการของญี่ปุ่นก็คือ ใช้กระแสลม Jet Stream (ที่ในสมัยนั้นยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ เป็นลมที่มีความเร็วสูง พัดอยู่ในระดับบน เข้าใจว่าคนไทยเรียกว่า 'ลมกรด') ปล่อยบอลลูนออกมาแล้วให้มันลอยไปตามกระแสลม Jet Stream ซึ่งจะใช้เวลาไม่นานนักก็จะมาถึงอเมริกา
ปัญหาของญี่ปุ่นก็คือ ตอนกลางคืนพออากาศเย็น บอลลูนจะลอยต่ำตกลงมา ญี่ปุ่นเลยแก้ปัญหาด้วยการบรรทุกถุงทรายเอาไว้ 30 กว่าถุง พอบอลลูนลอยต่ำลงมาปุ๊บ ก็จะมีกลไกตัดถุงทรายทิ้ง บอลลูนก็จะเบาลง แล้วลอยกลับขึ้นไปใหม่ ทำแบบนี้ประมาณ 30 กว่าครั้ง (หรือประมาณหนึ่งเดือน) บอลลูนก็จะไปถึงอเมริกาพอดี แล้วการตัดครั้งสุดท้ายนั้นไม่ได้ตัดถุงทรายทิ้งลงมา ทว่าเป็นการตัดระเบิด!

ที่น่าสนใจก็คือ อเมริกาตัดสินใจปิดข่าวเป็นความลับทั้งหมด อย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้คนแตกตื่น แต่อีกอย่างคือเพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นรู้ว่า ภารกิจนี้สำเร็จหรือไม่ จริงๆก็ไม่สำเร็จหรอกนะครับ เพราะบอลลูนมันก็ลอยไปแบบสุ่ม แทบทั้งหมดเลยไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้ ยกเว้นที่เมืองหนึ่งในโอเรกอน ที่มีผู้เสียชีวิต
แต่ที่น่าหวาดหวั่นใจยิ่งนักก็คือ ญี่ปุ่นปล่อยบอลลูนพวกนี้มาประมาณเก้าพันลูก ซึ่งมากมายมหาศาล คาดว่าน่าจะมาถึงไม่กี่ร้อยลูก แต่แค่นั้นก็มากพอแล้วนะครับ โดยเฉพาะกับระเบิดที่ตกลงมาแล้วไม่ระเบิด!

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยังมีการค้นพบระเบิดแบบนี้อยู่เลยครับ เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าบอลลูนลอยไปตกที่ไหนบ้าง มันจึงตกในป่าในเขาที่คนไม่พบเห็น แล้วถ้ามันไม่ระเบิดในตอนนั้น มันก็เหมือน 'กับระเบิด' ที่รอให้คนมาพบเท่านั้นเอง แล้วแม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้กันนะครับ ว่ามีระเบิดหลงเหลืออยู่อีกกี่ลูก
สงครามนั้นนอกจากจะแย่แล้ว ยังมีผลตกค้างยาวนานอีกต่างหาก