เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตexholic
ผ่าตัดครั้งแรก

  • จริงๆ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อม

    ไม่รู้ว่าเคสแบบเราเรียกว่ากระทันหันมั้ย แต่ในความรู้สึกมันก็เร็วเหมือนกัน

    ปลายเดือนที่แล้วไปตรวจสุขภาพทั่วๆ ไป แต่พอดีมีคูปองส่วนลดสำหรับคอร์สใหญ่ ก็เลยตรวจแบบค่อนข้างละเอียด มีอัลตราซาวด์ท้องด้วย ให้เลือกว่าจะตรวจท้องบนหรือท้องล่าง ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่ามันจะต่างกันยังไง (คือรู้ว่าในท้องมีอะไรอยู่ตรงไหน แต่ไม่รู้ว่าควรตรวจแบบไหน) พยาบาลเลยถามประวัติเพิ่ม แล้วบอกว่าอายุนี้ตรวจท้องล่างดีกว่า แล้วพออายุเลย 40 ค่อยตรวจท้องบน (ในกรณีที่สุขภาพปกติ แต่ถ้าตรวจเจอว่าภายในไม่ปกติก็ควรอัลตราซาวด์ท้องบนเพิ่ม) เราก็โอเค

    ตอนตรวจเลือด, x-ray ก็ปกติ แต่พอเข้าห้องอัลตราซาวด์ หมอดูตรงท้องแล้วอุทานอย่างดัง คือเราดูจอก็ไม่เข้าใจหรอก หมอบอกว่ามีก้อน แต่ให้ไปคุยกับหมอตอนสรุปผลอีกที
    .
    .
    .
    ก็รอต่อไปแบบไม่รู้ว่าเป็นอะไร

    พอไปฟังสรุป ส่วนใหญ่ก็ปกติหมด แต่มีแค่ที่ท้อง ที่ควรไปตรวจเพิ่มกับหมอสูติ จะได้รู้แบบละเอียดๆ ก็เลยส่งตัวไปอีกแผนก
    .
    .
    .
    พอมาแผนกสูติ หมอก็ถามประวัติอีกที แล้วก็ไปเปลี่ยนผ้าถุง ถ่ายให้เรียบร้อยแล้วมาขึ้นเตียงตรวจ จุดนี้บอกเลยว่ากลัวมากกกกก เพราะจะเอากล้องแหย่ก้น (꒪⌓꒪) (꒪⌓꒪) (꒪⌓꒪) สตั้นท์ไปหลายวิ ตอนแรกก็ส่องทางหน้าม้องก่อนแหละ แต่มันวีดขนาดไม่ชัด พุงมันหนา ถ้าจะเอาชัวร์ๆ ก็ต้องส่องทางก้นนี่แหละ (จริงๆให้เลือกระหว่างก้นหรือจิมิด้วยนะ แหม่ =͟͟͞͞( •̀д•́))) พอวัดขนาดและดูหน้าตามันแล้ว ก็ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ควรตัดออกด่วนมเพราะใหญ่มาก ... จุดนี้อยากเข้าข้างตัวเองว่าที่พุงใหญ่ไม่ใช่เพราะอ้วนนะ เพราะก้อนนี้ตังหาก (ღˇ◡ˇ)

    แล้วหมอถามว่ามีประกันสัวคมมั้ย แนะให้ไปทำที่ประกันสังคมดีกว่า .... ตรงนี้เราว่สเค้าก็ดีที่แนะนำให้ เพราะถ้าผ่าที่นี่ รพ เอกชน อาจจะเหยียบแสนแหงๆ

    วันถัดมา ไปที่ รพ. ประกันสังคม แต่ว่าหมอที่จะตรวจอันนี้ไม่อยู่ เข้ามาแค่สัปดาห์ละวัน ก็เลยนัดจองคิวเอาไว้

    พอถึงวันนัดหมอ ก็เอาผลอัลตราซาวด์และผลตรวจสุขภาพไปด้วยหมอก็ดูแค่อัลตราซาวด์ ไม่ต้องแหย่ก้นแล้ว แหะๆ อุตส่าห์ส่าเตรียมใส่กระโปรงมาเลยนะ เราก็เล่าความจำเป็นที่อยากรีบผ่าเพราะเรื่องงาน แต่ดูตารางแล้วต้องรอ 4 สัปดาห์ เราก็โอเค ช่วยไม่ได้เพราะเป็นประกันสังคมอะเนาะ ก็ต้องรอคิว แต่พอเชคอีกที มีคนแคนเซิลตอนสัปดาห์ที่2 เราก็เลยได้แทรก
    .
    .
    .
    เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
    หลักๆ ก็ต้องกินอาหารอ่อน ในใบที่แจกบอกแค่ 1 วันก่อนผ่า ตอนเช้ากินอาหารอ่อน พวกข้าวต้ม ตอนเย็นกินแต่ซุป งดน้ำหลังเที่ยงคืน

    แต่เราก็เตรียมกินอ่อนๆ ทั้ง 2 สัปดาห์เลย (มีหลุดไปกินเนื้อย่างมา2วัน แต่ก่อนวันผ่านานอยู่ 555 คงไม่เป็นไร) ก็เน้นกินผักๆ กินโยเกิร์ต แอปเปิลไซเดอร์ ให้ถ่ายเยอะๆ แล้ววันก่อนผ่า ดันตื่นซะเย็น ก็เลยกินแค่มื้อเดียว ตอนแรกว่าจะกินน้ำๆแหละ แต่แม่ซื้อของทอดกินกลับมา............. แล้วเราก็กิน (꒪⌓꒪)

    อีกอย่างที่ต้องระวัง ถ้ามีกินยาประจำอยู่ก่อนผ่าตัด ต้องเอายาไปปรึกษาหมอก่อน ของเราต้องหยุดกินยาประเภทละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 1สัปดาห์ เพราะมันจะทำให้เลือดไม่หยุดไหล

    มีหาเรื่องผ่าตัดส่องกล้องมาอ่านอยู่บ้าง ในพันทิปก็มีแต่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เหมือนมาเขียนเม้าๆกัน แต่ไม่รู้ procedures ว่าจะเป็นยังไงแต่ก็โอเค เค้าว่าแผลเล็ก ไม่เจ็บมาก หายเร็ว ก็ไม่ค่อยกังวล

    พอถึงวันผ่า คิวเราเป็นผ่าคิวสุดท้าย แต่พยาบาลนัดมาตั้งแต่ 9โมงเช้า ก็มานอนเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ สวนก้นและช่องคลอด แล้วก็นอนรอผ่า ตอนนี้ก็ยังชิวๆ เหมือนว่าอ่านมาหมดแล้วว่ามันจะเป็นยังไง แต่พอเค้าเข็นเตียงไปในห้องผ่าตัด คือแสบตามาก หมอดมยาดูใจดี แต่ความเจ็บไม่ใจดีเลย

    ย้ายจากเตียงนอนไปเตียงผ่าตัด ความกว้างแค่พอดีตัว แล้วมีที่พาดแขนต่อออกมา เหมือนเป็นรูปไม้กางเขน ข้างนึงวัดความดัน อีกข้างวัดชีพจร(มั้ง) แบบเป็นตัวหนีบที่ปลายนิ้ว แปะที่วัดคลื่นหัวใจตามตัว มัดขาไว้กับเตียง .... นี่ยังไม่เจ็บ ของจริงมันต่อจากนี้.....

    หมอดมยาก็ดึงสายน้ำเกลือออก แล้วฉีดยาสลบเข้าไปในเส้นแทน จุดนี้คือเจ็บมากกกก ยาผ่านจากเข็มเข้าหลังมือ รู้สึกได้เลยว่าไหลไปตามแขนแล้วลงขา แสบแบบอยากร้องแต่ร้องไม่ออก ขาขยับไม่ได้แต่เจ็บมากจนปวดหัว แล้วเอาที่คอบ(?) มาใส่ให้หายใจ ตอนนั้นคือร้องอยู่ในหัว oh my godๆๆๆๆๆๆๆ ชุนช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆ ทั้งหมดนี่น่าจะไม่เกิน 1 นาที แล้วก็หลับไป

    มาตื่นอีกทีตอนพยาบาลตะโกนเรียกว่าเสร็จแล้ว ตื่นมาแล้วก็ยังขยับไม่ได้ แต่ปวดฉี่มาก บอกพยาบาลว่าปวดฉี่แบบไม่มีเสียง พยาบาบอกให้ฉี่ไปเลย (꒪⌓꒪) ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเสียบถุงฉี่อยู่ แล้วก็เจ็บคอมากกกกก กลืนน้ำลายไม่ได้ ริมฝีปากแห้ง หายใจลำบาก แต่นรกสุดคือในห้องนั้นมีเด็กอยู่ แล้วหนวกหูมาก คงเป็นลูกของพยาบาล วิ่งไปวิ่งมา คือแบบ..... อยากด่าง่ะ เจ็บก็เจ็บ รำคาญก็รำคาญ แต่ต้องนอนอยู่อย่างงั้น

    พอได้เวลาก็เข็นกลับมาที่ห้องพัก แล้วมันต้องย้ายจากเตียงนั้นมาเตียงนอน พยาบาลก็ถามว่า "ขยับเองไหวมั้ยคะ" ห๊ะ!?!??? จุดนี้คือเริ่มโกรธ ต่อจากเรื่องรำคาญเมื่อกี้ คือแบบ อะไรทำให้คิดว่าเราจะขยับย้ายเตียงเองได้หรอ? แล้วก็ยังต้องงดน้ำ-อาหารต่ออีก จนกว่าจะ.... ผายลม ꒰๑•ૅૄ•๑꒱


    นอนพักวันที่1
    จริงๆ ก็หลับๆ ตื่นๆ ตลอดเพราะเจ็บแผล และขยับไม่ได้ จนสายๆ หมอเข้ามาดูอาการ ตอนดูเตียงข้างๆ ก็บอกเค้าว่า อย่าเพิ่งมีเซ็กส์ 2 เดือน แต่พอมาเตียงเราเค้าไม่พูด พยาบาลก็ถาม หมอเลยพูดอย่างชัดเจนว่า... อ๋อเค้าโสดดดดดด (ขอใส่ขนาดฟ้อนท์ head1 ด้วยค่ะ!!!) (。ŏ﹏ŏ)

    แล้วก็บอกว่ามื้อเที่ยงนี้ให้กินได้ เริ่มจากเป็นอาหารเหลวก่อน ก็มาเป็น น้ำแดง(เย็น), น้ำต้มมะระกระดูก็หมู(ร้อน), น้ำตะไคร้ปั่นใส่ข้าว(มั้ง? อุณหภูมิห้อง) หวานๆ เค็มๆ แปลกๆ เลยไม่กิน กินแค่น้ำแดงกับน้ำแกง

    ตอนบ่ายมาเป็น ข้าวต้ม ไก่สับผัดซีอิ๊ว ผัดคะน้า อันนี้ก็กินไม่หมด คะน้าแก่มาก น่าจะเป็นคะย่าคะยายได้แล้ว (。ŏ﹏ŏ)

    ทั้งวันก็แค่กินๆ นอนๆ ลุกเองยังไม่ค่อยไหว งอตัวไม่ได้ ช่วงบ่ายได้ถอดสายน้ำเกลือออกแล้ว แต่เหลือเข็มเสียบไว้อยู่ เอาไว้ฉีดยา มียาฆ่าเชื้อแสบๆ ขมๆ คอ วันละ 2 ครั้ง ให้ทีก็ปวดแขนที บางทีก็ปวดถึงคอ


    อาหารหลังผ่าตัด
    เท่าที่อ่านมาคือก็กินได้หมด ยกเว้นไข่ที่จะทำให้แผลปูด ถ้าพวกเนื้อสัตว์ก็ทำให้มันนิ่มๆ เปื่อยๆ เน้นปลา ขิง วิตตามินบี,ซี


    ใช้ประกันสังคม ผ่าตัดฟรี ห้องพักรวมฟรี แต่ถ้าอยากอยู่ห้องเดี่ยวต้องจ่ายเอง

    จ่ายค่าประกันสังคมมาหลายปี ใช้ทีเดียวคุ้มเลย (≧∇≦) แต่แค่ทีเดียวก็พอเถอะนะ เจ็บขนาดเน้


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Is Mie (@fb1941084252575)
ขอถามหน่อยค่ะ ประกันสังคมของหนู ได้จ่ายค่าส่องกล้องเพิ่มเองอ่ะค่ะ ของคุณ รพ. อะไรหรอคะ